ทำไมบางคนบอกว่าเติมน้ำมัน e20 ประหยัดกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทอื่น แก๊สโซฮอล์e20 คืออะไร ต่างจากแก๊สโซฮอล์อื่น ทั้ง e85,91,95 และเบนซินอย่างไร รถของคุณเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแบบไหนคุ้มกว่ากัน วันนี้บทความนี้จะพาคุณรู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมัน e20,e85,91,95 และเบนซิน เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องและคุ้มค่าสำหรับรถคุณกันค่ะ 

น้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ e20 หมายถึงอะไร 

น้ำมันe20 หรือแก๊สโซฮอล์ Gasohol e20 หมายถึง น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วผสมกับเอทานอลซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5 % ในอัตราส่วน เบนซิน 80 : เอทานอล 20 ได้เป็นน้ำมัน e20 ออกเทน 95  ตามมาตรฐานของกระทรวงพลังงาน  e20 ใช้ได้กับเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ e20 เท่านั้น โดยรถที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์e20 ได้ยังสามารถใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ได้เช่นกัน สำหรับเอทานอลe20 มีส่วนผสมของเอทานอลที่ผลิตได้เองจากมันสำปะหลังถึง 20% ซึ่งพลังงานชีวภาพเหล่านี้ช่วยลดมลพิษจากการเผาไหม้ โดยลดคาร์บอนไดออกไซด์ และสารไฮโดรคาร์บอนลงจึงลดการเกิดภาวะโลกร้อน ทั้งนี้รถที่เคยใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ จะเปลี่ยนมาใช้e20 ทันทีเลยนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะรถที่จะใช้e20 ได้นั้น เครื่องยนต์จะต้องออกแบบมาเฉพาะเพื่อใช้e20 เนื่องจากปริมาณเอทานอลที่สูงขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในแก๊สโซฮอล์e20 นั้นจะส่งผลถึงความสามารถในการกัดกร่อนยางและโลหะหรือทองแดง ในระบบเก็บส่งน้ำมันในเครื่องยนต์ ทำให้ชิ้นส่วนที่สัมผัสกับน้ำมันโดยตรง เช่น ถังน้ำมัน ท่อส่งน้ำมัน หัวฉีด คาบูเรเตอร์ ที่ทำจากโลหะ ทองเหลือง ทองแดง ยาง พลาสติก รวมถึงระบบสมองกล ECU จำเป็นต้องเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการใช้งานกับน้ำมันe20 ด้วย ผู้ขับขี่สามารถเช็คว่ารถของตัวเองนั้นสามารถเติมแก๊สโซฮอล์e20 ได้หรือไม่นั้นให้เปิดฝาถังน้ำมันจะมีสติกเกอร์แปะไว้ด้านในของฝา จะบอกว่ารถคันนั้นรองรับน้ำมันe20 หรือ e85 ได้หรือไม่ โดยหากมีสัญลักษณ์e20 แปะอยู่ แสดงว่าเครื่องยนต์ถูกออกแบบให้รองรับตั้งแต่น้ำมันเบนซิน e0 ไปจนถึงe20 แต่ถ้ารถของคุณมีสติกเกอร์ e85 แปะอยู่แสดงว่ารถคันนั้นรองรับตั้งแต่ e0 ไปจนถึง e85 ทั้งนี้ข้อดีของการใช้น้ำมันe20 ข้อเสียของe20 มีดังนี้ 

ข้อดีของ e20 

  1. การเผาไหม้ของe20 สมบูรณ์กว่าน้ำมันเบนซินปกติ จึงช่วยเพิ่มกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ 
  1. แก๊สโซฮอล์e20 ช่วยลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกกว่าร้อยละ 30 
  1. ช่วยพยุงราคามันสำปะหลังซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเอทานอล 
  1. ลดการนำเข้าน้ำมันเบนซิน 
  1. ถูกกว่าน้ำมันเบนซินออกเทน 95  

ข้อเสียของ e20 

  1. หากเติมน้ำมันe20 ในรถยนต์ที่ไม่รองรับ อาจเกิดปัญหาเครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่สั้นและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น 
  1. เติมน้ำมันบ่อยขึ้นเมื่อเทียบกับแก็สโซฮอล์ 91,95 คือเติมน้ำมันถูกลงแต่ต้องเติมบ่อยขึ้น 

น้ำมัน e85 คืออะไร 

เมื่อข้างต้นนอกจากจะทราบว่าe20 คืออะไรแล้ว ยังมีน้ำมันอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า e85 ปรากฏอยู่ สำหรับน้ำมัน e85 คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของ น้ำมันเบนซินออกเทน 95 : 15% ผสมกับเอทานอล 85% เป็นน้ำมันที่มีราคาถูก เพราะมีปริมาณส่วนผสมของเบนซินออกเทน ค่อนข้างน้อย ระเหยสูง เพราะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มาก หากขับขี่ในระยะทางไกลเป็นระยะเวลานาน จะสังเกตได้ถึงการเผาไหม้ที่ไวกว่าน้ำมันชนิดอื่น ถึงแม้ว่า e85 ราคาถูก แต่กลับเติมน้ำมันบ่อยกว่าชนิดอื่นและสมรรถนะในการขับขี่ ไม่สามารถเทียบกับรถที่เติมเบนซินทั่วไปได้ และรถที่จะเติม e85 ได้นั้นจะต้อง ใช้กับรถยนต์ FFV (Flexible Fuel Vehicle) เท่านั้น หากรถของคุณไม่มี FFV ห้ามเติมเด็ดขาด เพราะจะทำให้เครื่องยนต์เร่งไม่สุด สตาร์ทติดยาก 

นอกจากนี้น้ำมันเชื้อเพลิงe20 และ e85 แล้ว เราจะพามาทำความรู้จักกับน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ที่เราใช้เป็นประจำอย่างแก๊สโซฮอล์ 91,95 และเบนซินกันต่อค่ะ 

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบแล้วนำมาปรับปรุงคุณภาพ เช่น การเพิ่มค่าออกเทนเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแนวทางหลักคือ ใช้แอลกอฮอล์ที่สกัดจากพืชของเกษตรกรไทย เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด ข้าว และอ้อย ที่เรียกว่า เอทานอล หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ มาผสมผสานกับน้ำมันเบนซิน จนกลายมาเป็นพลังงานทดแทน เรียกว่า แก๊สโซฮอล์ (Gasohol) ในปัจจุบันจะสังเกตเห็นว่า จะมี ตัว E และตามด้วยตัวเลข หมายถึง จำนวนเปอร์เซ็นต์ ที่มีเอทานอลผสมอยู่นั่นเอง โดยแก๊สโซฮอล์ที่เราเห็นกันในปัจจุบัน ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) แก๊สโซฮอล์ 91 (E10)  แก๊สโซฮอล์e20 และแก๊สโซฮอล์ e85 

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (e10) 

เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงในกลุ่มของแก๊สโซลีน ที่ถูกผลิตมาให้ใช้แทน เบนซินออกเทน 95 โดยมีส่วนผสมของ น้ำมันเบนซินออกเทน 95 : 9 ส่วน และเอทานอล (เอทิลแอลกอฮอล์) ที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% : 1 ส่วน ทำให้แก๊สโซฮอล์ที่ออกมามีออกเทนเทียบเท่ากับ เบนซิน 95 ส่วนใหญ่ในปั๊มน้ำมัน จะมีให้บริการมากกว่าน้ำมันที่เป็นออกเทน 95 

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (e10) 

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (e10) เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของ น้ำมันเบนซินออกเทน 91: 9 ส่วน ผสมกับเอทานอล ที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% : 1 ส่วน มีข้อดีคือ ราคาถูก และเป็นที่นิยมอย่างมาก ไม่มีผลกระทบต่อสมรรถนะเครื่องยนต์ และอัตราการเร่งไม่แตกต่างจากน้ำมันเบนซินออกเทน 91 มากนัก 

น้ำมันเบนซิน 

น้ำมันเบนซินไม่มีส่วนผสมของเอทานอล  เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนที่เบาที่สุดที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ เรียกว่า แนฟธา (Naphtha) แล้วนำมาปรับปรุงคุณภาพ เพิ่มค่าออกเทนน้ำมันเบนซินปัจจุบันมี 2 ประเภท คือ น้ำมันเบนซินรถยนต์ (Motor Gasoline) และน้ำมันเบนซินอากาศยาน (Aviation Gasoline) ทั้ง 2 ประเภทนี้มีข้อแตกต่างกันตรงที่ น้ำมันอากาศยานจะมีค่าออกเทนสูงกว่าน้ำมันเบนซินรถยนต์มาก ทั้งนี้น้ำมันเบนซินแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 

เบนซิน ออกเทน 95 

เบนซิน ออกเทน 95 หรือที่เรียกว่า เบนซิน 95 ถือเป็นสุดยอดแห่งน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์  ใช้ได้กับรถยนต์แทบทุกประเภท เพราะไม่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์มีค่าออกเทนสูง การเผาไหม้ของเครื่องยนต์สมบูรณ์ ทำให้ น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 เป็นน้ำมันที่ตอบสนองการขับได้ดีที่สุด แต่ก็มีราคาแพงกว่าน้ำมันประเภทอื่น 

เบนซิน ออกเทน 91 

เบนซิน ออกเทน 91 หรือ เบนซิน 91 ไม่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์เช่นเดียวกับ เบนซิน 95 แต่คุณภาพของเบนซิน 91 จะลดลงไปเล็กน้อย แต่หากใช้งานจริงแล้วแทบไม่ต่างจากเบนซิน 95 นัก  

น้ำมันดีเซล 

น้ำมันดีเซล (DIESEL) น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล  โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย 

น้ำมันดีเซล (หมุนเร็วธรรมดา) B7 เป็นน้ำมันดีเซลทั่วไปเป็นทางเลือกสำหรับรถที่ไม่รองรับ B10 

น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 น้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของไทย  

น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 น้ำมันดีเซลที่เหมาะกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ รองรับรถกระบะบางรุ่นได้    

ทั้งนี้การเลือกใช้น้ำมันให้ถูกต้องตามเครื่องยนต์ จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างปกติ แต่หากเลือกใช้น้ำมันไม่ตรงรุ่นของเครื่องยนต์ จะส่งผลให้เครื่องยนต์มีปัญหา เครื่องยนต์สะดุด อายุการใช้งานสั้นลง หรือเครื่องยนต์พังได้ 

น้ำมัน e20 เติมผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงอื่นได้หรือไม่? 

คำถามนี้เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยหากเติมน้ำมันe20 ผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดอื่นได้หรือไม่ เรามีคำตอบมาฝากค่ะ 

เติม e20 ผสม 95 ได้ไหม? 

เติมน้ำมันe20 ผสม 95 ได้ หากเครื่องยนต์รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว หรือระบุว่าเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนตั้งแต่ 95 ขึ้นไปได้ เนื่องจากน้ำมันทั้ง 2 นี้มีค่าออกเทนที่พอดีและสูงกว่า 95 

e85 กับ e20เติมด้วยกันได้ไหม? 

 เติมน้ำมัน E85 ผสมe20 ได้ ถ้ารถอยู่ในกลุ่ม FFV เครื่องยนต์รองรับ E85 อยู่แล้ว หรือถ้าเป็นเครื่องยนต์รองรับค่าออกเทนที่สูงกว่า 95 ขึ้นไป ก็สามารถเติม E85 ผสมได้เช่นกัน เนื่องจาก E85 มีค่าออกเทน 107 – 113 

เติมe20 ผสม 91 ได้ไหม? 

เติม e20 ผสมกับ 91 ได้ ยกเว้นรถที่ระบุว่ารองรับน้ำมันที่มีค่าออกเทนตั้งแต่ 95 ขึ้นไป จะเติม 91 ผสมe20 ไม่ได้ เพราะ 91 มีค่าออกเทนต่ำกว่า 95 แต่e20 มีค่าออกเทน 99.7 จะทำให้เครื่องยนต์สะดุด และอาจเกิดปัญหาใหญ่ภายหลัง 

e20ใช้กับมอเตอร์ไซค์หรือไม่? 

นอกจากรถยนต์แล้ว น้ำมันe20 ยังสามารถใช้กับรถจักรยานยนต์ได้หรือไม่ คำตอบคือ ให้ดูตรงค่าออกเทนเป็นสำคัญ หากรถจักรยานยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์คันใดที่สามารถเติมน้ำมันเบนซิน 91 ได้ หมายความว่า รถคันนั้นต้องการค่าออกเทนเมื่อจุดระเบิดที่ 91 ฉะนั้นน้ำมันเชื้อเพลิงที่สามารถเติมรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ได้ ได้แก่ เบนซิน 91 / แก๊สโซฮอล์ 95 / แก๊สโซฮอล์ 91 / E20 หรือดูจากหน้าคู่มือ จะมีสัญลักษณ์แก๊สโซฮอล์ 95 e10/ =e20, แก๊สโซฮอล์ 91 E10 นั่นเอง 

สรุปแล้วเติมน้ำมันรถชนิดไหน คุ้มค่ามากกว่ากัน? 

จากการทดสอบของ ปตท. ระบุว่า น้ำมันเชื้อเพลิงe20 มีอัตราสิ้นเปลืองมากกว่าแก๊สโซฮอล์ 95,e10 อยู่ประมาณ 2.53% เท่ากับว่าการใช้น้ำมัน E10 จำนวน 100 ลิตร จะเทียบเท่ากับการใช้e20 จำนวน 102.53 ลิตร แต่ส่วนต่างน้ำมันที่มีราคาต่ำกว่าประมาณ 3 บาท เมื่อคิดเป็นจำนวนเงินต่อกิโลเมตรแล้วe20 จึงถูกกว่าการใช้น้ำมัน e10  ตามตัวอย่างดังนี้ 

แก๊สโซฮอล์ 95 (e10) จำนวน 100 ลิตร ลิตรละ 35.15 บาท = 3,515 บาท  

แก๊สโซฮอล์  e20 จำนวน 100 ลิตร ลิตรละ 32.84 บาท = 3,284 บาท 

ดังนั้น การเติมน้ำมัน E20 จะช่วยประหยัดเงินได้เป็นจำนวน 231 บาท  

หากรถยนต์ของคุณเติมน้ำมันe20 ได้ การเติมe20 ก็จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว แต่สำหรับคนที่กำลังคิดจะเติมน้ำมัน E85 ถึงจะช่วยให้ค่าใช้จ่ายในการเติมแต่ละครั้งถูกลง  แต่กลับพบว่าอัตราสิ้นเปลืองนั้นเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้คุณต้องแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันบ่อยขึ้น นอกจากจะคิดเรื่องของราคาน้ำมันแล้ว อัตราสิ้นเปลืองก็เป็นอีกส่วนที่ควรจะนำมาพิจารณาในการเลือกน้ำมันเชื้อเพลิงเช่นกันค่ะ 

นอกจากน้ำมันเชื้อเพลิง จะเป็นแหล่งพลังงานสำหรับรถทั่วไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยประหยัดน้ำมันในการเดินทางที่ได้รับความนิยมในสมัยก่อนและยังได้รับความนิยมในปัจจุบันในช่วงที่ราคาน้ำมันแพงขึ้น ก็คือ การติดแก๊ส NGV,LPG โดยการติดแก๊ส NGV,LPG คืออะไร คุ้มกว่าการเติมน้ำมันจริงหรือไม่ เรามีคำตอบมาฝากค่ะ 

ติดแก๊ส NGV,LPG คืออะไร 

การ ติดแก๊สรถยนต์ คุ้มกว่าเติมน้ำมันจริงหรือไม่ เชื่อว่า คำถามนี้ ยังคงคาใจสำหรับผู้ที่กำลังสนใจนำรถไปติดแก๊สรถยนต์ เพราะในปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แตะราคาไปถึงลิตรละห้าสิบกว่าบาท ทำให้บางคนต้องหันกลับมาสนใจการติดแก๊สรถยนต์ซึ่งเคยได้รับความนิยมในอดีต เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนนั่นเอง แต่ในมุมมองอีกด้าน การติดแก๊สรถยนต์ ก็มีความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยเช่นกัน ทั้งนี้เราจะเห็นว่ามีสถานีบริการแก๊ส 2 ประเภท คือ NGV , LPG สำหรับการติดแก๊สรถยนต์นั้น ประกอบไปด้วย 2 ประเภท ได้แก่ การติดแก๊สรถยนต์ NGV และการติดแก๊สรถยนต์ LPG โดยการติดแก๊สรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนี้ 

การติดแก๊สรถยนต์ NGV 

NGV (Natural Gas for Vehicles) คือ แก๊สธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือเรียกอีกอย่างว่า CNG (Compressed Natural Gas) แก๊สธรรมชาติอัด เป็นแก๊สที่เกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ เป็นแก๊สมีเทนนำมาอัดจนมีความดันสูง บรรจุในถังที่มีความแข็งแรง ถูกนำมาใช้เป็นพลังงานทางเลือกเพื่อทดแทนน้ำมันเบนซิน หรือดีเซล 

การติดแก๊สรถยนต์ LPG 

LPG (Liquefied petroleum gas) คือ แก๊สปิโตรเลียมเหลว หรือเรียกว่า แก๊สหุงต้ม นั่นเอง เป็นแก๊สที่ได้มาจากการกลั่นน้ำมันดิบในโรงกลั่นน้ำมัน และจากกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติประกอบไปด้วย โพรเพนและบิวเทน เป็นแก๊สที่เก็บในรูปแบบของเหลว มีน้ำหนักมากกว่า NGV ถูกนำมาใช้เป็นพลังงานทางเลือกทดแทนน้ำมันเบนซิน และดีเซล 

ความแตกต่างระหว่าง NGV กับ LPG 

  1. LPG จะมีน้ำหนักมากกว่า NGV  
  1. LPG มีจุดเดือดที่ -50 องศา ส่วน NGV มีจุดเดือดที่ -162 องศา 
  1. ทั้ง LPG และ NGV ไม่มีสีและกลิ่นทั้งคู่ แต่ LPG มีน้ำหนักที่มากกว่าอากาศ ต้องใส่กลิ่นเพิ่ม เพื่อที่จะสามารถรับรู้ได้หากมี แก๊สรั่วไหลนั่นเอง 

ติดแก๊ส NGV,LPG คุ้มกว่าเติมน้ำมันจริงหรือไม่?

รถติดแก๊สรถยนต์คุ้มกว่ารถที่เติมน้ำมันแบบเดิมจริงหรือไม่? หากพูดถึงราคาต่อหน่วยแล้วแน่นอนว่ารถติดแก๊สยังไงก็ถูกกว่าน้ำมันแน่นอนโดยราคา ณ วันนี้ LPG 14.20-15.42 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 36.28 บาท/ลิตร และแก๊สโซฮอล์ 95 36.55 บาท/ลิตร ซึ่งราคาห่างกันครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว แต่เมื่อเทียบระยะทางใช้งานเมื่อเติมเชื้อเพลิงทุกประเภทเต็มถัง จะพบว่ารถที่เติมน้ำมันจะวิ่งได้ไกลกว่ารถเติมแก๊สนั่นเอง ทั้งนี้การจะตอบคำถามที่ว่ารถติดแก๊สคุ้มกว่าน้ำมันหรือไม่นั้น หากคุณคือคนที่ขับรถสาธารณะต้องรับส่งผู้โดยสารเป็นประจำ การเลือกใช้รถติดแก๊สจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะจะไม่ต้องกังวลในเรื่องของราคาน้ำมันจะผันผวนแต่อย่างใด จึงทำให้ไม่มีผลต่อการปรับราคาค่าโดยสาร แต่หากคุณคือผู้ใช้รถทั่วไป เมื่อมองในระยะยาวแล้วการใช้รถติดแก๊สรถยนต์  อาจจะไม่คุ้มมากนักเพราะแม้ว่าราคาน้ำมันจะแพงกว่าการเติมแก๊สรถยนต์ แต่เมื่อเทียบกับความคุ้มค่าแล้วยังไงก็ตามรถน้ำมันย่อมตอบโจทย์สำหรับคุณมากกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย  

น้ำมัน e20 ถือเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดกว่าการเติมน้ำมันประเภทอื่น  ทั้งนี้การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกต้องจะต้องเติมตามที่คู่มือรถกำหนดไว้ หรือดูจากค่าออกเทนที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ของรถคุณ เพราะจะทำให้เครื่องยนต์รถของคุณทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะ แถมยังประหยัดน้ำมัน ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์  แต่หากเลือกใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนต่ำกว่าที่ระบุในคู่มือ อาจทำให้เครื่องยนต์เกิดการน็อค และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง วิ่งอืดขึ้น และเกิดปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ตามมาในภายหลังนั่นเองค่ะ นอกจากเลือกน้ำมันเชื้อเพลิงรถที่เหมาะกับรถแล้ว การทำประกันรถยนต์ยังสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณได้ เพื่อคุ้มครองทุกการเดินทางที่ปลอดภัยของคุณ แนะนำประกันรถยนต์ 0% ที่เฮงลิสซิ่ง ซื้อง่ายไม่ต้องจ่ายเงินก้อน สนใจคลิกสมัครด้านล่าง 

สมัครสินเชื่อ