เรื่องราว "ธงชาติ" 5 ประเทศ ภายนอกดูธรรมดา แต่ความหมายลึกซึ้งมาก!

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ทุกคน เวลาน้องๆ เห็นธงชาติของแต่ละประเทศเคยสงสัยกันไหมคะว่าธงแต่ละประเทศมีความหมายว่าอย่างไร บางประเทศก็มีรูปร่างแปลกๆ มีรูปแปลกๆ อยู่ในธง หรือธงบางประเทศก็ดูคล้ายกันกับของอีกประเทศหนึ่ง แถมใช้สีเหมือนกัน วันนี้ พี่กี้ ได้คัดธง 5 ประเทศ ที่มีความหมาย ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของประเทศ ที่อัดแน่นอยู่ในธงนั้นๆ มาเล่าให้น้องๆ ฟังกันค่ะ


 

เอธิโอเปีย


ธงประเทศเอธิโอเปีย
 
    สีเขียว สีเหลือง และสีแดง เป็นสีประจำประเทศที่บ่งบอกถึงตัวตนของประเทศเอธิโอเปีย แรงบันดาลใจของธงชาติประเทศเอธิโอเปียนั้นมาจากหนังสือปฐมกาล(Book of Genesis) หนังสือเล่มแรกของคัมภีร์ไบเบิ้ลภาคพันธสัญญาเดิมที่กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโลกมนุษย์และประเทศอิสราเอล ที่เป็นตัวแทนของชนชาติที่พระเจ้าได้เลือกไว้ และสีเหล่านี้ก็เชื่อมโยงเข้ากับสายรุ้งที่มาจากเรื่องเล่าวันน้ำท่วมโลก 

    เอธิโอเปียใช้ 3 สีนี้มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นจักรวรรดิเอธิโอเปีย ราชวงศ์โซโลมอนิกก็ใช้ทั้ง 3 สีนี้เป็นสีประจำตราราชวงศ์ และใช้เป็นสีบนธงเวลาออกรบ สีแดงในธงนั้นหมายถึงการเสียสละเพื่อเสรีภาพและความเสมอภาค สีเขียวหมายถึงความเท่าเทียมกันทางแรงงาน การพัฒนา และความอุดมสมบูรณ์ ส่วนสีเหลืองนั้นหมายถึง ความหวัง และความยุติธรรม

ตัวอย่างธงประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกาที่ จะเห็นว่าใช้สี Pan-African colours เป็นส่วนใหญ่
 
    ในสมัยล่าอาณานิคมของยุโรป เอธิโอเปียแทบไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของยุโรปเลย(ยกเว้นเพียงช่วงสั้นๆ ที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลีในช่วงปี 1930) ทำให้เอธิโอเปียและธงชาติของประเทศเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศในทวีปแอฟริกาอีกมากมายพยายามสู้เพื่ออิสรภาพ ฉะนั้นสีที่แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของชนชาติแอฟริกัน หรือ Pan-African colours จึงประกอบไปด้วยสีแดง ทอง และเขียว ที่รับมาจากธงชาติเอธิโอเปีย และสีดำที่เป็นตัวแทนสื่อถึงประชาชน ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าธงชาติประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกาในปัจจุบัน ประกอบด้วย 4 สีนี้เป็นหลักค่ะ

 

สหรัฐอเมริกา


 
ธงชาติสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน มีชื่อเล่นว่า Old Glory
 
    ที่มาของธงชาติอเมริกาสามารถย้อนไปได้ถึงสมัยการปฏิวัติอเมริกา ช่วงปี 1765 – 1783 ค่ะ สมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ธงประจำ 13 อาณานิคมดั้งเดิมนั้นเป็นแถบแดงขาวสลับกันไปในแนวนอน จากนั้นก็เพิ่มธงชาติของประเทศอังกฤษไปที่มุมบนซ้ายมือของธง และเรียกธงรูปแบบนี้ว่า The Grand Union แต่หลังจากใช้ได้ไม่นานก็เปลี่ยนธงอังกฤษเป็นดวงดาว 13 ดวงบนพื้นหลังสีน้ำเงิน ส่วนในปัจจุบันนี้มีดวงดาวบนผืนธงรวมทั้งหมด 50 ดวง สื่อถึง 50 รัฐ ของสหรัฐอเมริกานั่นเองค่ะ
 
ธงสมัย Grand Union

ธงกบฏของ Sons of liberty    และ   ธงศูนย์บัญชาการของ จอร์จ วงชิงตัน
 
    แถบแดง-ขาวมีที่มาจากธงแห่งการปฏิวัติของกลุ่ม Sons of Liberty ที่ต้องการเรียกร้องอิสรภาพในปี 1767 ซึ่งธงแห่งการปฏิวัติในตอนนั้นเป็นแถบแดง-ขาว สลับกันในแนวตั้ง จำนวน 9 แถบ ส่วนสัญลักษณ์ดวงดาวนั้นมาจากธงศูนย์บัญชาการของ จอร์จ วอชิงตัน ในปี 1775 ที่เป็นรูปดาวหกแฉก 13 ดวงบนพื้นสีน้ำเงิน 


 

สหราชอาณาจักร


ธง Union Jack ของสหราชอาณาจักร
 
    ธงของสหราชอาณาจักร หรือ the Union Jack นั้นมาจากการรวมธงของแต่ละประเทศในสหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบไปด้วย ประเทศอังกฤษ สก๊อตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ ธงของประเทศอังกฤษเรียกว่า St. George’s Cross. โดยเชื่อกันว่ากษัตริย์ริชาร์ดใจสิงห์เป็นผู้นำสัญลักษณ์กางเขนแดงบนพื้นขาวไปใช้เป็นธงตอนที่ออกรบในสมัยสงครามครูเสดครั้งที่ 3 ซึ่งก่อนหน้านั้นสัญลักษณ์ธงลักษณะนี้ถูกใช้โดยฝรั่งเศส 

ภาพการรวมกันของธงในประเทศสหราชอาณาจักร
 
    ธงชาติสก๊อตแลนด์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ St. Andrew’s Ccross ross หรือ  the Saltire. ธงดั้งเดิมนั้นสื่อถึงผู้พลีชีพเพื่อศาสนาอย่าง St. Andrew ที่เป็นนักบุญผู้ดูแลสก๊อตแลนด์ ตามตำนานเล่าว่า เขาโดนตรึงไว้บนไม้กางเขนที่มีรูปร่างเป็นตัว “X”  สัญลักษณ์นี้ปรากฏใช้ครั้งแรกในธงชาติสก๊อตแลนด์เมื่อปี 1180 ในสมัยของ พระเจ้าวิลเลียมที่1 ส่วนการนำธงกากบาทขาวบนพื้นน้ำเงินมาใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกคือปี 1542 และเมื่อพระเจ้าเจมส์ที่ 4 แห่งสก็อตแลนด์กลายเป็นผู้ปกครองอาณาจักร หมู่เกาะบริติชทั้งสามในปี 1606 ธงกางเขนของอังกฤษและสก๊อตแลนด์จึงได้รวมกัน
 
    ส่วนธง St. Patrick’s Cross ที่เป็นตัวแทนของไอร์แลนด์นั้น มาจากตราของภาคีแห่งนักบุญแพทริก แต่ผู้ประดิษฐ์ตรานี้ขึ้นมาจริงๆ คือ พระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งอังกฤษ ทำให้ชาวไอริชชาตินิยมส่วนมากไม่ยอมรับสัญลักษณ์นี้ เพราะถือว่าไม่ใช่ของไอร์แลนด์ที่แท้จริง แต่ถึงอย่างนั้น ธงนี้ก็กลายเป็นตัวแทนของไอร์แลนด์ที่รวมอยู่ในธง Union Jack ของสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 1801 เป็นต้นมา 


 

เวเนซุเอลา


ธงชาติประเทศเวเนซุเอลาปี 1864 - 2006
 
    ธงชาติเวเนซุเอลามีมาตั้งแต่สมัยสงครามเพื่ออิสรภาพที่ต้องการเป็นอิสระจากจักรวรรดิสเปน คาดว่าออกแบบโดย Francisco de Miranda ผู้พยายามปลดปล่อยเวเนซุเอลาในปี 1806 (แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม) ด้วยความที่ธงมีสัดส่วนของแถบสีเหลือง-น้ำเงิน-แดงที่ไม่เท่ากัน และมีตราสีขาวที่ดูค่อนข้างซับซ้อน ทำให้รูปร่างหน้าตาของธงค่อนข้างไม่เหมือนกันในแต่ละโอกาสและยุคสมัยที่นำมาใช้

    ตั้งแต่ปี 1864 จนถึงปี 2006  ธงชาติของประเทศเวเนซุเอลามีดาว 7 ดวงเรียงกันเป็นรูปครึ่งวงกลมอยู่ตรงกลางผืนธง แสดงถึงเจ็ดจังหวัดที่ให้การสนับสนุนในช่วงสงครามเพื่ออิสรภาพ และมีตราประจำประเทศอยู่ที่มุมบนซ้ายของธง  สีแดงของธงนั้นแสดงถึงความกล้าหาญ หรือบางครั้งอาจจะหมายถึงประเทศสเปนด้วย ส่วนสีน้ำเงินหมายถึงอิสรภาพของเวเนซุเอลาจากจักรวรรดิสเปน และสื่อถึงมหาสมุทรแอดแลนติกที่แยก 2 ประเทศนี้ออกจากกัน สุดท้าย สีเหลืองหมายถึงความมั่งคั่งและโอกาสครั้งใหม่ของประเทศนั่นเองค่ะ  

ธงชาติประเทศเวเนซุเอลาปี 2006 - ปัจจุบัน
 
    ส่วนรูปแบบธงในปัจจุบัน เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2006 ค่ะ เมื่อเพิ่มดาวเข้าไปอีกดวง เพื่อระลึกถึงวีรบุรุษของประเทศ อย่าง Simón Bolívar ผู้ที่เป็นแกนนำการเคลื่อนไหวให้ประเทศต่างๆ ในทวีปอเมริกาใต้เป็นอิสระจากสเปน


 

 เกาหลีใต้



    ธงชาติประจำประเทศเกาหลีนั้นมีชื่อเรียกว่า แทกึกกี โดยที่จะมีสีขาวเป็นสีพื้นหลัง หมายถึงความสงบ และความบริสุทธิ์ และมีสัญลักษณ์หยินหยางที่ใช้สีแดงและน้ำเงินอยู่ตรงกลางธงเพื่อสื่อถึงความเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้ล้วนมีด้านบวก(สีแดง) และด้านลบ(สีน้ำเงิน) เป็นของคู่กัน ไม่สามารถคงอยู่ได้หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป

    บริเวณรอบๆ สัญลักษณ์หยินหยางนั้นประกอบไปด้วยขีดสีดำอยู่สี่มุม ขีดสีดำเหล่านั้นมีจำนวนและความสั้นยาวไม่เท่ากันในแต่ละอัน สิ่งนี้เรียกว่า คเว  ซึ่งสร้างมาจากส่วนหนึ่งของคัมภีร์อี้ชิงของจีน สัญลักษณ์นี้แสดงถึงธาตุสามัญของโลกทั้ง 4 ธาตุ ประกอบไปด้วย อากาศ(สวรรค์), พื้นดิน, น้ำ(พระจันทร์) และ ไฟ(พระอาทิตย์) โดยแต่ละคเวนั้นจะมีทั้งขีดที่เชื่อมต่อกันและไม่เชื่อมต่อกัน ขีดที่เชื่อมต่อกันสื่อถึง หยิน (ความมืดและเย็น) ส่วนขีดที่ไม่เชื่อมต่อกันสื่อถึง หยาง (ความสว่างและความร้อน) และคเวที่อยู่ตรงข้ามกันจะสื่อถึงธาตุที่ตรงข้ามกันด้วยค่ะ

    

    จะเห็นว่าธงแต่ละผืนกว่าจะมีหน้าตาอย่างในปัจจุบันต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก แต่ละสี แต่ละสัญลักษณ์ ล้วนมีความหมายลึกซึ้งทั้งหมด แถมยังบอกเล่าประวัติความเป็นมาของแต่ละประเทศได้อีกด้วย แม้บางสีจะใช้ซ้ำกันเยอะแต่ก็มีความหมายต่างกัน ทำให้ธงชาติเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศอย่างแท้จริง




ขอบคุณข้อมูล
http://www.toptenz.net/10-national-flags-histories.php
พี่กี้

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด