ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ โปรดักส์ยอดฮิตในโครงการกองทุนประชารัฐ
เป็นโครงการตัวอย่างในกองทุนหมู่บ้านที่นิยมเอาไปดำเนินการในชุมชนกันอย่างมากมาย จนมีหลายคนเรียกกันว่า ตู้น้ำมันหยอดเหรียญประชารัฐ เพราะเหตุใดจึงเกิดประกฏการณ์ในการทำโครงการที่คล้ายๆ กัน
น้ำมัน คือเชื้อเพลิงพื้นฐานที่เป็นต้นกำเนิดของพลังงานให้กับเครื่องยนต์ เช่นรถมอเตอร์ไซค์, เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้น้ำมัน, รถไถนา หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องใช้น้ำมัน เช่นเครื่องตัดหญ้า ฯลฯ การจัดหาน้ำมันเพื่อมาขับเคลื่อนเครื่องยนต์ต่างๆ ในชุมชนส่วนมากจะมีความยากลำบากไม่เท่ากัน ชุมชนไหนอยู่ใกล้ปั๊มน้ำมันก็จะมีความโชคดีหน่อยที่ไม่ต้องไปซื้อหาไกลๆ แต่ชุมชนไหนห่างปั๊มน้ำมันก็จะต้องออกไปหาซื้อน้ำมันไกลขึ้น เท่าที่ระยะห่างจากชุมชนกับสถานีบริการน้ำมันนั้นๆ ตั้งอยู่ ซึ่งเมื่อปัญหาของระยะทางเป็นตัวกำหนด เวลาจะซื้อน้ำมันในแต่ละครั้งก็จำเป็นต้องซื้อเป็นจำนวนมาก หรือต้องเอาแกลลอนไปซื้อตุนไว้ใช้อีกส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทางมาหาซื้อน้ำมันอยู่บ่อยๆ
การตั้งสถานีบริการน้ำมันไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ในปัจจุบันทำได้ยากกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะจำเป็นต้องทำตามกำหนดกฎเกณฑ์ของกฎหมายที่กำหนดไว้ อย่างเช่นในเรื่องของระยะห่างจากโรงเรียน, การยินยอมของเจ้าของที่หรือบ้านเรือนใกล้เคียง เป็นต้น ซึ่งอย่างหลังนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ใครจะยินยอมให้มาตั้งปั๊มน้ำมันใกล้ๆ บ้านตัวเอง
ทำให้ปั๊มน้ำมันไม่สามารถที่จะเพิ่มจำนวนได้ง่าย นอกเสียจากว่าจะมีการขออนุญาตกันไว้เมื่อนานมาแล้ว หรืออีกวิธีหนึ่งนั่นก็คือการเข้าไปเทคโอเว่อร์สถานที่ประกอบการปั๊มน้ำมันเดิมที่มีทีท่าจะไม่ดำเนินการต่อ พร้อมทั้งใบอนุญาต เราจึงมักเห็นปั๊มน้ำมันเก่าที่เคยมีอยู่เดิมนั้นกลับมีการปรับปรุงสถานีกันขนานใหญ่ เป็นสถานีบริการที่ทันสมัย โดยเฉพาะปั๊มโทนสีน้ำเงินที่เรารู้จักกันดี
ในเมื่อการตั้งปั๊มหรือสถานีบริการขนาดมาตรฐานทำได้ยาก ซึ่งสวนทางกับความต้องการใช้น้ำมันที่ยังคงมีอยู่อย่างมาก จึงเป็นช่องทางของตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ซึ่งไม่เข้าข่ายสถานีบริการน้ำมัน ในส่วนนี้วัดกันที่การเก็บกักตุนเพื่อการจัดจำหน่าย และข้อกำหนดเรื่องของสถานที่ตั้ง ทำให้ใครๆ ทีพอมีทุนไม่ต้องมากมายก็สามารถจะสร้างจุดบริการ หรือขายน้ำมันได้
ตู้น้ำมันหยอดเหรียญตอบโจทย์ความต้องการของชุมชน
เมื่อมีตู้น้ำมันในชุมชนไว้คอยบริการผู้คนในระแวกนั้นๆ ความสะดวกในการหาซื้อน้ำมันเพื่อใช้สำหรับมอเตอร์ไซค์, เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ก็เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่ต้องขับรถไปซื้อหาน้ำมันในที่ไกลๆ และที่สำคัญทะยอยซื้อใช้ก็ได้ไม่ต้องเอาเงินไปจมเพื่อตุนน้ำมันใส่แกลลอนไว้ที่บ้าน
พอมาถึงช่วงเวลาที่รัฐบาลมีงบสนับสนุนที่ผ่านมาในรูปของกองทุนหมู่บ้าน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของชุมชน โครงการที่มุ่งเน้นศักยภาพเพื่อให้มีรายได้งอกเงยและมีการหมุนเวียนเงินตรา ทำให้ในหลายๆ พื้นที่นิยมเอาตู้น้ำมันหยอดเหรียญนี้มาอยู่ในโครงการที่ดำเนินการ เพราะนอกจากจะอำนวยความสะดวกในคนในชุมชนแล้ว ยังเกิดกำไร หรือรายได้เข้าสู่โครงการอีกด้วย และที่สำคัญการขายน้ำมันในลักษณะนี้ไม่ต้องใช้คนมาคอยบริการ เพราะการใช้งานเกิดจากคนที่มีซื้อน้ำมันผ่านตู้นี้ต้องทำด้วยตัวเอง
ตู้น้ำมันหยอดเหรียญที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ต้องผ่านการอนุญาตจากกรมธุรกิจพลังงาน ซึ่งจะออกใบอนุญาตให้กับบริษัท หรือโรงงานผู้ผลิตที่มีการตรวจสอบมาตรฐานตามที่กำหนดโดยเฉพาะในเรื่อง อุปกรณ์ที่ใช้ภายในเช่นตัวปั๊มดูดน้ำมัน, โฟลมิเตอร์(อุปกรณ์ตรวจวัดจำนวนน้ำมันที่จ่ายออกไป) เป็นต้น และยังต้องผ่านการตรวจสอบจาก สำนักงานช่างตวงวัด ซึ่งเมื่อตรวจผ่านแล้วจะมีตราประทับไว้ และยึดซีลในจุดสำคัญๆ ไว้ หากผิดจากนี้ผู้ซื้อย่อมเสี่ยงต่อเครื่องหรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของ หรือแม้แต่ลูกค้าที่มาใช้บริการเติมน้ำมัน
การใช้งานตู้เติมน้ำมันของคนทั่วไป
ในบ้านเราการเติมน้ำมันส่วนใหญ่จะใช้พนักงานของปั๊ม หรือที่เรียกว่าเด็กปั๊มเป็นหลักในการให้บริการ แต่ในระบบตู้น้ำมันหยอดเหรียญนี้จะเป็นการใช้บริการด้วยตนเอง ซึ่งคล้ายๆ กับการเติมน้ำมันของต่างประเทศอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ใช้งานตู้ฯนี้ก็ไม่ได้ยากเลย เพียงแค่ในระยะแรกๆ มีคนคอยแนะนำการใช้งานอยู่กับตู้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เพื่อให้คนที่มาใช้บริการเกิดความคุ้นเคย พอชาวบ้านเริ่มจะทำเป็นและชินแล้ว ต่อไปเขาก็จะมาใช้บริการตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ณ จุดที่ติดตั้งตู้เอง
รายได้จากตู้น้ำมันหยอดเหรียญ
ง่ายๆ เลยก็คือ มีกำไรที่เกิดขึ้นจากส่วนต่างในการซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงมาขายนั่นเอง เช่นราคาน้ำมันชนิด A มีราคาขาย(ที่ปั๊มน้ำมันมาตรฐาน)ต่อลิตรอยู่ที่ 25 บาท ก็สามารถบวกกำไรไปอีก 5 บาท เป็น 30 บาท ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการเติมน้ำมันที่ตู้นั้น เข้าใจดีถึงความแตกต่างทางด้านราคาที่เพิ่มขึ้น เพราะเป็นกำไรที่เกิดจากการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ที่ไม่ต้องขับรถไปเติมน้ำมันยังปั๊มน้ำมันที่อาจจะอยู่ห่างจากจุดตั้งตู้น้ำมันหยอดเหรียญมาก ซึ่งในหลายสถานที่ใกล้ไกลต่างกันมาก อาจมีช่วงระยะทางถึง 5-20 กิโลเมตร ซึ่งการขับรถไปเติมนั้นไม่คุ้มทั้งค่าใช้หรือค่าน้ำมัน และเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน ตลอดจนการกักเก็บน้ำมันสำรองเองไว้ที่บ้านของแต่ละคนที่มีรถอยู่ไกลก็มักไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไร และน้อยคนนักที่จะเก็บน้ำมันสำรองไว้ภายในบ้านตัวเอง
ขายน้ำมันเชื้อเพลิงต้องทำให้ถูกต้อง
ถึงแม้ว่าจะมีกฎหมายในการควบคุมการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ แต่การจำหน่ายในส่วนแบบรายย่อยเล็กๆ แบบนี้ก็ยังสามารถทำได้ เพราะเป็นการกักเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงแบบไม่เกินกำหนด ที่คนทั่วไปสามารถจะกระทำได้ แต่ก่อนการขายน้ำมันแบบนี้ก็ควรทำตามขั้นตอนที่อยู่ให้ถูกต้อง เช่นการยื่นขอตั้งวางตู้น้ำมันหยอดเหรียญกับหน่วยงานราชการท้องถิ่นที่ตู้นั้นๆ ตั้งอยู่ ซึ่งอาจจะเป็น หน่วยงานเทศบาล หรือ องค์การบริหารส่วนตำบล (อ.บ.ต.) ที่ดูแลท้องที่นั้นๆ จะเป็นการยื่นเสียภาษีต่อปีอย่างถูกต้อง และต้องไปยื่นเรื่อง สำนักงานพลังงานจังหวัด อีกแห่งหนึ่ง ก็เป็นอันว่าทำถูกต้องตามระเบียบปฎิบัติแล้ว
สรุปความคุ้มค่า หรือการหาจุดคุ้มทุนในการลงทุนกับตู้น้ำมันหยอดเหรียญ
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในการมีสถานีบริการน้ำมันส่วนตัวขนาดเล็ก หรือทำในโครงการของชุมชนก็ตาม ผู้ที่คิดที่จะลงทุนย่อมมีความกังวลเกี่ยวกับจุดคุ้มทุน เพราะแน่นอนว่าตู้น้ำมันหยอดเหรียญนี้ มีราคาค่าตัวที่ค่อนข้างสูง หากเทียบกับตัวเม็ดเงินที่จะแปรเปลี่ยนมาเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้ที่ค่อยๆ ไหลกลับคืนมา จุดคุ้มทุนของแต่ละคนไม่อาจจะเหมือนกัน เนื่องจากมีตัวแปรหลายๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ทำเล, จำนวนผู้มาใช้งาน, ความต่อเนื่องในการเปิดให้บริการ และการตั้งราคาขายต่อลิตร
ในหลายๆ พื้นที่มีอัตราผู้มาใช้บริการเยอะ และต่อเนื่อง การคืนทุนย่อมเร็วกว่าแน่นอน ในทางตรงกันข้ามหากมีผู้มาใช้บริการน้อย หรือทำเลอาจจะไม่ดีนัก การคืนทุนย่อมไปแบบเรื่อยๆ ทำเลที่ดีกว่านั้นคืออาจจะมีความห่างจากปั๊มน้ำมันทั่วๆ ไป ที่คาดว่าคนที่มีรถ หรือมอเตอร์ไซค์ไปเติมที่ปั๊มลำบาก ด้วยเหตุที่ระยะห่างมาก การตัดสินใจมาใช้บริการมีให้เห็นได้อย่างชัดเจนแน่นอน และการตั้งราคาบวกเข้าไปตามสมควร มีเหตุมีผลที่ยอมรับได้ (อย่างเช่นเพิ่มขึ้นลิตรละ 5 บาท) ความรู้สึกของผู้มาใช้บริการย่อมเป็นไปในทางบวกอย่างแน่นอน และจะมีการบอกกล่าวกันแบบปากต่อปากให้มาคอยให้บริการอีกด้วย
สำหรับกองทุนหมู่บ้านในปี 61 นี้ ขอแนะนำ ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ สามเครื่อง + น้ำมัน 600 ลิตร + โครงสร้าง + ระบบไฟฟ้า + การขออนุญาตแอดไลน์ไอดีหรือ สแกนคิวอาร์โค๊ดมาคุยกันก่อนได้เลย
สนใจตู้น้ำน้ำมันหยอดเหรียญแบบลงทุนส่วนตัวก็ สามารถแอดไลน์เข้ามาสอบถามกันได้ตลอดเวลา หรือโทร 095-592-8192 หรือทักทายเพื่อสอบถามผ่าน Line id: @ideas หลังจากมีข้อความตอบรับอัตโนมัติก็ แจ้งความประสงค์หรือสอบถามได้เลยครับ หรือขอใบเสนอราคา(มีลิงค์ให้ดาวน์โหลดใบเสนอราคา)
