พูดถึงกีฬามวย ถือเป็นกีฬาอาชีพที่ต้องใช้ร่างกายเข้าปะทะ และมีความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ มันจึงไม่แปลกที่นักมวยแต่ละคนย่อมต้องพยายามก้าวขึ้นไปอยู่ในแนวหน้า ซึ่งจะนำมาสู่การโกยเงินแบบสมน้ำสมเนื้อ คุ้มค่าต่อการเอาร่างกายเข้าเสี่ยงหน่อย

ล่าสุดมีการสำรวจเพื่อจัดอันดับนักมวยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่าใครคือพ่อค้ากำปั้นที่โกยเงินเข้ากระเป๋า ต่อการออกหมัดเข้าเป้า 1 หมัดมากที่สุด โดยคำนวนจากเงินค่าตัวหารด้วยจำนวนหมัดที่ชกเข้าเป้า โดยมีข้อแม้ว่านับเฉพาะไฟต์ที่ขายเปย์เปอร์วิวได้เกิน 1 ล้านเครื่อง ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา

ขอบอกว่าบางชื่อใน 10 อันดับแรก อาจทำให้คุณเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ…

10. โจเซฟ ปาร์เกอร์ : หมัดละ 65,987 ปอนด์ (ราว 2.8 ล้านบาท)

นี่คือนักมวยชาวนิวซีแลนด์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์โลกมาครอง หลังเจ้าตัวเอาชนะ แอนดี รุยซ์ จูเนียร์ กระชากแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวตมาครองเมื่อปี 2016 ก่อนจะไปเสียให้ แอนโธนี โจชัว ยอดมวยชาวอังกฤษ ด้วยการแพ้คะแนนขาดลอยเมื่อปี 2016 ซึ่งในไฟต์นี้ ปาร์เกอร์ รับค่าตัวเน้น ๆ 6.6 ล้านปอนด์ เมื่อหารด้วยจำนวนหมัดเข้าเป้า 101 หมัด เท่ากับว่าเจ้าตัวรับเงินไปหมัดละ 65,987 ปอนด์

9. รอย โจนส์ จูเนียร์ : หมัดละ 67,548 ปอนด์ (ราว 2.85 ล้านบาท)

นี่คือสุดยอดแชมป์โลกไร้เทียมทานในยุค 90 เป็นหนึ่งในนักชกที่มีพรสวรรค์ที่สุดของหนึ่งนับตั้งแต่วงการกำปั้นโลกเคยมีมา อย่างไรก็ตาม ไฟต์ของเจ้าตัวที่มีคนซื้อเปย์เปอร์วิวเกิน 1 ล้านหลังปี 2010 คือไฟต์ที่เขาขึ้นชกโชว์กับ ไมค์ ไทสัน ตำนานแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวต เมื่อปี 2020 ซึ่งไฟต์นั้นเขาได้ค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ และออกหมัดเข้าเป้าแค่ 37 หมัด เฉลี่ยแล้วหมัดละ 67,548 ปอนด์

8. คาเลบ แพลนท์ : หมัดละ 82,484 ปอนด์ (ราว 3.5 ล้านบาท)

นักชกเลือดผู้ดีรายนี้ โกยเงินค่าตัวเข้ากระเป๋าถึง 8.33 ล้านปอนด์ ในไฟต์ที่เขาขึ้นชกกับ ซาอูล “คาเนโล” อัลวาเรซ ยอดมวยขวัญใจชาวเม็กซิกัน และไฟต์นั้นเขาออกหมัดเข้าเป้า 101 หมัด เท่ากับว่า แพลนท์ ฟันเงินรางวัลจากการชกเข้าเป้าถึงหมัดละ 82,484 ปอนด์

7. แมนนี ปาเกียว : หมัดละ 96,785 ปอนด์ (ราว 4.1 ล้านบาท)

ถ้าคุณเป็นแฟนมวย ชื่อของยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์รายนี้คงไม่ต้องการการแนะนำใด ๆ และหลังจากปี 2010 เป็นต้นมา “เดอะ แพคแมน” มีไฟต์ที่ขายเปย์เปอร์วิวได้เกิน 1 ล้านเครื่องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟต์กับ เชน มอสลีย์, ฮวน มานูเอล มาร์เกซ, ทิโมธี แบรดลีย์, ฟลอยด์ เมย์เวตเธอร์ จูเนียร์ และ อาเดรียน โบรเนอร์ ซึ่งรวมค่าตัวทุกไฟต์ที่ว่ามา ปาเกียว กวาดค่าตัวเข้ากระเป๋ารวม 263.17 ล้านปอนด์ เมื่อหารจำนวนหมัดเข้าเป้าจากทุกไฟต์รวมกันซึ่งอยู่ที่ 2,720 หมัดนั้น เฉลี่ยแล้ว ยอดมวยตากาล็อกจะรับทรัพย์หมัดละ 96,785 ปอนด์

6. อเล็กซานเดอร์ โพเวตกิน : หมัดละ 106,352 ปอนด์ (ราว 4.5 ล้านบาท)

นักชกรุ่นยักษ์ชาวรัสเซียรายนี้ เป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ฟันเงินค่าตัวถึง 5 ล้านปอนด์ ในไฟต์ที่เขาแพ้ แอนโธนี โจชัว ยก 7 ในการชกที่สนามเวมบลีย์ เมื่อปี 2018 โดยไฟต์นั้นเขาออกหมัดเข้าเป้าแค่ 47 หมัด เท่ากับว่ารับทรัพย์ไปหมัดละ 106,352 ปอนด์เลยทีเดียว

5. วลาดิเมียร์ คลิตช์โก : หมัดละ 115,215 ปอนด์ (ราว 4.9 ล้านบาท)

คลิตช์โก คนน้อง ถือเป็นยอดแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวตในยุค 2000 ก่อนจะเสียแชมป์ให้ ไทสัน ฟิวรี นักชกผู้ดีในปี 2015 อย่างไรก็ตาม ไฟต์ที่ทำให้เขามีชื่อในลิสต์นี้ คือไฟต์ที่เขาบุกมาท้าชิงแชมป์จากเอวของ แอนโธนี โจชัว ที่เวมบลีย์ ในปี 2017 ซึ่งลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของยักษ์ยูเครนในยกที่ 11 โดยไฟต์นี้เจ้าตัวฟันค่าตัวไป 10.83 ล้านปอนด์ ขณะที่จำนวนหมัดเข้าเป้าของเขาในไฟต์นี้ อยู่ที่ 94 หมัด เท่ากับรับทรัพย์ไปหมัดละ 115,215 ปอนด์

4. ไมค์ ไทสัน : หมัดละ 124,342 ปอนด์ (ราว 5.3 ล้านบาท)

“มฤตยูดำ” คือตำนานแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวตในยุค 80 และ 90 ดังนั้น ไฟต์ที่ทำให้เขามีชื่อในโผนี้ ย่อมไม่ใช่ไฟต์ที่อยู่ในยุคที่เจ้าตัวเฟื่องสุดขีด แต่มันคือไฟต์ที่เจ้าตัวขึ้นชกโชว์กับ รอย โจนส์ จูเนียร์ เมื่อปี 2020 นั่นเอง โดยไฟต์นั้น ไทสัน ต่อยเข้าเป้าไป 67 หมีด เมื่อหารกับค่าตัว 8.33 ล้านปอนด์แล้ว เท่ากับว่าเขาฟันเงินเข้ากระเป๋าไปถึงหมัดละ 124,342 ปอนด์

3. แอนโธนี โจชัว : หมัดละ 208,743 ปอนด์ (ราว 8.8 ล้านบาท)

ยอดมวยยักษ์เลือดผู้ดี เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน มีไฟต์ที่ขายเปย์เปอร์วิวได้เกิน 1 ล้านเครื่องถึง 4 ไฟต์ นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ไล่มาตั้งแต่ไฟต์กับ วลาดิเมียร์ คลิตช์โก, โจเซฟ ปาร์เกอร์, อเล็กซานเดอร์ โพเวตกิน และไฟต์แก้มือกับ แอนดี รุยซ์ จูเนียร์ ซึ่งรวม 4 ไฟต์นี้ “เอเจ” ฟันค่าตัวรวม 92.44 ล้านปอนด์ ส่วนจำนวนหมัดเข้าเป้า 4 ไฟต์รวมกันอยู่ที่ 443 หมัด เท่ากับรับทรัพย์หมัดละ 208,743 ปอนด์

2. คอเนอร์ แม็ดเกรเกอร์ : หมัดละ 225,160 ปอนด์ (ราว 9.5 ล้านบาท)

บางคนอาจสงสัยว่า แม็คเกรเกอร์ เป็นนักสู้สไตล์เอ็มเอ็มเอ จะถูกนับเข้ามาอยู่ในลิสต์นี้ได้อย่างไร แต่ต้องไม่ลืมว่าเจ้าตัวเคยชกมวยสากลมาแล้ว แถมเป็นไฟต์หยุดโลกกับ ฟลอยด์ เมย์เวตเธอร์ จูเนียร์ ยอดมวยไร้พ่ายชาวอเมริกันเสียด้วย เมื่อปี 2017 ซึ่งไฟต์นั้นขายเปย์เปอร์วิวได้มหาศาล ทำให้ค่าตัวทั้งคู่ยิ่งพุ่งสูง โดยแม้จะพ่ายไปในยกที่ 10 แต่นักสู้จอมแสบเลือดไอริช รับทรัพย์ไป 24.98 ล้านปอนด์ในไฟต์นั้น และจำนวนหมัดที่เขาต่อย ฟลอยด์ ได้ อยู่ที่ 111 หมัด เฉลี่ยแล้วเจ้าตัวรับไปหมัดละ 225,160 ล้านบาท

1. ฟลอยด์ เมย์เวตเธอร์ จูเนียร์ : หมัดละ 239,358 ปอนด์ (ราว 10.1 ล้านบาท)

นี่คือนักชกที่เป็นสัญลักษณ์ของการโกยรายได้มหาศาล มิฉะนั้นคงไม่ได้ฉายาว่า “เดอะ มันนี” และนอกจากไฟต์กับ แม็คเกรเกอร์ แล้ว เจ้าตัวยังมีไฟต์ที่ทำยอดเปย์เปอร์วิวเกิน 1 ล้านเครื่องอีกมากมาย ทั้งไฟต์กับ แมนนี ปาเกียว, มิเกล ค็อตโต และ เชน มอสลีย์ ซึ่งรวมแล้ว เจ้าตัวฟันเงินค่าตัวจากไฟต์เหล่านี้รวม 448.9 ล้านบาท เมื่อหารด้วยจำนวนหมัดเข้าเป้า 1,876 หมัดแล้ว เท่ากับว่าเขารับทรัพย์ไปหมัดละ 239,358 ปอนด์

หรือเป็นเงินไทยกลม ๆ หมัดละ 10 ล้านบาท เท่านั้นเอง…!!!