รู้จักกับนิกเกิล ประโยชน์ และการใช้งาน

รู้จักกับนิคเกิล ประโยชน์ และการใช้งาน

นิกเกิล คือ ? มารู้จักกันก่อน

นิกเกิล (Nickel) เป็นโละหะชนิดหนึ่ง ที่ถูกค้นพบมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1751 ลักษณะของนิกเกิล คือจะมีสีขาวเงิน มีความมันวาว คล้ายกับเหล็กด้านความแข็งแรง และมีความต้านทานการกัดกร่อนที่ดีไม่เป็นสนิมคล้ายคลึงกับทอง สามารถนำมาตีเป็นแผ่น และขึ้นรูปในอุณหภูมิต่ำได้ดี และยังเป็นตัวนำไฟฟ้าได้ดี

นิกเกิลในปัจจุบันเป็นโลหะที่นิยมในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย อาทิเช่น ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า เคเบิ้ลแกลน ทำเครื่องมือเครื่องใช้ ใช้ชุบโลหะ เครื่องมือผ่าตัด และยังเป็นส่วนผสมของหมึกและสี

ประโยชน์ของนิกเกิล และวิธีการใช้งาน

นิกเกิลนั้นสามารถใช้งานได้หลากหลาย ดังนี้

  • ใช้เป็นส่วนผสมของโลหะต่างๆ เนื่องจากคุณสมบัติของนิกเกิลคือทนทานต่อการกัดกร่อน นิกเกิลจึงมักถูกนำไปผสมกับโลหะต่างๆ หลายชนิด เช่น สแตนเลส
  • ใช้ชุบและเคลือบผิวอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสวยงามของอุปกรณ์ และยังมีส่วนช่วยป้องกันสนิมและการผุกร่อนของอุปกรณ์อีกด้วย รวมถึงใช้ในครัวเรือน เช่น เตาไฟฟ้า หม้อหุงข้าว เตาปิ้งขนมปัง ช้อนส้อม จาน เครื่องประดับ รวมถึงอุปกรณ์ทำอาหาร
  • ใช้ในการทำวัสดุกรองสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ทำมาตรน้ำ ประตูน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งถ่ายความร้อน
  • ใช้ผลิตเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หลอดสูญญากาศ ลวดยึด หลอดโทรทัศน์ ปลั๊กไฟ ถ่านชาร์จ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับใช้งานในรถ
  • ใช้ในการก่อสร้าง โดยใช้ในรูปแบบของโลหะไร้สนิม มาทำอุปกรณ์ประดับอาคาร เพราะโลหะที่ได้ผสมกับนิกเกิลมีความเงา ทนต่อการกัดกร่อน แข็งแรง ไม่เป็นสนิม
  • ใช้ผสมลงไปในโลหะ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการป้องกันการกัดกร่อน เช่นผลิตเป็นโลหะสแตนเลส
  • ใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ ต่างๆ เช่น น้ำมันเบนซิน หมึกและสี

นิกเกิล มีอันตรายไหม ?

โดยทั่วไปแล้วนิกเกิลถือว่าเป็นโลหะที่มีโอกาสเป็นพิษต่อร่างกายหรือผู้ใช้งานค่อนข้างต่ำ แต่ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน และส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับการสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้นิกเกิลเป็นส่วนผสม หรือเคลือบ เช่นเครื่องประดับ ซึ่งอาการแพ้นิกเกิลจะทำให้เกิดอาการบวม มีผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ หรือสัมผัสกับตา จะทำให้เกิดอาการระคายเคือง แสบตา และอักเสบ

นอกจากนี้การได้รับนิกเกิลในรูปแบบของผง หรือฝุ่น ผ่านการสูดดม ก็ยังทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และยังเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็งปอดอีกด้วย