เนื่องจาก จำนวนครอบครัวเดี่ยวและคนโสดเพิ่มมากขึ้น คู่สมรสมีบุตรน้อยลงและคนไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่บ้านจึงมองหาสัตว์เลี้ยงมาเป็นเพื่อน ดังนั้นวันนี้ทีมข่าววาไรตี้สัตว์เลี้ยง มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษกับผู้บริหารธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่มองธุรกิจสัตว์เลี้ยงในปี 2566 ว่าอย่างไร

วรพัทธ์ อัครกุลไกรเลิศ นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย TPIA เปิดเผยว่า อนาคตของผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงในปี 2566 ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 8-10% ปัจจุบันแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยเลี้ยงแบบลักษณะความเป็นเจ้าของ หรือ Ownership กลายเป็นการเลี้ยงแบบความผูกพันเหมือนคนในครอบครัว และต้องการเลือกสิ่งที่ดีมีคุณภาพให้กับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ และบริการต่างๆ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้าที่เติบโตย่างต่อเนื่อง จะเป็นกลุ่มแมว ส่วนตลาดอาหารสุนัขมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดทั้งในด้านรายได้และขนาดการใช้จ่าย ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดนี้มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความต้องการอาหารสัตว์ราคาแพง (Premium treats) เพิ่มสูงขึ้น ผู้บริโภคเลี้ยงสัตว์ด้วยความรักและให้ความผูกพัน ทำให้ต้องการอุปกรณ์เลี้ยงสัตว์มากขึ้น เช่น อาหารสัตว์ประเภทอื่น ๆ ที่หลากหลายมากกว่าอาหารสัตว์จำพวกอาหารเม็ดหรืออาหารแบบเปียกอย่างเดิม และสัตว์เลี้ยงประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คาดว่าเป็น 1.แมว 2.​Small​Animal 3.​สุนัข 4.​ปลา 5.​นก ตามลำดับ

ศุภกฤต อัศวชัยพร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด มองอนาคตว่า อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย หรือแม้แต่ในต่างประเทศทั่วโลก มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แม้กระทั่งในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงโดยรวมในตลาดก็ยังรักษาระดับการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ยังมีผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหม่ ๆ เกิดขึ้น หรือแม้แต่ผู้ผลิตรายเก่าๆ เองก็ยังออกสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอยู่เรื่อย ๆ อย่างของ PCG เองก็มีออกอาหารประกอบการรักษาโรค SmartHeart Gold สำหรับสุนัขและแมวที่เป็นโรคไต และโรคนิ่ว
สตรูไวท์ หรือแม้แต่อาหารสุนัขที่เลี้ยงในบ้านอย่าง SmartHeart Gold Indoor ที่เราได้เปิดตัวในช่วงกลางปีที่ผ่านมา และก็ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า

ถึงแม้ว่าในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบให้การจัดงานสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ นั้นหยุดชะงักลงไป ซึ่งอันนี้ก็คงเป็นผลกระทบที่เกิดกับทุกอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่เฉพาะอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง แต่เมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น ทุกบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงก็พร้อมที่จะเดินหน้ากันต่อไป โดยจะเห็นได้จากงานสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ที่จัดขึ้นกันอย่างคึกคักตั้งแต่ต้นปี ซึ่งทาง PCG ของเราก็ได้สนับสนุนและร่วมออกงาน Event สัตว์เลี้ยงทุกเดือน บางเดือนมีจัดงานทุกสัปดาห์เลยก็มี หรือแม้แต่ศูนย์การค้าบางแห่งที่ไม่เคยจัดมาก่อนก็เริ่มจัดปีนี้เป็นครั้งแรก สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเชื่อมั่นว่า อนาคตของอาหารสัตว์เลี้ยงในปี 2566 ต้องเติบโตขึ้นอีก และมีการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน และผมเชื่อว่าผู้ประกอบการทุกรายก็ได้เตรียมรับมือกับการแข่งขันที่กำลังจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตไว้แล้วอย่างแน่นอน

“กระแส หรือเทรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง ผมคิดว่าตอนนี้หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า Pet Humanization กันมาบ้างแล้วนะครับ เพราะตอนนี้การเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงภายในบ้านได้เปลี่ยนจากการที่เรามองเห็นเค้าเป็นแค่สุนัขหรือแมวที่เลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้านเท่านั้น แต่เราเห็นเค้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวไปแล้ว โดยเจ้าของจะใส่ใจดูแลสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น ทั้งในเรื่องของอาหาร การรักษาโรค ตลอดจนการดูแลจิตใจของพวกเค้าอีกด้วย” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย

ตีรญา ทองเกิด ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง มองอนาคตของธุรกิจสัตว์เลี้ยงในปีหน้าว่าภาพรวมธุรกิจสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโตในทิศทางบวก จากปัจจัยความคลี่คลายของสถานการณ์โควิด-19 และความสำเร็จเป็นอย่างดีในทุกครั้งของการจัดงานในปี 2565 ที่ผ่านมา ทาง อิมแพ็ค เราจัดงานแสดงสินค้าและบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประกอบด้วย ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็ท วาไรตี้ เอ็กซิบิชั่น เดือนมีนาคม ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ด็อก โชว์ ช่วงเดือนมิถุนายน และไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็ท วาไรตี้ เอ็กซิบิชั่น เดือนตุลาคม ซึ่งทั้ง 3 งานมียอดรวมผู้เข้าร่วมงานราวกว่าแสนคน และจำนวนสัตว์เลี้ยงก็เพิ่มขึ้น

“สำหรับปี 2566 ทาง อิมแพ็ค ยังคงร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ ทั้งในส่วนของสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย และภาคเอกชนต่าง ๆ จัดงานแสดงสินค้าและบริการสัตว์เลี้ยงครบวงจร รวมถึงการจัดโชว์ การประกวดแข่งขันชิงรางวัลต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นวางแผนจัดงาน 3 งานทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและต่างจังหวัด ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็ท วาไรตี้ เอ็กซิบิชั่น วันที่ 2-5 กุมภาพันธ์ 2566 จังหวัดเชียงใหม่ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ด็อก โชว์ วันที่ 6-9 กรกฎาคม 2566 ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็ท วาไรตี้ เอ็กซิบิชั่น วันที่ 5-8 ตุลาคม 2566 ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ย้ำว่าปีนี้การจัดงานยังคงเน้นความสนุกสนาน และเตรียมไฮไลต์สำคัญ ๆ ไว้คอยต้อนรับ อยากฝากผู้รักสัตว์เลี้ยงทุกท่านได้ติดตามและขออนุญาตเชิญชวนเข้าร่วมงานล่วงหน้าเลย” ตีรญา ทองเกิด ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวทิ้งท้าย.

วรพล เพชรสุทธิ์/ณัฐา มีเจริญ