เมื่อวันที่ 22 ก.ย. โลกออนไลน์เกิดกระแสพูดถึงพร้อมวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก หลัง คุณชายอดัม หม่อมเจ้าเฉลิมชาตรี ยุคล ลูกชายของ ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ถ้าดาราเป็นดาราเลยเพียงอย่างเดียว รายได้จะไม่มีทางถอย Supercar 2-3 คันใน 1 ปีได้เลย ยกเว้นแต่จะดาวน์และผ่อนเอา ซึ่งก็หนักหนาอยู่ดีครับ” ถ้านักแสดง 1 คน สร้างบ้าน 4-5 หลัง รถสปอร์ต 4-5 คัน เที่ยวต่างประเทศไตรมาสละ 2-3 ครั้ง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับงานแสดงหนัง+ละคร แล้วจะมีเงินจ่ายขนาดนี้ครับ

สมมุติว่าเล่นภาพยนตร์ หนังไทยเรื่องหนึ่งงบอยู่ที่ 10-30 ล้านบาท ถ้านักแสดงหนึ่งคนรับ 5 เรื่อง ก็คือใช้เวลาเล่นหนัง 75 วัน แล้วโดยประมาณถ้าคิด 5 ล้านบาทต่อเรื่อง (ซึ่งคงเป็นไปได้ยากมากที่จะมีนักแสดงที่ได้เงินขนาดนี้ต่อภาพยนตร์ 1 เรื่องแน่ๆ) ก็ 25 ล้านบาท ก็อาจจะได้ Super Car หนึ่งคัน

ถ้าเล่นละคร ตอนนึงราคาสูงสุดก็เอาไปเลย 2 แสนบาทต่อตอน (นักแสดงเบอร์ใหญ่สุดๆ ของเมืองไทยแบบ Top 5 ของประเทศละครับ) ดังนั้นก็จะได้เรื่องนึงประมาณ 3 ล้านบาท แบบเยอะเหลือเชื่อแล้วนะครับ ถ้าละคร อีก 5 เรื่องก็คือระยะเวลาถ่ายทำประมาณ 40 วันต่อเรื่อง (ซัก 16 ตอนต่อเรื่องนะครับ กะๆ เอา) ก็จะใช้อีก 200 วัน ก็รวมๆ 15 ล้านบาท
“รวมสองอันก็ 275 วันแล้ว ได้ 40 ล้านบาท ได้ Aventador คันหนึ่งละครับ”

แปลว่าถ้าจะเอาบ้านอีกซักหลังที่ 10-20 ล้าน ก็ต้องทำงานเหนื่อยหน่อยนะครับ แล้วถ้าไปเมืองนอก 5 วัน 3 ครั้งทุกไตรมาส ก็จะเป็น 45 วันที่ไปเที่ยวต่างประเทศต่อปี ไม่นับรวมปาร์ตี้ EDM ดังๆ 5-10 ครั้งต่อปี ก็ 55 วัน
“ตอนนี้ก็ 330 วันละครับ เหลืออีก 35 วัน”

ตรงนี้ก็อยู่ที่ว่าถ้าอยากได้เงินไว้ใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย ก็ต้องทำอย่างอื่นควบคู่ไปครับ เช่น ออกอีเวนต์ ซึ่งจะได้ประมาณ 3 แสนต่อวัน (ซักวันละ 3 งาน งานละ 1 แสน รอบละ 3 ชั่วโมง ก็จะใช้เวลา 9 ชั่วโมงต่อวัน ไม่รวมเดินทาง ซึ่งเดินทาง 1 ชั่วโมง ก็ 12 ชั่วโมงต่อวันละ) “ก็จะได้อีก 9 ล้านบาท สำหรับ 30 วัน” ส่วน 5 วันที่เหลือไว้ไปงานวันเกิดเพื่อน ไปไหว้คุณพ่อคุณแม่และดูแลครอบครัว “แปลว่านักแสดงที่ขยันเกินนักแสดงที่งานชุกที่สุดในประเทศไทย 3 คน รวมกันก็จะสามารถยืนได้ด้วยตัวเองแบบมีบ้านมีรถดีๆ และทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน”

“แต่ถ้างานไม่ได้เยอะขนาดนั้น ไม่ได้ดังขนาดนั้น ค่าตัวไม่ได้แรงขนาดนั้น แล้วอยู่ในวงการแบบร่ำรวยกว่ามหาเศรษฐีได้ แปลว่าต้องมีอาชีพเสริมที่ร่ำรวยมากๆ อยู่แล้วแน่นอนครับ” หลายๆคนอายุ 20 กว่าๆ ร่ำรวยขนาดนี้ ก็แปลว่าเริ่มต้นทำธุรกิจที่จับตลาดได้ดีสุดๆ ตั้งแต่เริ่มต้นเลย ก็เลยทำให้จับทางได้แล้วก็อู้ฟู่จนใช้เงินถอยรถ Super Car ได้มากมาย (ทำให้ Grey Market ขายกันเพิ่มขึ้นมากในแต่ละปีครับ/ขอแก้เอาสถิติออกเพราะข้อมูลต้นทางไม่ถูกต้องนะครับ) ถือว่านักแสดง/นักร้อง/อินฟลูฯ ไทยจำนวนมากมีความสามารถสูงมากแบบที่ไม่มีมาก่อนในเอเชียครับ ต้องยอมรับในความสามารถน้องๆ สมัยนี้จริงๆ ครับ..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @เฉลิมชาตรี ยุคล