สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ว่า โบราณวัตถุดังกล่าวถูกขโมยโดยนายดักลาส แลตช์ฟอร์ด นักค้าโบราณวัตถุจำนวนมาก ซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาในปี 2562 ว่าเป็นผู้ดำเนินการเครือข่ายสำคัญ ที่ขโมยสมบัติจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อัยการสหรัฐกล่าวว่า โบราณวัตถุของกัมพูชา 13 ชิ้น อยู่ระหว่างการส่งกลับประเทศต้นทาง ขณะที่พิพิธภัณฑ์เมต ซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุเหล่านี้ ระบุว่า ทางพิพิธภัณฑ์จะส่งคืนประติมากรรมให้กับกัมพูชา และไทย เป็นจำนวน 14 ชิ้น และ 2 ชิ้น ตามลำดับ

ด้านสำนักงานของนายเดเมียน วิลเลียมส์ อัยการสหรัฐประจำเขตนิวยอร์กใต้ ระบุว่า แลตช์ฟอร์ด ถูกตั้งข้อหาวางแผนและเตรียมการเป็นเวลาหลายปี เพื่อขายโบราณวัตถุของกัมพูชาที่ถูกขโมย ในตลาดงานศิลปะระหว่างประเทศ แต่ศาลมีคำสั่งยกฟ้องในเวลาต่อมา เนื่องจากจำเลยเสียชีวิต

“ภายหลังการยกฟ้องของแลตช์ฟอร์ด พิพิธภัณฑ์เมต ได้ติดต่อไปยังอัยการและเจ้าหน้าที่รัฐของกัมพูชา ซึ่งการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเช่นนี้ ทำให้ทางพิพิธภัณฑ์ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับประติมากรรมที่ถูกขโมย และเห็นพ้องว่าผลงานศิลปะเหล่านี้ควรถูกส่งคืนให้กับประเทศต้นทาง” พิพิธภัณฑ์เมต ระบุ

ทั้งนี้ นายฮับ ธัช โฆษกกระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชา กล่าวก่อนการประกาศส่งคืนว่า โบราณวัตถุข้างต้นเป็นสิ่งของซึ่งสำคัญมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทางการกัมพูชา เรียกร้องให้ทางการสหรัฐดำเนินการส่งคืน

“มันเป็นโบราณวัตถุของพวกเรา ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงสมัยเมืองพระนคร และเป็นสิ่งของโบราณที่เป็นจิตวิญญาณของบรรพบุรุษของพวกเรา” ธัช กล่าวทิ้งท้าย.

เครดิตภาพ : AFP