หลายๆคนคงมุ่งหน้าไปประเทศอินเดียเพราะอยากสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่าง ทัชมาฮาล (Taj Mahal) สักครั้งในชีวิต ทัลมาฮาลตั้งอยู่ ณ ประเทศอินเดีย โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักระหว่างพระเจ้าชาห์มาฮานและพระมเหสีมุมตัส และยังเปรียบเสมือนสถานที่แห่งนี้ ให้เป็นอนุสรณ์แห่งความรักครั้งยิ่งใหญ่ของพระองค์ และยังได้รับสถานะเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกในปี 1983 ในฐานะ “เพชรน้ำเอกของศิลปะมุสลิมในอินเดีย และเป็นหนึ่งในงานชิ้นเอกที่ได้รับการชื่นชมในระดับสากล” ได้รับการยกย่องโดยหลายบุคคลให้เป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมโมกุล และสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์อินเดียอันร่ำรวย
ที่นี่เป็นตัวอย่างของแรงบันดาลใจให้ก่อกำเนิดพลังแห่งความรัก จนกลายเป็นสุสานหินอ่อนที่ผู้คนยกย่องให้เป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่หลายคนเมื่อพูดถึงสุสาน จะนึกถึงความทึบทึมเทาหม่น ความเย็นเยียบไร้ชีวิต แต่ก็มีที่สร้างสิ่งอมตะให้คงอยู่บนโลกนี้ เช่นทัชมาฮาลซึ่งทำให้เราเรียนรู้ว่า บางครั้งความตายก็ไม่ใช่การจากพราก แต่อาจเป็นการคงอยู่อย่างเป็นนิรันดร์ภายในใจของผู้เป็นที่รัก และบางครั้งความตายอาจจะทำให้ความชัดเด่นชัดขึ้น จนกลายเป็นรูปธรรมอันงดงาม และถูกจารึกไว้บนผืนดิน
ประวัติของทัชมาฮาล
ทัชมาฮาล คือ สุสานขนาดใหญ่โตสร้างขึ้นจากหินอ่อน เชื่อกันว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่แสดงออกถึงความรักที่งดงามที่สุดในโลกและเป็นสถาปัตยกรรมที่โด่งดังที่สุดของอินเดีย สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ชาวอินเดียเพื่อรำลึกถึงพระมเหสีของพระองค์
หลังจากพระนางมุมตัส มาฮาล คลอดรัชทายาทองค์ที่ 14 ก็ทรงเสด็จสวรรคตจากการตกเลือด ได้สร้างความเสียพระทัยให้กับพระเจ้าชาห์มาฮานอย่างมาก พระเจ้าชาห์มาฮานจึงสร้าง ทัชมาฮาล ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก
ต่อมาพระเจ้าชาห์มาฮาน ทรงถูกพระโอรสโอรังเซบ นำตัวไปกักขัง ณ ป้อมอัคราเพราะทรงเห็นว่าพระราชบิดาใช้จ่ายพระราชทรัพย์จำนวนมากมายมหาศาลไปกับการสร้างสุสานแก่พระนางมุมตัส มาฮาล จึงได้ชิงบัลลังก์และจับพระราชบิดาไปคุมขัง พร้อมสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ครองราชย์แทน
พระเจ้าชาห์มาฮานถูกขังอยู่เป็นเวลานานถึง 8 ปี จนเสด็จสวรรคตในคุก ในทุกๆ วัน ท่านได้ทรงทอดพระเนตรมายังทัชมาฮาล ผ่านลูกกรงจนสิ้นพระชนม์ ตำนานการสร้างของ ทัชมาฮาล เป็นเรื่องเศร้า ทำให้ผู้คนต่างพากันยกย่องให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักและความเศร้าตั้งแต่นั้นมา
ทัชมาฮาล ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ใช้เวลาสร้าง 22 ปี ต้องใช้แรงงานมนุษย์สำหรับการขนและตัดหิน รวมทั้งหาช่างมีฝีมือมาประดับตกแต่งอาคารนับแสนคน ซึ่งหินที่นำมาใช้นั้นก็จะมาจากเมืองชัยปุระ ศิลาแลง จากฟาเตปุรริขรี พลอยสีฟ้า จากธิเบต พลอยสีเขียว จากอียิปต์ หินสีฟ้า จากคัมภัย โมรา จากคัมภัย เพชร จากเมืองฟันนา หินทองแดง จากรัสเซีย หินทราย จากแบกแดด
เมื่อคุณไปในช่วงเช้าคุณจะได้สัมผัสกับความงามของอาคารหินอ่อนสีขาว เมื่อมันสาดส่องลงมากระทบกับแสงของดวงอาทิตย์ ฐานของอาคารจะยกสูง ทำให้ฉากหลังเป็นแผ่นฟ้ากว้าง โดมขนาดใหญ่ หอคอยสูง เกิดภาพเงาสะท้อนสวยงามทั้งในตอนเช้า และตอนกลางวัน หินอ่อนจะเปลี่ยนสีไปตามแสงของดวงอาทิตย์
ภายในห้องโถงมีขนาดใหญ่เป็นรูปแปดเหลี่ยม มีอนุสาวรีย์ของพระเจ้าชาห์มาฮานและพระมเหสีมุมตัส ตั้งอยู่และรายล้อมไปด้วยกระเบื้องโมเสค รวมทั้งแผ่นหินอ่อนอันประดับไปด้วยอัญมณีมากมาย แต่หลุมฝังพระศพของพระเจ้าชาห์ไม่ได้สร้างอย่างรูปสมมาตร เพราะพระองค์ไม่อาจสร้างสุสานของตนได้อย่างตั้งใจไว้ มีเพียงแค่ของพระมเหสีมุมตัสที่พระเจ้าชายชาร์มาฮานทรงสร้างไว้ให้เพื่อรำลึกถึงพระมเหสี
ป้อมอัครา
เมื่อชมทัชมาฮาลแล้วจะต้องไม่พลาดที่จะไปต่อยัง “ป้อมอัครา” (Agrs Fort) ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังพระเจ้าชาห์มาฮานจนสิ้นพระชนม์ ป้อมอัคราแห่งนี้ก็มีความสวยงามยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน และก็ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งด้วย
ป้อมอัคราหรือพระราชวังอัครา มีป้อมล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน ได้ถูกบันทึกว่ามีมาตั้งแต่ ค.ศ.1080 แล้ว ต่อมากษัตริย์อักบาร์ได้ทำการปฏิสังขรณ์และตกแต่งใหม่ด้วยหินทรายและศิลาสีแดงในปี ค.ศ.1565 ลักษณะของป้อมเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่โค้งแม่น้ำยมุนา
อาคารส่วนใหญ่ที่ถูกสร้างในสมัยกษัตริย์อักบาร์ เป็นศิลปะของป้อมอัคราก็จะสวยงามละเอียดประณีตผสมกันทั้งแบบพุทธแบบฮินดูแบบเปอร์เซีย ส่วนพระตำหนักของพระเจ้าชาห์ ชหานนั้นสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังอยู่ด้านหน้าของแม่น้ำยมุนา เพื่อที่จะได้สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นอีกมุมที่มองเห็นทัชมาฮาลได้สวยที่สุดก็ว่าได้
ข้อควรรู้ก่อนเข้าชมทัชมาฮาล
- เจ้าหน้าที่ไกด์ของรัฐยินดีจะช่วยหากท่านพบปัญหา
- บัตรเข้าชมทัชมาฮาลอย่านำทิ้ง เพราะสามารถเอาไปเป็นส่วนลดในการเข้าชมสถานที่อื่นๆได้ด้วย
- ด้านในทัชมาฮาล ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ช่วยกันปฎิบัติตามกฎเพื่อให้คนอื่นๆได้ชมความสวยงามทัชมาฮาลต่อไป
- ราคาค่าเข้าชม ถ้าเป็นคนไทยสามารถโชว์พาสปอร์ตไทยจะเหลือแค่ 530 รูปี หรือ 230 บาท แนะนำว่าให้ตื่นแต่เช้า แล้วไปรอเข้าตั้งแต่เช้าเลย เพราะเวลาเปิดของทัชมาฮาลคือตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก จะได้พิสูจน์คำที่ว่า สีของทัชมาฮาลจะเปลี่ยนไปตามแสงของพระอาทิตย์ด้วย
- โดยรวมแล้วความรู้สึกที่ได้มาเยือนทัชมาฮาล คือ ได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่มากๆ ยิ่งตอนหินอ่อนกระทบกับแสงอาทิตย์ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังยืนมองสถานที่อะไรสักอย่างที่อยู่บนสวรรค์ มันให้ความรู้สึกที่ดีมากๆจริงๆ ทั้งตะลึง ทั้งชื่นชม และเศร้าใจไปพร้อมๆกัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ทัชมาฮาล ถึงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้ เป็นสถานที่ที่มีคุณค่าควรแก่การไปชมด้วยตาตนเองสักครั้ง
การเดินทาง
ทัชมาฮาล ตั้งอยู่ที่เมืองอัครา (Agra) เมืองนี้อยู่ห่างจากเดลี (Delhi) เมืองหลวงของประเทศอินเดีย ประมาณ 230 กิโลเมตร หากเดินทางด้วยรถยนต์จะใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินทางด้วยรถไฟสายด่วนจะใช้เวลาประมาณ 1.40 ชั่วโมงเท่านั้น ฉะนั้นถ้าใครมุ่งหมายอยากไปเที่ยวเมืองอัคราเพื่อชมความงดงามของทัชมาฮาลโดยเฉพาะ แนะนำว่าตั้งต้นจากเดลีจะสะดวกที่สุด เพราะมีเที่ยวบินตรงมาลงนิวเดลีให้เลือกค่อนข้างเยอะโดยใช้เวลาบินจากไทยไปแค่ประมาณ 4 ชั่วโมง
จัดทำโดย นางสาวกันตนา งามสง่า
นักศึกษาฝึกงานระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์สาขาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
ขอบคุณภาพจาก shutterstock, wikipedia
ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความสนใจเข้ามาอ่านอย่างมากครับ
หากชอบบทความ หรือเห็นว่าเป็นประโยชน์ สามารถกดแชร์ ให้เพื่อนๆได้อ่านต่อด้วยนะครับ
สามารถติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/greenlandholiday
หากสนใจเดินทางท่องเที่ยว หรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับทัวร์ต่างประเทศกรุณาติดต่อ
โทร. 022949742
Line id : @greenlandtour