การบินไทย ลั่น พ.ย. ประกาศ ผู้ชนะร่วมทุนศูนย์ซ่อมเครื่องบินอู่ตะเภา ชงครม.ขอบงบสร้างโรงซ่อม 6,332 ล้านบาท ตั้งเป้าเปิดบริการปี 2565 โกยรายได้ปีละ 500 ล้านบาท คาด 11 ปีคุ้มทุน

นายสุรชัย เพียรเจริญศักดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาหรือเอ็มอาร์โอในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ว่า ขณะนี้การบินไทยอยู่ระหว่างเตรียมลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกับกองทัพเรือ เพื่อขอสิทธ์การเข้าใช้พื้นภายในท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เพื่อก่อสร้างเป็นโรงซ่อมบำรุงอากาศยาน
โดยหลังจากลงนามแล้วการบินไทยจะเสนอให้ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาอนุมัติโครงการ จากนั้นจะเสนอเรื่องให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติจัดสรรงบประมาณสำหรับการลงทุนระยะที่1 วงเงิน 6,332 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้ในการก่อสร้างโรงซ่อมบำรุง ส่วนงบประมาณการจัดซื้ออุปกรณ์การซ่อมบำรุง ราว4,000 ล้านบาทนั้น การบินไทยจะลงทุนเอง2,000 ล้านบาท อีก 2,000 ล้านบาท ที่เหลือเอกชนที่ได้รับการคัดเลือกให้ร่วมทุนจะเป็นผู้ลงทุน

ส่วนการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนนั้น จะใช้รูปแบบ PPP EEC Track ไม่มีการเปิดประมูล แต่จะใช้รูปแบบการเจรจาเพื่อคัดเลือกผู้ร่วมทุนเพียง1 รายให้เข้าร่วมทุน ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่คัดเลือกแล้วโดยอยู่ระหว่างหารือกับเอกชนราว 2 ราย ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่อุตสาหกรรมผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่ คาดว่าจะสามารถคัดเลือกเอกชนที่ร่วมทุนได้ภายในเดือนเดือนพ.ย. และลงนามในสัญญาในเดือน ธ.ค.นี้ ตั้งเป้าเปิดให้บริการปี 2565

นายสุรชัยกล่าวว่าโรงซ่อมบำรุงอากาศยานจะเป็นโรงซ่อมขนาดใหญ่บนพื้นที่ 210 ไร่ รองรับเครื่องบินได้ 80-100 ลำต่อปี ซ่อมได้ทั้งงานซ่อมลานจอด และโรงซ่อม รองรับเครื่องบินทุกประเภททั้งโบอิ้งและแอร์บ้ส โดยการเปิดให้บริการช่วงแรกคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 10 ลำ/ปี มีรายได้ปีละ 400-500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ปีละ3,000 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดเอเชียที่ปัจจุบันมีการเร่งสั่งซื้อเครื่องบินจำนวนมาก เติบโตเฉลี่ยปีละ5%

“ลูกค้าหลักขอเราคือตลาดเอเชีย โดยเฉพาะเวียดนามเพราะตอนนี้ซื้อสั่งซื้อเครื่องบินจำนวนมาก ขณะที่ญี่ปุ่นค่าแรงแพงคงต้องหันมาซ่อมที่ไทย ช่วงแรกอาจจจะมีรายได้เริ่มต้นจากปีละ400-500 ล้านบาท ตั้งเป้า เติบโตได้ปีละ2% ตลอดอายุโครงการ 50ปี โดยเมื่อครบ50ปี คาดมีรายได้รวมทั้งสิ้น 2แสนล้านบาท และคาดว่าโครงการจะคุ้มทุนภายใน11ปีหลังจากเปิดให้บริการ ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน