เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.สมภพ พุฒศรี ผบก.ศูนย์พิสูจณ์หลักฐาน 8 ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้นเป้าหมายครอบครองอาวุธปืน ตามแผนปฎิบัติการกวาดล้างยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย จับกุมนายอภิสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลาง ปืนยาวขนาด .22 ยี่ห้อซีแซด 1 กระบอก มีใบอนุญาตครอบครอง อาวุธ, ปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ไม่ทราบขนาด 1 กระบอก และสิ่งเทียมอาวุธปืน บีบีกัน 41 กระบอก และตรวจค้นสถานที่ซ้อมยิงปืนพบสิ่งเทียมอาวุธปืน บีบีกัน 5 กระบอก โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดโน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร และสมุดทะเบียนรถ โดยจับกุมได้ในบ้านพัก พื้นที่หมู่ 5 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม./หน.ชุด PCT ชุดที่ 1 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 และ พล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี สืบทราบว่า มีบุคคลใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ ช่างแอร์สุราษฎร์ ช่างเปิ้ล (ช่างแอร์สุราษฎร์ ล้างแอร์) โพสต์ข้อความ คลิป และภาพเกี่ยวกับอาวุธปืน ในลักษณะทำใประชาชนตื่นกลัว จึงสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าบุคคลที่ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ดังกล่าวคือ นายอภิสิทธิ์ จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายศาลจังหวัดเข้าตรวจค้น 3 จุด ประกอบด้วยบ้านพักนายอภิสิทธิ์ 2 จุด และสนามซ้อมยิงปืนชื่อ “สนามบีบีกัน ช่างแอร์ในตำนาน” ซึ่งอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่ใกล้เคียงกัน ก่อนจับกุมยึดของกลางดังกล่าว

นายวิชวุทย์ กล่าวว่าการกระทำของนายอภิสิทธิ์เป็นไปในลักษณะที่ทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อและเกิดความหวาดกลัว และพบว่าผู้ก่อเหตุได้รับใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน ซึ่งตนจะได้มอบหมายให้ฝ่ายตำรวจเสนอความเห็นเพื่อจารณาเกี่ยวกับการเพิกถอนใบอนุญาตว่า เข้าเกณฑ์ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ อย่างไรก็ตามในขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดและสิ่งผิดกฏหมายอย่างเข้มข้น หากประชาชนพบเห็นว่ามีข้าราชการ หรือประชาชนทั่วไปมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็สามารถแจ้งเบาะแสให้ตนทราบได้ทันที เราพร้อมที่จะเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที

พล.ต.ต.ศรัญญู กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นนายอภิสิทธิ์ ให้การว่า บีบีกันที่มีไว้ในครอบครองใช้เพื่อประโยชน์ด้านกีฬาตามความชอบส่วนตัว รวมถึงมีสถานที่ฝึกซ้อมด้วยตัวเอง โดยจะใช้เวลาว่างร่วมกับพรรคพวกเพื่อนฝูงลูกน้องในที่ทำงานฝึกซ้อมกันบ่อยครั้ง และนำไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยไม่คิดว่าจะสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้อื่นจนถูกร้องเรียน ซึ่งภายหลังจากที่ทางตำรวจรับเรื่องร้องเรียนและเข้าสืบสวนพบว่าบ่อยครั้ง ยังพบว่านายอภิสิทธิ์ มักจะแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ ยิ่งทำให้ประชาชนหวาดกลัว เบื้องต้นได้นำส่งสิ่งเทียมอาวุธปืน บีบีกัน ให้ศูนย์พิสูจณ์หลักฐาน ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่า มีการดัดแปลงเพื่อให้สามารถใช้แทนอาวุธจริงได้หรือไม่ ส่วนการดำเนินการในขั้นนี้ ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กับนายอภิสิทธิ์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายอภิสิทธิ์ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบว่ามีการซื้อขายสิ่งเทียมอาวุธปืนบีบีกันหรือไม่ เนื่องจากกฎหมายไม่อนุญาตให้มีการซื้อขาย