เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นายวัชระ แสนหาญ นายช่างโยธาธิการชำนาญงาน อบต.หนองกุง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นางบัวลา แสนหาญ อายุ 60 ปี นำเอกสารแผ่นภาพพร้อมคลิปที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20 คน ที่บุกรุกบ้านในยามวิกาล พร้อมใช้อาวุธทำลายทรัพย์สินและทำร้ายเด็กในบ้านได้รับบาดเจ็บ 3 คน

นางบัวลา กล่าวว่า เหตุกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20 คน ขี่รถจักรยานยนต์และรถกระบะเข้ามาจอดหน้าบ้าน พร้อมใช้อาวุธประกอบด้วย มีดสปาต้า ไม้เบสบอล ขวดเหล้า ขวดเบียร์ กรูเข้ามากระหน่ำฟันเบาะรถจักรยานยนต์ ขว้างใส่หน้าบ้าน ตะโกนด่าทอด้วยคำพูดหยาบคายและทำร้ายร่างกายเด็ก ซึ่งเป็นหลานและเพื่อนในบ้านได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เกิดขึ้นครั้งแรกคืนวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ประมาณ 3 ทุ่ม โดยมีกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 14-17 ปี ยกพวกตีกันที่หน้าบ้านของตนก่อนจะสลายตัวไป ต่อมาประมาณ 03.00 น. วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวก็ขับรถมาขว้างขวดเหล้าขวดเบียร์เข้ามาในบ้าน จนขวดแตกกระจายเต็มหน้าบ้าน

นางบัวลา กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 22.00 น. ก็เข้ามาก่อเหตุในลักษณะเดียวกันซ้ำอีก ทำให้หลานและเพื่อนที่นั่งเล่นโทรศัพท์ในบ้านได้รับบาดเจ็บ 3 คน อาการหนักสุดคนหนึ่ง ถูกแผ่นเหล็กตีเข้าที่บริเวณหัวไหล่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก จึงมาแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับวัยรุ่นกลุ่มนี้อย่างถึงที่สุด

ด้านนายวัชระ แสนหาญ นายช่างโยธาธิการชำนาญงาน อบต.หนองกุง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นลุงของ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ขวบ และ ด.ช.บี อายุ 14 ปี (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเหตุกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว บุกเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ และลงมือทำลายทรัพย์สินดังที่ปรากฏในคลิปนั้น มีสาเหตุมาจากอะไร แต่ที่เข้าใจคือเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ และสร้างความหวาดผวาให้คนในบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งบุกรุกในยามวิกาล ทำลายทรัพย์สินและทำร้ายร่างกาย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด คาดว่าคงตามตัวไม่ยาก แม้ช่วงที่รุมทำร้ายเด็กจนได้รับบาดเจ็บ กล้องวงจรปิดจะบันทึกไม่ได้ แต่คลิปปรากฏรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และใบหน้าของคนที่ลงมือที่บุกเข้ามาก่อเหตุอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้น เป็นวัยรุ่นหมู่บ้านข้างเคียง ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 4 กม.