Jump to ratings and reviews
Rate this book

มนุษย์ 6 ตุลา

Rate this book
เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 เป็นเหตุการณ์ในม่านลึกลับ หนังสือที่พูดเรื่องนี้มีไม่มาก และน้อยมากกวานั้นในหนังสือเรียน ทำไมเหตุการณ์ความรุนแรงอันควรบันทึก ศึกษา และจดจำ จึงเหมือนคล้ายถูกทำให้ลืม แม้เวลาจะผ่านมา 44 ปี ความจริงยังคงสูญหาย

มนุษย์ 6 ตุลา หนังสือโดย มนุษย์กรุงเทพฯ เล่าเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ผ่านบทสัมภาษณ์ 19 ชิ้น เป็นความพยายามที่จะบันทึกเหตุการณ์ในเวลานั้นผ่านเรื่องเล่าชีวิตคน ผู้คนที่เผชิญเรื่องราวต่างๆ ในมุมต่างๆของตน ในหน้าประวัติศาสตร์โหดร้ายที่ยังไม่มีใครได้รับโทษ และยังไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีก

‘มนุษย์กรุงเทพฯ’ ได้ตัดทอนและเรียบเรียงให้สั้นกระชับเพื่อง่ายต่อความเข้าใจ ปิดท้ายด้วยคำอธิบายขนาดยาวจากนักวิชาการ ที่ค่อยๆ คลี่ความโกลาหลให้เห็นที่มาของความรุนแรง แน่นอนว่า ความเข้าใจต่อเรื่องหนึ่งๆ ควรเกิดขึ้นจากข้อมูลที่ลงลึกและรอบด้าน ดังนั้น หนังสือเล่มนี้คงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความเข้าใจ และ มนุษย์กรุงเทพฯ บอกว่า

“เป็นหนึ่งเสียงเล็กๆ ที่อยากช่วยลดปัจจัยที่พาสังคมไทยไปสู่ความรุนแรง”

208 pages, Paperback

Published October 1, 2020

Loading interface...
Loading interface...

About the author

ชื่อจริง ขวัญชาย ดำรงค์ขวัญ
แอดมินเพจ มนุษย์กรุงเทพฯ
คอลัมนิสต์ประจำเว็บไซต์และนิตยสารอย่าง green world, The MATTER, gqthailand, นิตยสารสานแสงอรุณ นิตยสารจีเอ็ม, นิตยสาร way รวมถึงนิตยสารสารคดี
จบจากคณะมนุษย์ศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน โทจิตวิทยา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
64 (60%)
4 stars
39 (37%)
3 stars
1 (<1%)
2 stars
0 (0%)
1 star
1 (<1%)
Displaying 1 - 18 of 18 reviews
Profile Image for Thanawat.
436 reviews
November 7, 2020
อ่านไป กลั้นน้ำตาไป

หนังสือเล่มเล็ก หนาราวสองร้อยหน้า แต่กลับวาดให้เห็นภาพที่ทรงพลัง
ภาพของเหตุการณ์ที่เคยถูกบังคับให้ลืมเลือน ภาพของความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศไทย ภาพการปลุกปั่นลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์จนถึงขั้นมุ่งหมายเอาชีวิตด้วยวิธีการอันป่าเถือน ภาพของคนสั่งการที่พ้นผิดลอยนวล ภาพเหล่านั้นซ้อนทับอยู่บนรอยยิ้มปลอมๆ ของยิ้มสยาม เมืองพุทธที่ผู้มีอำนาจวาดทับเอาไว้

บทสัมภาษณ์ในมนุษย์ 6 ตุลา มีจุดร่วมกันคือ
1. เค้าไม่เคยลืม
ผู้ให้สัมภาษณ์แต่ละคน ให้สัมภาษณ์ราวกับ 6 ตุลาคม 2519 เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แต่ละคนยังจำได้ทุกรายละเอียดทั้งของตนเอง เพื่อน และคนที่ตนเองรัก ภาพเหล่านั้นมันฝังอยู่ในความทรงจำที่พร้อมจะนำมาถ่ายทอดในฐานะ collective memory หนึ่งของประเทศไทย และครั้งนี้ คุณมนุษย์กรุงเทพฯ ผู้สัมภาษณ์ ได้ทำให้ภารกิจถ่ายทอดความทรงจำของพวกเขาให้ลุล่วง และ “6 ตุลาฯ” จะไม่มีวันเลือนหรือถูกบังคับให้สูญหายอีกต่อไป

2. เค้าไม่ให้อภัย
ผู้ให้สัมภาษณ์เป็นผู้สูญเสีย เป็นผู้ถูกกระทำ เป็นญาติผู้ถูกกระทำ สูญเสียทั้งชีวิต เวลา และโอกาส (น่าสนใจว่าจริงๆ แล้วผู้กระทำในเหตุการณ์ก็น่าจะนับว่าเป็นผู้สูญเสียได้เช่นกันถ้ามีโอกาสได้ฟังมุมมองของเค้าบ้าง) ผู้สัมภาษณ์ไม่ให้อภัยกระบวนการปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังรวมทั้งผู้สั่งการ บอกตามตรงว่าที่สัมภาษณ์มาเนี่ย ก็บอกได้อย่างคลุมเคลือเหลือเกินว่าจริงๆ แล้วผู้สั่งการที่แท้จริงคือใคร แต่ที่แน่ๆ ว่าในกระบวนการปลุกปั่น มันมีประชาชนและสื่อฯ อยู่ในนั้นแน่ๆ
สัมหรับผู้สัมภาษณ์ มันจะให้อภัยได้อย่างไร ถ้าความจริงไม่ถูกชำระ และคนทำผิดยัง “พ้นผิดลอยนวล”

3. เค้ามีความหวัง
ผมชอบมากที่ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่าเค้ารอมา 40 ปี รอวันที่จะมีคนมาถามเค้าเรื่อง 6 ตุลาฯ รอวันที่ความจริงจะปรากฎ รอวันที่เพื่อนและตัวเองจะได้รับความนุติธรรม และมี่สำคัญ รอวันที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่สอดคล้องกับอุดมกาณ์ประชาธิปไตย แม้แต่เพียงเล็กน้อย ในช่วงชีวิตก็ยังดี เพื่อที่จะได้รู้ว่าสิ่งที่เค้าเรียกร้องในยุค 6 ตุลาฯ 19 ไม่ใช่เรื่องสูญเปล่า

ขอบคุณผู้เขียน ที่เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบสร้าง collective memory ของเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ไม่ให้เลือนไปจากความทรงจำ
Profile Image for Mook Woramon.
710 reviews155 followers
March 13, 2023
สุดมากกก กระชับ ครอบคลุม คุ้มค่ากับการอ่าน

หนังสือรวมเรื่องเล่าจากผู้คนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519
ปิดท้ายด้วยบทวิเคราะห์ ที่สั้น เข้าใจง่ายและครอบคลุมประเด็นได้เป็นอย่างดี

ถ้าอยากรู้เรื่องราวของเหตุการณ์ 6 ตุลา เริ่มอ่านจากเล่มนี้ได้เลย
เรื่องเล่าจากความทรงจำแม้ผ่านมานานยังสดใหม่ เพราะมันอัดแน่นด้วยอารมณ์ความรู้สึก

แม้ไม่อยากพูดถึง แม้จะเจ็บปวด แต่ก็ต้องถ่ายทอดออกมาเพื่อให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้ในหนังสือเรียน

อ่านไปเรื่อย ๆ เราจะเห็นภาพได้เองว่าจุดเริ่มต้นคืออะไร เกิดอะไรขึ้น ลงเอยด้วยการสูญเสียที่ไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ

กี่ครั้งแล้วที่อาชญากรรมของรัฐพ้นผิดลอยนวล กฏหมายที่เอื้อต่อรัฐมากกว่าประชาชน
และเพราะไม่เคยต้องรับผิดชอบเลยเกิดเหตุการณ์เดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

บทสัมภาษณ์ส่งท้ายช่วยอธิบายได้ดีว่าทำไมเราต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเราเอง ไม่ได้เรียนรู้เพื่อจะมาโกรธเคืองเคียดแค้น

แต่เรียนรู้เพื่อเข้าใจอดีต เพื่อแก้ไขปัจจุบัน เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคต

‘ให้มันจบที่รุ่นเรา’
October 26, 2020
บทสัมภาษณ์ขนาดกำลังอ่านที่ต้องการเพิ่ม 'เนื้อหนัง' ให้ประวัติศาสตร์ 6 ตุลาฯ ที่ก่อนหน้านี้เปรียบเสมือนสุญญากาศของประวัติศาสตร์ไทย สนุก อ่านเพลินมาก ตบท้ายด้วยมุมมองของนักวิชาการอย่าง อ. ประจักษ์

ครบเครื่องทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ ความรู้สึก และคุณค่าของเรื่องเล่า แนะนำมากครับ
Profile Image for ดินสอ สีไม้.
974 reviews144 followers
October 5, 2022
เราว่าการหยิบเรื่องราวของ 6 ตุลาฯ มาเล่าใหม่ในทุกวันนี้
ไม่ควรไปในทิศทางที่บ่มเพาะความเกลียดชัง
แต่ควรเป็นไปในทิศทางของการเรียนรู้ การเข้าใจ
และใช้ความผิดพลาดเป็นบทเรียน
เราไม่ควรเดินซ้ำรอยเก่า เพื่อเดินไปสู่จุดจบแบบเก่า
ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้ทำหน้าที่นั้นแล้ว
Profile Image for Suphap Duangsan.
125 reviews10 followers
December 22, 2020
อ่านบทสัมภาษณ์ของพวกเขาทั้ง18 คนจบด้วยความหดหู่ คับแค้นใจในการใช้ความรุนแรงโดยอำนาจรัฐ ซ้ำยังใส่ร้ายสร้างความเป็นอื่นให้แก่พวกเขาโดยยัดเยียดข้อหา "หนักแผ่นดินและคอมมิวนิสต์" จนเปิดโอกาสให้ผู้เห็นต่างซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันเอง

ร่วมกัน "สังหารหมู่" พวกเขาใจกลางกรุงเทพมหานคร

เป็นบาดแผลในประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรมีคนไทยคนไหน..ลืมลง

อ่านฉบับเต็มได้ตามลิ้งค์ครับ

https://www.facebook.com/105963494451...
Profile Image for Gift  C.
18 reviews5 followers
October 1, 2021
ร้องไห้

บทสัมภาษณ์ในเล่มนี่ทำให้เราร้องไห้สองสามครั้ง ด้วยความสะเทือนใจและความตื้นตัน การสังหารหมู่ธรรมศาสตร์คืออีกหนึ่งอาชญากรรมโดยรัฐไทยที่ไม่เคยถูกสะสาง เหยื่อไม่เคยได้รับการเยียวยา ฆาตกรและผู้สังการไม่เคยถูกดำเนินคดี แผลยังเจ็บ เป็นรอยด่างในประวัติศาสตร์ที่ชนชั้นนำไทยไม่อยากจำ
Profile Image for Kanittha BP.
29 reviews7 followers
November 27, 2020
บีบคั้นหัวใจ อัดอั้น ตื้นตัน สงสาร และโกรธแทนผู้สูญเสีย ผู้ต่อสู้ และผู้บริสุทธิ์ทุกคนในเหตุการณ์นั้น
แต่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากระเบิดออกมาเป็นน้ำตาที่พรั่งพรู
หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนประตูมิติให้เรามองผ่านเข้าไปเห็นเหตุการณ์เหล่านั้น
เหตุการณ์ที่คนบางกลุ่มอยากให้บิดเบือน และลบหายไปจากประวัติศาสตร์
เราเห็นเหล่าผู้บริสุทธิ์ที่ต่อสู้เพื่อความก้าวหน้าของประเทศถูกทำร้าย
และเราทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่มองอยู่เฉยๆตรงนี้ ตรง 88 ปีให้หลัง
ปี 2020 ที่ซึ่งทุกอย่างเป็นเหมือน Dejavu ของเหตุการณ์ 6 ตุลาไม่มีผิดเพี้ยน
ที่รัฐยังคงใช้มุกเดิมๆกับ 88 ปีที่แล้ว แม้โลกจะเปลี่ยนไปมากแล้วก็ตาม
-
ชอบบทวิชาการท้���ยเล่มมาก
เข้าใจง่ายและทำให้ได้คิด

Profile Image for Pae Ponsiri.
111 reviews21 followers
July 3, 2023
รวมบทสัมภาษณ์​ของคนธรรมดาสามัญที่เคยผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 เล่มนี้ไม่ได้มุ่งเล่าสาเหตุหรือผลกระทบของเหตุการณ์​ 6 ตุลาฯ ต่อการเมืองภาพใหญ่ หากแต่เล่มนี้มุ่งฉายให้เห็นอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดในฐานะคน ๆ หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าปัจจุบันเขามองย้อนกลับไปดู/เข้าใจเหตุการณ์​นี้ว่ายังไง
.
เล่มนี้ไม่ได้เป็นคำอธิบายจากนักวิชาการ หรือการบอกเล่าจากระดับนำของแต่ละฝ่าย หากแต่นอกจากวิธีเล่าที่เล่มนี้เขียนออกมาได้ดีแล้ว ความพิเศษอีกอย่างของเล่มนี้มันก็คือความเป็นธรรมดาสามัญของผู้ถูกให้สัมภาษณ์
Profile Image for gam s (Haveyouread.bkk).
472 reviews174 followers
December 13, 2020
A small book packed with emotions and insights into the day known as "Thammasat Massacre", a blood-stain on the face of the contemporary history of Thailand. This is an account of people who were present at Thammasat on October 6, most of them were just mere highschool students and university students at the time. They were against Gen.Thanom Kittikajorn, the exiled enemy of the state, who were miraculously "pardoned" by the King Rama IX and allowed back into the country as a monk. The student uprising has been painted as an act of communism. More than 40 people were killed at Thammasat on October 6, when the violence broke with a sound of AK47 at dawn.

As mentiomed earlier, those who seek justice and reformation were painted as a communist, a threat to the nation, and therefore shall be eliminated. The junta government then ran campaigns to emphasize on how killing communists merit the nation, and elevate the killers above the threshold of karmas. People were out in the street, looking content and happy that they could help "defend" the country. What the fuck?

What terrifies me the most is how the situation back then reflects well with what we are facing today. Students are out in rallies demaning reformation and justice. Now we are painted with new accusations, a different name for the same thing, an enemy of the state.

By reading this book, it opens a frontier of truth for me. We are about to become victims of social reproduction orchestrated by the junta government and the highest, but utterly godless institution again. What can we do moving forward to stop such unlawful course of actions?
Profile Image for Anness.
111 reviews37 followers
November 4, 2022
“ความเงียบบอกเราถึงสภาวะทางวัฒนธรรมพุทธศาสนาแบบไทย และการเมืองที่ทำให้ความทรงจำไม่สามารถก่อรูปก่อร่างเป็นเรื่องเล่าที่มีความหมายขึ้นมาได้ ผลก็คือลืมไม่ได้จำไม่ลง” –‘ธงชัย วินิจจะกูล’ นักวิชาการและอดีตแกนนำนักศึกษาในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519

มนุษย์ 6 ตุลาคือหนังสือรวม 38 บทสัมภาษณ์คน 6 ตุลา สมาชิกในครอบครัว และคนรุ่นใหม่ที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ รวมถึงมีบทสัมภาษณ์ของอ.ประจักษ์และอ.พวงทอง ถึงมิติประวัติศาสตร์และบาดแผลของการสังหารหมู่ครั้งนี้ด้วย

ระหว่างที่อ่านปากคำของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลา ซ้ำๆ หลายๆ ครั้งก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะนึกภาพตัวเองว่าถ้าประสบอะไรแบบนั้นคงช็อก ทำอะไรไม่ถูก และตายไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเวลาที่การชุมนุมตึงเครียด มีกลุ่มจัดตั้งจากฝั่งขวามาระรานทำร้ายนศษ.จนต้องถอยร่นจากสนามหลวงเข้าไปในธรรมศาสตร์

กระทั่งตัดสินใจว่าจะสลายตัวในตอนเช้าแต่ในเที่ยงคืนวันนั้นก็ถูกรัฐยิงระเบิดเข้ามา ก่อนเปิดฉากระดมสรรพกำลังใช้อาวุธสงครามกับนศษ. และตามมาด้วยความเหี้ยมโหดเกินมนุษย์มนากับสัญลักษณ์ภาพจำอย่างเก้าอี้พับ ต้นมะขาม เสื้อเปื้อนเลือด และห่วงเชือก

อ่านความน่ากลัวในวันนั้นกี่ครั้งก็ยังไม่อยากเชื่อว่าคนที่มีชีวิตจิตใจจะทำร้ายคนที่ไม่รู้จักถึงขนาดนั้นได้ เพราะเพียงแค่อีกฝ่ายคิดเห็นมีจุดยืนต่างจากตน ยิ่งได้อ่านอุดมการณ์ ประสบการณ์เข้าป่า การกลับมาใช้ชีวิตในเมือง และความทรงจำกับตัวตนที่คงเหลืออยู่ของแต่ละคนในเล่มก็ยิ่งเศร้า

ทั้งที่พวกเขาต่างมุ่งหวังอยากเห็นสังคมดีขึ้น อยากเห็นคนเท่ากัน แต่กลับต้องไประหกระเหินลำบากในป่าห่างไกล พรากจากครอบครัวเป็นหลักหลายเดือนถึงหลายปี นึกแล้วหดหู่แทนทั้งคนที่ต้องหันหน้าเข้าป่าและคนที่รอคอยข่าวสารที่บ้าน โดยแทบไม่รู้เลยว่าพี่น้องลูกหลานจะเป็นตายร้ายดียังไง

ทำให้อยากเห็นวันที่ประเทศไทยนำประวัติศาสตร์บาดแผลนี้มาชำระล้างอีกครั้งเสียที รวมไปถึงความสูญเสียทางการเมืองอื่นๆ อย่างกรณีคนเสื้อแดง ปาตานี ตากใบ ที่ทำให้เกิดการลอยนวลพ้นผิด จนฝังรากลึกในสังคมไทย
Profile Image for Tanan.
226 reviews35 followers
January 28, 2023
อ่านแล้วต้องหยุดพักดมยาดมเป็นระยะ
ไม่ใช่เพราะแก่แล้วนะ (รีบบอกก่อน) แต่เพราะเนื้อหาชวนให้ดำดิ่งชะมัด

ทั้งปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุ่งสังหาร
ทั้งถ้อยคำของผู้ที่สูญเสียคนรัก
ทั้งคำพูด การกระทำที่ตีตราอีกฝ่ายว่า "หนักแผ่นดิน"
เมื่อตีตราแล้วจะรุมฉีกทึ้งร่างหนักแผ่นดินนั้นอย่างไรก็ได้

ทั้งหมดอ่านแล้วหดหู่เหลือเกิน

ยิ่งพอนึกถึงรูปแบบการใช้อำนาจในปี 2519
เทียบกับขบวนการกลุ่มคนรักชาติ���าสนกษัตริย์ที่ผุดขึ้นมาในช่วงสองสามปีนี้
รู้สึกว่าถอดแบบความคิดฝังหัวมาเหมือนกันเป๊ะ

แค่เปลี่ยนชื่อจาก กลุ่มกระทิงแดง กลุ่มนวพล กลุ่มลูกเสือชาวบ้าน วิทยุยานเกราะ ฯลฯ ในสมัยนั้น มาเป็น กลุ่ม ศปปส., ่กลุ่มไทรักษา กลุ่มนักเรียนดี ฯลฯ ในสมัยนี้เท่านั้นเอง

รูปแบบการกระทำอาจไม่ป่าเถื่อนรุงแรงเท่าในอดีต
แต่ก็เหมือนเดิมคือยุยงปลุกปั่น ใช้อำนาจที่โหนอยู่ทำลายล้างอีกฝ่าย
ม.112 เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดี ดูมีอารยะขึ้นมาอีกนิดด้วย

นักศึกษาสมัยนั้น พอโดนล้อมฆ่าก็พากันหนีเข้าป่า
นักศึกษาสมัยนี้ พอโดนคดี ก็ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบไหน
ผ่านมาเกือบห้าสิบปี ประเทศนี้ก็ยังย่ำอยู่ที่เดิม

สมัยปี 2519 เราอาจเห็นภาพเด็กหัวเราะชอบใจที่คนถูกแขวนคอฟาดด้วยเก้าอี้
สมัยนี้ปี 2566 เราอาจได้เห็นคนโพสต์หัวเราะชอบใจที่มีคนติดคุก หรืออาจมีคนต้องอดข้าวอดน้ำจนตายเหมือนกัน

เพราะเรื่องเป็นแบบนี้ เวลาอ่านถึงต้องการยาดม
August 3, 2021
เกิดไม่ทัน แต่พอจะผ่านตาหนังหลายๆเรื่องที่แทรกภาพเหตุการณณ์นี้ได้ แต่ตอนเด็กๆนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า เวลาพูดถึงเหตุการณ์นี้ ทำไมผู้ใหญ่หลายๆคนจะบอกว่าเบาๆหน่อยเดี๋ยวโดนจับ

พอโตขึ้นมาถึงได้รู้ว่า อ๋อออออ ตัวร้ายคือรัฐบาล เหมือนพวกรัฐบาลโลกในการ์ตูนเรื่องวันพีซ คอยใส่ร้ายประชาชน ปิดหูปิดตาและพยายามไม่พูดถึง

การที่ให้ผู้อยู่ในเหตุการณ์ออกมาเล่ามุมมองต่างๆในวันนั้น และคนในหนังสือล้วนมีชีวิตอยู่ มันเรียล มันโคตรสะเทือนใจ ว่ากับมนุษย์ด้วยกันจะทำร้ายกันได้สาหัสขนาดนี้เลยหรือ

“พวกเขาไม่ใช่พวกหนักแผ่นดิน ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ พวกเขาเป็นแค่นักศึกษา”
44 reviews
December 15, 2022
เศษเสี้ยวความทรงจำร้าวรานและหลอกหลอนสังคมไทยไปอีกนาน ภาพความรุนแรงที่ยังฝังลึกในจิตใจของปัจเจก/สังคม

นัยหนึ่ง ร่องรอยเหล่านี้จะยังคงบอกเล่าเรื่องราวความรุนแรงให้ความเป็นรัฐ-ผู้กระทำ-ต้องชดใช้สิ่งที่ตนได้ทำ

แต่นัยหน��่ง กลับเป็นประจักษ์พยานให้ประชาชน-ผู้ถูกกระทำ-ตระหนักเสมอว่ามันเคยเกิดความโหดร้ายขึ้นจริง
Profile Image for Nutdanai.
44 reviews4 followers
June 27, 2021
หนังสือเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความอัดอั้น ผู้ถูกกระทำไม่เคยได้รับการเยียวยามาจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่เราจะทำได้มากที่สุดคือจดจำมันไว้ 6 ตุลาไม่ใช่แค่เหตุการณ์หน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่จงจดจำว่ามันเป็นการสังหารหมู่โดยรัฐ
Profile Image for Non Overme.
25 reviews11 followers
April 11, 2021
ชอบบทสัมภาษณ์ อ.ประจักษ์ ท้ายเล่ม
Profile Image for Pim Tan.
11 reviews
October 6, 2021
หลากหลายอารมณ์ความรู้สึกและจุดประกายอยากให้ค้นคว้าและหาคำตอบเพิ่มเติม
Profile Image for Chontiwat Udomsiripat.
85 reviews1 follower
April 22, 2024
มนุษย์ 6 ตุลา หนังสือที่ไถ่ถามหาความเป็นมนุษย์จากทุกคน

เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 1976 เป็นเหตุการณ์สังหารหมู่นิสิต นักศึกษา ประชาชน ผู้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก หลายครอบครัวบ้านแตกสาเเหรกขาดจากเหตุการณ์นี้ หลายคนลี้ภัย หนีหายไปเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในเขตป่าเขา หลายคนทำอะไรไม่ได้เลย และหลายคนก็เปลี่ยนอุดมการณ์ที่ตนเองยึดมั่นไปยึดถืออีกแบบหนึ่งโดยสิ้นเชิง

หนังสือเล่มนี้เป็นรวมบทสัมภาษณ์มนุษย์ 6 ตุลาหลายคนที่มีชีวิตรอดจากเหตุการณ์นั้น รวมถึงผู้เสียหายจากเหตุการณ์นั้นด้วย จุดร่วมที่เราสัมผัสได้คือ “ความเจ็บปวด” ที่ยังคงเป็นบาดแผลอยู่ในในทุกคน แม้เวลาผ่านมานานแล้ว ความเจ็บปวดนี้ก็ยังอยู่ พร้อมกับคำถามที่ว่า เขาทำไปทำไม เขาทำไปเพื่ออะไร ทำไมมันโหดร้ายขนาดนี้

ขณะเดียวกัน คนรุ่นใหม่ก็ตื่นตัวมากขึ้น มีการศึกษาเหตุการณ์ 6 ตุลานี้อย่างเป็นรูปธรรม คนรุ่นใหม่กำลังเรียกร้องให้มีการชำระประวัติศาสตร์และคืนความยุติธรรมให้เเก่คน 6 ตุลา ในทุก ๆ ปี จะมีงานรำลึก 6 ตุลาในทุกมหาวิทยาลัย ไม่เพียงเฉพาะที่ธรรมศาสตร์ มันแสดงให้เห็นถึงความหวังในการสู้ต่อ ความหวังที่คนรุ่นก่อนได้สร้างไว้ คนรุ่นใหม่และคนที่ยังอยู่ ต้องช่วยกันให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ 6 ตุลาเกิดซ้ำอีกครั้ง

6 ตุลา คนยังยืนเด่นโดยท้าทาย จากรุ่นสู่รุ่น
Displaying 1 - 18 of 18 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.