เนื้อหาของบทความ
การเลือก โช้คอัพรถยนต์ ที่เหมาะกับคุณเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อคุณมีรถยนต์ที่มีโช้คอัพที่ดี ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจในการขับขี่ แต่ยังมีผลกับความปลอดภัยของคุณและผู้โดยสารด้วย ในบทความนี้เราจะสำรวจถึงความสำคัญของโช้คอัพรถยนต์ การเลือกโช้คอัพรถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน และการแก้ปัญหาโช้คตายหรือโช้คแข็ง รวมไว้ในบทความนี้แล้ว
โช้คอัพรถยนต์ สำคัญอย่างไร?
โช้คอัพรถยนต์ (Shock Absorber) เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยระบายแรงกระแทกและสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นขณะขับขี่ ระบบนี้มีหน้าที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยของคุณและผู้โดยสาร โช้คอัพรถยนต์ที่มีคุณภาพดีจะช่วยลดแรงกระแทกที่รถยนต์จะต้องรับผิดชอบอยู่ เมื่อมีการเติมโช้คอัพรถยนต์เพิ่มเข้าไปในรถยนต์ของคุณ คุณจะสัมผัสถึงความเรียบร้อยและความนุ่มนวลของการขับขี่ ทั้งนี้การติดตั้งโช้คอัพรถยนต์เป็นกระบวนการที่สำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพของรถยนต์ โดยการเปลี่ยนโช้คอัพรถยนต์เดิมด้วยโช้คอัพรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงจะช่วยลดการสั่นสะเทือนของรถยนต์และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ นอกจากนี้การติดตั้งโช้คอัพรถยนต์ที่เหมาะสมยังช่วยป้องกันการสึกหรอและเสียงดังขณะขับขี่ การเลือกโช้คอัพรถยนต์ที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะมีผลต่อประสิทธิภาพของรถยนต์และความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนั้น ควรเลือกซื้อโช้คอัพรถยนต์จากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพที่ดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการปรับปรุงรถยนต์ของคุณ
โช้คอัพรถยนต์ มีกี่ประเภท
โช้คอัพรถยนต์จะสามารถแบ่งออกได้ทั้งตามคุณสมบัติการทำงานและตามโครงสร้างของกระบอก ก่อนอื่นเราจะมาอธิบายเกี่ยวกับโช๊คอัพรถยนต์ แบ่งตามคุณสมบัติการทำงานได้ 2 ประเภทดังนี้
1.โช้คอัพรถยนต์แบ่งตามการใช้งาน
1.1 โช๊คอัพรถยนต์ระบบน้ำมัน
โช๊คอัพระบบน้ำมัน คือโช๊คอัพที่ทำงานด้วยระบบไฮดรอลิค หลักการทำงานของโช้คอัพระบบน้ำมัน ในขณะที่โช๊คอัพกำลังทำงานอยู่ น้ำมันไฮดรอลิคจะไหลผ่านวาล์วภายในลูกสูบ ทำให้เกิดฟองอากาศภายใน เมื่อฟองอากาศแตก จะทำให้เกิดการทำงานของโช๊คอัพผิดปกติ ทำให้รถยนต์เสียการทรงตัวในจังหวะที่ใช้ความเร็วสูงได้
1.2 โช๊คอัพรถยนต์ระบบแก๊ส
โช๊คอัพระบบแก๊ส เป็นโช๊คอัพรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมาก หลักการทำงานของโช้คอัพรถยนต์ระบบแก๊ส แก๊สไนโตรเจนและน้ำมันไฮดรอลิคจะทำงานร่วมกัน เมื่อโช๊คอัพทำงาน ลูกสูบจะเลื่อนตัวลงไปยังด้านล่างของกระบอกสูบ และไหลขึ้นผ่านวาวล์ไปยังห้องน้ำมันด้านบน ในขณะที่น้ำมันอีกส่วนหนึ่ง จะไหลลงด้านล่างเพื่อไปพักตัวอยู่ในห้องน้ำมันสำรอง หลังจากนั้นแก๊สไนโตรเจนก็จะเกิดการอัดตัว ทำให้มีแรงดันในการอัดน้ำมันไฮดรอลิคกลับไปยังกระบอกลูกสูบ โดยสามารถแบ่งประเภทของโช๊คอัพระบบแก๊สออกได้เป็นอีก 2 ชนิด ดังนี้
- โช๊คอัพแก๊สแรงดันต่ำ สามารถอัดแรงดันไว้ได้ประมาณ 10-15 กก./ตร.ซม
- โช๊คอัพแก๊สแรงดันสูง สามารถอัดแรงดันไว้ได้ประมาณ 20-30 กก./ตร.ซม
2.โช้คอัพรถยนต์แบ่งตามโครงสร้างของกระบอก
1.1 โช้คอัพกระบอกเดี่ยวหรือ Mono Tube
โช้คอัพกระบอกเดี่ยว มีการทำงานโดยใช้น้ำมันและแก๊สเพื่อสร้างแรงดันในห้องน้ำมันและห้องแก๊ส โดยการทำงานของวาล์วลูกสูบและการทำงานอื่น ๆ จะอยู่ในกระบอกเดียวกัน ห้องน้ำมันและห้องแก๊สจะแยกกันโดยลูกสูบ โดยห้องน้ำมันจะอยู่ด้านบน ส่วนห้องแก๊สจะอยู่ด้านล่าง เมื่อโช้คอัพยุบตัวลง ลูกสูบจะดันน้ำมันลงมาและเกิดแรงดันจากตัวห้องแก๊สที่อยู่ด้านล่าง หากเกิดแรงดันมากเกินไปในห้องแก๊สด้านล่าง แรงดันนั้นจะดันลูกสูบให้กลับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งเดิม เพื่อสร้างแรงหนืดให้กับรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ โช้คอัพรถยนต์กระบอกเดี่ยว มีความสามารถในการระบายความร้อนจากภายในตัวโช้คได้ดีกว่า เนื่องจากมีกระบอกเพียงชั้นเดียว ซึ่งสามารถสร้างแรงหนืดได้เสถียรกว่าและสามารถใช้งานได้ดีกับรถที่ใช้งานหนักและต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม โช้คอัพประเภทนี้ อาจมีความกระด้างบ้าง เนื่องจากแรงดันแก๊สภายในกระบอกค่อนข้างสูง และอาจเกิดความเสียหายจากภายนอกได้ง่าย เนื่องจากเป็นโครงสร้างชั้นเดียว ดังนั้น โช้คอัพประเภทนี้เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ต้องการเน้นสมรรถนะใช้ความเร็วในการขับขี่ และต้องการการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานที่มีน้ำหนักหรือการใช้งานต่อเนื่อง
1.2 โช้คอัพกระบอกคู่ (Twin Tube) ประกอบด้วยกระบอก 2 ชั้นซ้อนกัน ซึ่งห้องด้านในจะเป็นตัวลูกสูบที่มีน้ำมันบรรจุอยู่ภายใน ส่วนห้องด้านนอกจะบรรจุด้วยแก๊สไนโตรเจน ลูกสูบจะเคลื่อนที่ขึ้น-ลงภายในกระบอกสูบชั้นในเท่านั้น เมื่อโช้คอัพเคลื่อนที่ขึ้นลงตามการเคลื่อนที่ของล้อลูกสูบจะดันน้ำมันโช้คขึ้นลงมาไหลผ่านทางเบสวาล์ว เข้าออกไปห้องแก๊สด้านนอก จึงเกิดเป็นความหนืดเพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของรถยนต์
โช้คอัพกระบอกคู่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ดีกว่าแบบเดี่ยว และมีราคาถูกกว่า แต่ด้วยโครงสร้างของกระบอกคู่ ที่แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ทำให้น้ำมันไฮโดรลิคภายในเกิดฟองได้ง่าย และเมื่อเต็มไปด้วยฟองอากาศจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง โช้คอัพรถยนต์แบบกระบอกคู่ จึงเหมาะสำหรับการใช้รถขับขี่ภายในเมืองทั่วไป
สัญญาณโช้คอัพรถยนต์เสีย ถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่?
โดยปกติแล้วอายุการใช้งานของโช้คอัพรถยนต์ จะอยู่ประมาณ 50,000 – 100,000 กิโลเมตร แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วง 30,000 กิโลเมตร หรือคุณซื้อรถมือสองมาใช้ ควรจะมีการตรวจเช็คโช้คอัพรถยนต์เป็นประจำ เพราะโช้คอัพรถยนต์ จะต้องแบกรับน้ำหนักทั้งหมดของรถไม่ว่าจะเป็นตัวรถ คนและสัมภาระ เมื่อถึงเวลาที่โช้คอัพรถยนต์เสื่อมหรือถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่ จะมีอาการแปลก ๆ อาทิ เช่น
- โช๊คอัพรถยนต์รั่ว น้ำมันไฮดรอลิกไหลรั่วซึมออกจากตัวกระบอก
- ขณะขับรถมีเสียงดังกึกกักแถวโช้คอัพ
- แกนโช้คอัพมีลักษณะบิดงอเสียรูปทรง
- รถโคลงเคลงไปมา
- รถมีอาการเหินน้ำ รถไม่เกาะถนน ร่อนบนผิวน้ำ
- ดอกยางสึก เพราะรถทรงตัวไม่ดี
- รถมีอาการหน้าเชิด หรือเวลาเบรก รถจะหน้าทิ่มมากกว่าปกติ
- สาเหตุที่ทำให้โช้คอัพรถยนต์เสื่อม
โช้คอัพรถยนต์ 1 คู่ จะต้องแบกรับน้ำหนักทั้งหมดของรถไม่ว่าจะเป็นตัวรถ คนและสัมภาระ ถือว่าโช้คอัพรถยนต์ทำหน้าที่หนักหนาและหนักหน่วงไม่น้อย โดยการใช้งานในลักษณะดังต่อไปนี้ มีผลทำให้โช้คอัพรถยนต์เสื่อมเร็วดังนี้
- ขับรถบนถนนไม่เรียบ ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ ถนนลูกรัง
- ขึ้นเขาเป็นประจำ
- รถต้องบรรทุกของหนักเป็นประจำ
- ขับรถด้วยความเร็วเป็นประจำ
- ขับรถที่มีเส้นทางโค้งเยอะเป็นประจำ การติดตั้งโช้คอัพรถยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
อาการโช้คอัพตาย คืออะไร
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า โช้คอัพตาย หรือ โช้คตาย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้โช้คอัพรถยนต์เกิดอาการโช้คตาย คือ โช๊คถูกยืดตัวจนสุด น้ำหนักของล้อถ่วงลงกับพื้น เมื่อทิ้งไว้นานทำให้วาวที่กันน้ำมันและก๊าซในโช้ครถยนต์ไหลไปมาตอนมีน้ำหนักกดเสียนั่นเอง โดยมักเกิดจากการนำรถขึ้นฮ้อย ผ่านลูกระนาดหนา หรือการขึ้นลงคอสะพาน เป็นต้น
ทั้งนี้อาการโช้คอัพตาย สามารถทดสอบได้ด้วยตัวเองโดยการลองเอามือกดบริเวณฝากระโปรงส่วนคานหน้าของรถแล้วปล่อย หากโช้คดีดตัวขึ้นมาทันที 1 ครั้งแล้วหยุด แสดงว่าโช้คอัพรถของคุณยังดีอยู่ แต่หากกดลงไปแล้วเด้งขึ้นลงได้ 2-3 ครั้ง หรือไม่มีความหนืด เมื่อขับรถรู้สึกว่ารถแข็งเหมือนนั่งบนไม้กระดาน ไม่มีความนิ่มนวล แสดงว่าโช้คอัพรถยนต์ตายต้องเปลี่ยนใหม่ แต่หากปล่อยไว้ต่อไป ยางด้านในจะกระแทกกับตัวรองสปริงหน้ายางจนสึกจนเห็นโครงลวดในยาง และถ้าหากคุณขับรถเร็ว จะมีความเสี่ยงที่ยางรถยนต์อาจแตกได้อีกด้วย เช่น การขึ้นลงคอสะพาน ผ่านลูกระนาดหนา หรือการขึ้นฮ้อย สำหรับการขึ้นฮ้อย เมื่อรถถูกยกขึ้น ทำให้โช๊คเหยียดสุดเนื่องจากแรงดึงดูด และน้ำหนักของล้อที่ถ่วงลงกับพื้น หากทิ้งไว้นานจะทำให้วาวที่กันให้น้ำมันและก๊าซที่อยู่ในโช๊คไหลไปไหลมาตอนมีน้ำหนักกดเสีย
การดูแลโช้คอัพรถยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานนั้น ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของการเลือกใช้โช้คอัพรถยนต์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการขับขี่ รวมไปถึงพฤติกรรมการขับขี่ของคุณด้วย เพราะหลายคนทราบแล้วว่า การเลือกและการติดตั้งโช้คอัพรถยนต์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ ประสิทธิภาพในการขับขี่ และความปลอดภัยในรถยนต์ของคุณ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการติดตั้งและการปรับแต่งโช้คอัพเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไม่คาดคิดในระหว่างการขับขี่ หากคุณต้องการคำแนะนำและบริการติดตั้งโช้คอัพคุณภาพ ควรเลือกติดตั้งกับผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้และหมั่นตรวจสภาพรถยนต์เป็นประจำเพื่อประสบการณ์ขับขี่ที่ดีที่สุดและไม่เกิดปัญหารถเสียกลางทางในภายหลัง
รถพร้อม คนพร้อม ความคุ้มครองพร้อม เลือกทำประกันรถยนต์ คุ้มครองครอบคลุมทุกการเดินทาง ซื้อประกันรถยนต์ที่เฮงลิสซิ่ง ซื้อง่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน คลิกปุ่มด้านล่างเลย