พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ เชียงใหม่

Daraphirom Palace Museum

พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์สร้างขึ้นหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงย้ายกลับมาประทับที่เชียงใหม่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เจ้าดารารัศมีทรงใช้พระตำหนักหลังนี้ปฏิบัติพระกรณียกิจอันเป็นคุณูปการทั้งทางด้านการเกษตรและศิลปวัฒนธรรม อาทิ ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทรงฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมล้านนาให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวเหนือ ทรงสร้างสวนทดลองการเกษตรชื่อ “สวนเจ้าสบาย” เนื่องจากทรงสนพระทัยในการเกษตรและทรงหวังที่จะช่วยการกสิกรรมของภาคเหนือ ทรงทดลองปลูกดอกกุหลาบพันธุ์ใหม่ๆ ที่ทรงได้มาจากสมาคมกุหลาบแห่งอังกฤษที่ทรงเป็นสมาชิก และพันธุ์ที่โปรดที่สุดเป็นกุหลาบดอกใหญ่สีชมพู กลิ่นหอมเย็นจึงทรงตั้งชื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์แด่พระบรมราชสวามีว่า “จุฬาลงกรณ์” เจ้าดารารัศมีเป็นเจ้าจอมที่เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมากองค์หนึ่ง เพราะนอกจากจะทรงมีพระอัธยาศัยอันงดงามแล้ว ยังทรงเป็นผู้เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพระบรมราชวงศ์จักรีกับดินแดนล้านนนา ซึ่งทำให้สถานการณ์ทางการเมืองแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดียังประโยชน์แก่อาณาจักรสยามเป็นอย่างยิ่ง

พระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ทรงทำพินัยกรรมประทานที่ดินบริเวณพระตำหนักดาราภิรมย์เป็นมรดกแก่ทายาท ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ซื้อที่ดินดังกล่าวต่อจากทายาท และมีการโอนมอบกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้องในเวลาต่อมา

พระตำหนักดาราภิรมย์ในพระราชชายาเจ้าดารารัศมีเป็นมรดกล้ำค่าของแผ่นดินที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับเกียรติให้เป็นผู้สืบทอดและพิทักษ์รักษา ด้วยตระหนักในภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้เอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้ทำการบูรณะพระตำหนักขึ้นใหม่ให้สมบูรณ์งดงามใกล้เคียงสภาพเดิมเมื่อกาลก่อน และจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ระหว่างบรรพชนในอดีตกับอนุชนรุ่นหลังเพื่อให้ได้ทราบถึงพระปรีชาสามารถ และพระกรุณาธิคุณของพระราชชายาเจ้าดารารัศมีขัตติยนารีผู้ทรงอุทิศพระองค์ตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อความวัฒนา สถาพรแห่งดินแดนล้านนา นอกจากนี้พระตำหนักดาราภิรมย์ยังเป็นพระตำหนักที่ประทับสุดท้ายที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมีทรงรักและผูกพันอย่างยิ่ง

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเห็นว่า พระตำหนักดาราภิรมย์อยูในสภาพที่ทรุดโทรมแต่สภาพอาคารยังมีความมั่นคงแข็งแรง มีรูปแบบอาคารที่ชัดเจน อาจใช้เป็นกรณีศึกษาอาคารที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรม ตะวันตกในประเทศไทย การบูรณะใช้แนวทางอนุรักษ์และเตรียมการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2541 ด้วยการรักษาส่วนประกอบอาคาร และรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้อันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมีและพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระองค์ท่าน โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จากกลุ่มเจ้านายฝ่ายเหนือ พ่อค้า และประชาชนชาวเชียงใหม่ในการร่วมกันบริจาคและเสาะหาสิ่งของเครื่องใช้เพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จเปิดพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2542 และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากอาคารพระตำหนักดาราภิรมย์แล้ว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังได้จัดสร้างอาคารรัศมีทัศนาเพื่อเป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมีและงานด้านศิลปวัฒนธรรมล้านนา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทุกๆ 3 เดือน รวมทั้งดำเนินการโครงการฝึกอบรมงานทางวัฒนธรรมล้านนาต่างๆ เช่น ดนตรีพื้นเมือง ช่างฟ้อน การตัดตุง และการทำโคมแก่นักเรียน นักศึกษา และชุมชนโดยรอบพระตำหนักดาราภิรมย์ เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและสืบสานงานศิลปวัฒนธรรมล้านนาให้คงอยู่ต่อไป

ห้องต่างๆ ในพระตำหนักดาราภิรมย์

  1. โถงทางเดิน จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระประวัติพระตำหนักที่ประทับในพระราชชายาเจ้าดารารัศมี
  2. ห้องรับแขก จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย
  3. ห้องบรรทม จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย
  4. ห้องพักผ่อนพระอิริยาบท จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์และเครื่องดนตรี
  5. ห้องจัดแสดงพระราชวงศ์ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชวงศ์ในสายสกุลเจ้าหลวงเชียงใหม่
  6. ห้องจัดแสดงฉลองพระองค์ ผ้าทอที่พระราชชายาฯ ทรงออกแบบลวดลายและส่งเสริมการชุดการแสดงที่พระราชชายาฯ ได้ทรงฟื้นฟูและทรงดัดแปลงศิลปะภาคกลางให้เข้ากับศิลปะภาคเหนือ
  7. ห้องสรง
  8. ชั้นล่าง จัดแสดงเครื่องมือเกษตร ที่ทรงใช้ในการทดลองการเกษตรแผนใหม่ ในสวนเจ้าสบาย นอกจากนั้น ยังมีเครื่องทอผ้าพระราชชายาฯโดยเฉพาะ

พระประวัติพระราชชายาเจ้าดารารัศมี

เจ้าดารารัศมีประสูติ เมื่อวันองคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2416 ณ คุ้มหลวง กลางนครเชียงใหม่ เป็นพระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ทรงได้รับการศึกษาจากพระชนกชนนีในเรื่องอักษรไทยเหนือและใต้เช่นเดียวกับกุลบุตรกุลธิดาในสมัยนั้น เมื่อเจ้าดารารัศมีเจริญพระชันษาได้ 13 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าอินทวิชยานนท์จัดพิธีโสกันต์ พร้อมกับพระราชทานเครื่องโสกันต์ระดับเจ้าฟ้าให้เจ้าดารารัศมีทรงในพิธีอีกด้วย เมื่อเจ้าดารารัศมีได้ตามเสด็จพระบิดาซึ่งเสด็จมาร่วมงานพระราชพิธีลงสรงและเฉลิมพระนามสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าดารารัศมีถวายตัวเข้ารับราชการฝ่ายในในฐานะเจ้าจอม เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2429 เจ้าดารารัศมีมีพระราชธิดาพระนามว่า พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าวิมลนาคนพิสี แต่ทรงพระชันษาเพียง 3 ปีเศษ ก็ประชวรสิ้นพระชนม์ เมื่อพระเจ้าอินทวิชยานนท์พระบิดาถึงแก่พิราลัย เจ้าดารารัศมีจึงทรงกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาติเสด็จขึ้นไปเยี่ยมนครเชียงใหม่ เนื่องจากได้เสด็จประทับที่กรุงเทพฯ เป็นเวลาถึง 22 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาต อีกทั้งยังโปรดเกล้าฯ จัดงานพระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยยศ เจ้าดารารัศมีจากเจ้าจอมมารดาขึ้นเป็นพระราชชายาเจ้าดารารัศมี แต่หลังจากที่พระราชชายาฯ เสด็จกลับจากเชียงใหม่ได้เพียง 10 เดือนก็ต้องทรงประสบความเศร้าโศกอันยิ่งใหญ่ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อมา พระราชายาฯ ยังคงประทับ ณ พระตำหนักสวนฝรั่งกังไส พระราชวังดุสิต จนกระทั่งปี พ.ศ. 2457 จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเสด็จกลับนครเชียงใหม่ พระราชชายาฯ ทรงดำรงพระชนม์อย่างสงบสุข ณ พระตำหนักดาราภิรมย์อยู่หลายปี จนสิ้นพระชนม์ด้วยโรงปัปผาสะพิการ (โรคปอด) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476 ณ คุ้มรินแก้ว รวมสิริพระชันษาได้ 60 ปี พระบาทสมเด็จประปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานพระศพเป็นงานพิธีหลวง พระอัฐิส่วนหนึ่งบรรจุไว้ที่พระกู่ วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นด้วยพระองค์เอง อีกส่วนหนึ่งอัญเชิญไปบรรจุไว้ ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร


บุคลากรพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ เชียงใหม่

นางสาวกิตินาฎ ม่วงน้อยเจริญ

หัวหน้าหน่วยพิพิธภัณพ์พระตำหนักดาราภิรมย์

053-299-175

นางสาวศิริลักษณ์ ครุฑเงิน

เจ้าหน้าที่สำนักงาน (บัญชี)

053-299-175

นายอนุพันธ์ วรรณภิระ

เจ้าหน้าที่บริการงานช่าง

053-299-175

นางสาวพุทธิพร สินธนามราพันธ์

เจ้าหน้าที่สำนักงาน

053-299-175