มาทำความรู้จักจักรยานญี่ปุ่น มือ 2 ก่อนเลือกซื้อ
จักรยานญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้ในบ้านเรา เป็นจักรยานที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง เหมาใส่ตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือแล่นปรู๊ดมาถึงเมืองไทย เมื่อถึงก็จะถูกนำออกมาคัดเกรดทำความสะอาดให้ใสปิ๊ง ส่งขายตามร้านจักรยานมือสองทันที
ทำไมจักรยานญี่ปุ่นถึงเป็นที่นิยมในหลายๆประเทศ ถึงแม้จะเป็น จักรยานมือสองก็ตาม ?
หลายคนคงคิดว่าทำไมจักรยานมือ 2 ญี่ปุ่น ถึงเป็นที่นิยมกันมากในยุคนี้ ทั้งที่เป็นจักรยานที่ถูกใช้แล้ว ต้องบอกเลยว่าคนในปัจจุบัน เริ่มหันมาใช้จักรยานกันมากขึ้นด้วยสาเหตุหลายๆ อย่าง ทั้งค่าน้ำมันที่แพงขึ้น รถติด การสัญจรในหมู่บ้าน ไปซื้อของเซเว่น ปั่นในโรงงาน บางคนใช้เดินทางแค่ระยะสั้นๆ เช่น ทำงานอยู่ในเมือง แต่กว่าจะออกมาถึง BTS หรือ MRT ก็หลายกิโลอยู่... หากจะต้องเดินก็คงได้เหงื่อท่วมแน่นอน หรือหากจะนั่งพี่วินมาทุกวันก็เสียเงินค่าเดินทางอีกหลายบาท เพราะฉะนั้นพอมาบวก ลบ คูณ หารแล้วนั้น การขี่จักรยานน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!! แล้วจักรยานแบบไหนล่ะที่จะใช้แล้วคุ้มค่าที่สุด
ก็ต้องขอยกนิ้วโป้งที่มีอยู่ 2 นิ้ว ให้จักรยานญี่ปุ่นเขาจริงๆ ด้วยความที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ใช้จักรยานในการเดินทางซะส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นจักรยานที่ใช้จะต้องแข็งแรงและมีประสิทธิภาพในการใช้งานให้คุ้มค่า แถมรูปทรงที่ออกแบบ ก็ยังมีการออกแบบมาอย่างหลายหลายสไตล์มีรูปทรงและสีสันที่สวยงาม เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย ออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นจักรยานแม่บ้าน พับได้ หรือ สามล้อ ฯ เป็นต้น
ซึ่งราคา จักรยานญี่ปุ่นมือสอง จะมีเรทตามเกรดและประเภทจักรยาน เช่น ถ้าเป็นจักรยาน พับได้หรือแม่บ้าน ราคาก็จะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,500 บาท จนถึงหลักหมื่นบาท หรือจักรยานสำหรับผู้สูงวัยหรือคนที่ต้องการจักรยานสำหรับขนของอย่าง สามล้อ ก็มีราคาตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป จักรยานเสือหมอบ เสือภูเขา ไฮบริด ก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ 4,500 บาท จนถึงหลักหลายหมื่นขึ้นไป แล้วแต่แบรนด์ รุ่น เกรด สภาพสวยสมบูรณ์ราคาก็จะยิ่งแพงขึ้นไปอีก
ซื้อจักรยานนําเข้าจากญี่ปุ่น มือ 2 ดีหรือไม่ ? (เทียบจักรยานไทย)
เรื่องนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่ต้องตัดสินใจค่อนข้างหนัก การที่เราจะรู้ว่าดีหรือไม่ดี ถ้าลองดูลองใช้ด้วยตัวเองจะตอบได้ดีที่สุด เพราะบางคนอาจจะคิดว่าของมือ 1 ย่อมดีกว่าของมือสองอยู่แล้ว ถ้าคิดอย่างนั้นก็อาจจะใช่ แต่....ก็ไม่เสมอไป ยกตัวอย่างเช่น ของมือสองบางอย่าง เมื่อตอนที่เป็นของใหม่มือ 1 ถูกผลิตออกมาจากวัสดุชั้นเยี่ยม เกรดดี ได้รับการออกแบบ และดีไซน์มาอย่างสวยงามและแข็งแรง ราคามือ 1 หลัก 10,000 บาทขึ้นไป จนถูกใช้งานมาแล้วกลายเป็นของมือสอง แต่ด้วยความที่ถูกผลิตมาอย่างดี เมื่อกลายเป็นของมือสองก็ยังใช้งานได้ดี เพียงแต่มีสภาพที่เก่าลงเท่านั้น ซึ่งอาจมีร่องรอยการใช้งานมากน้อยต่างกันไป เช่นเดียวกับจักรยานญี่ปุ่นเหมือนกัน...…
อะไรดีกว่ากันนั้น ผู้ซื้อคงต้องเปรียบเทียบและวิเคราะห์เอาส่วนประกอบตรงนี้ไปช่วยในการตัดสินใจได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น
#จักรยานญี่ปุ่นมือสอง
ข้อดีของเขาคือ ผลิตขึ้นเพื่อถูกใช้งานในประเทศญี่ปุ่นที่ใช้จักรยานเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นจะต้องถูกออกแบบมาให้แข็งแรงคงทน และใช้งานได้ดีที่สุด มีรูปร่างดีไซน์หลากหลายให้ได้เลือกใช้ มีหลากหลายแบรนด์เนมให้เลือก ซึ่งส่วนประกอบต่าง ๆ ทั้งเกรดของวัสดุ วงล้อ ลูกปืน เฟือง โซ่ ยาง ก็ย่อมที่จะถูกออกแบบมาให้ทนทานกว่า แข็งแรงกว่าสำหรับใช้งานได้ทุกวัน ซึ่งจุดน่าสนใจของจักรยานญี่ปุ่นคือ การขับขี่ที่นิ่มนวล นั่นเอง
แต่ก็มีข้อสังเกต คือ เพราะเป็นของมือสอง ย่อมจะมีร่องรอยขีดข่วนตามสภาพการใช้งาน โดยปกติ ทางร้านจักรยานญี่ปุ่นมือสองที่มีมาตรฐาน จะมีการคัดเกรด ตรวจสอบและเซอร์วิสจักรยานให้เรียบร้อยก่อนนำมาวางขาย ให้อยู่ในสภาพความสวยงามและพร้อมใช้งานที่ 85-95%
#จักรยานไทย
มีข้อดี คือ ของใหม่ สีสันสวยงาม เงาวั๊บ หาซื้อได้ง่ายตามห้างและร้านค้าชั้นนำทั่วไป แต่มีข้อสังเกตคือ ด้วยความที่การผลิตจักรยานไทยต้องแข่งขันด้านราคา จึงอาจมีการปรับลดวัสดุและส่วนประกอบบางอย่าง ให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความทนทานและการขับขี่ รวมทั้งมีแบบดีไซน์ให้เลือกน้อยกว่า
อย่างไรแล้ว การได้ทดสอบปั่นใช้งานด้วยตัวเองจะเป็นการตัดสินใจได้ดีที่สุด หากท่านมีร้านขายจักรยานญี่ปุ่นมือสองที่มีมาตรฐานอยู่ใกล้ ๆ แนะนำให้ไปทดลองขับด้วยตัวเองจะดีที่สุด ย่อมทำให้ผู้ซื้อเข้าใจว่าจักรยานมือสองญี่ปุ่นแตกต่างจากจักรยานไทยตรงไหน