ไม่พบรายการที่ท่านค้นหา


คุณซักผ้านวมและผ้าปูที่นอน 'ผิด' วิธีกันอยู่หรือเปล่า !!

          ปกติแล้วพวกเราควรซักผ้านวม ผ้าปูที่นอน หรือเครื่องนอนกันให้บ่อยครั้ง เพราะเครื่องนอนเหล่านี้เป็นที่สะสมของเชื้อโรคและไรฝุ่น แล้วคุณซักผ้านวมและผ้าปูที่นอนอย่างไรกันบ้าง ซักผิดวิธีกันอยู่หรือเปล่า ในบทความนี้ BnB home จะขอแนะนำวิธีซักผ้านวมและผ้าปูที่นอนที่ถูกวิธี เพื่อถนอมผ้า ฆ่าเชื้อโรค และสิ่งสกปรก ให้พวกเราสามารถยืดอายุการใช้งานไปได้อีกนาน

1. นาน ๆ ซักที แบบนี้ไม่ควร

          พวกเราต้องสัมผัสกับผ้านวมและเครื่องนอนกันถึง 1 ใน 3 ต่อวันเลย เราจึงไม่ควรลืมใส่ใจเรื่องความสะอาด อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป จะทำให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกมากมาย ทั้งเชื้อโรค ทั้งไรฝุ่น ที่มาจากคราบเหงื่อไคล เซลล์ผิวจากตัวเรา รังแค และเศษผม ดังนั้น ควรนำผ้านวมและเครื่องนอนไปซักทำความสะอาดเดือนละ 1 ครั้ง

2. ลืมดูคราบสกปรกเล็ก ๆ น้อย ๆ

          ก่อนนำผ้านวมและผ้าปูที่นอนไปเข้าเครื่องซัก อย่าลืมตรวจสอบคราบสกปรกก่อน เช่น คราบเครื่องสำอางของสาว ๆ หากเจอคราบสกปรกให้กำจัดคราบนั้นให้เรียบร้อย หรือป้ายน้ำยาซักผ้าเฉพาะจุดที่สกปรกก่อนนำเข้าเครื่องซักผ้า เพราะจะช่วยให้คราบสกปรกเหล่านั้นหลุดออกได้ง่ายขึ้น

3. ซักผ้านวมรวมกับผ้าชนิดอื่น

          หากนำเสื้อผ้ามาซักรวมกับผ้านวม ขณะที่เครื่องซักผ้าปั่น เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยอาจเข้าไปม้วนอยู่ในผ้านวม ทำให้เสื้อผ้าที่ติดเข้าไปในผ้านวมอาจไม่สะอาดเท่าที่ควร หรือใครหลาย ๆ คนมักจะนำผ้าขนหนูมาซักรวมกับผ้านวม ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด เพราะขนที่เกิดจากผ้าขนหนูอาจไปติดผ้านวมได้ ทำให้ผ้านวมมีขนขลุย อีกทั้งโหมดการซักที่ต้องตั้งก็ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้น ควรแยกซักผ้านวมจากผ้าชนิดอื่น ๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุด

4. ซักเครื่องนอนทุกอย่างในคราวเดียว

          การทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำเป็นสิ่งที่ดี แต่หากนำเครื่องนอนทุกอย่างมาซักรวมกันในคราวเดียวก็อาจจะไม่ดี เพราะเครื่องซักผ้าจะแน่นจนเกินไป ทำให้ประสิทธิภาพในการซักทำความสะอาดน้อยลงไป ดังนั้น ควรแบ่งซักผ้านวม และเครื่องนอนอื่น ๆ จะทำให้สะอาดกว่า

5. ใส่ผ้านวมเข้าเครื่องซักผ้าแบบไร้ทิศทาง

          เพื่อให้น้ำยาซักผ้าเข้าทำความสะอาดเนื้อผ้าที่สกปรกได้อย่างทั่วถึง และช่วยให้เครื่องซักผ้ามีพื้นที่ในการปั่นมากขึ้น ควรม้วนผ้านวมให้มีขนาดเล็กลงก่อนใส่ลงในถังซัก

6. ซักผ้านวมด้วยผงซักฟอก

          แนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าแทนผงซักฟอก เพราะน้ำยาซักผ้าสามารถละลายน้ำได้ดีกว่าและไม่จับตัวเป็นก้อน ทำให้ผ้านวมสะอาดหมดจด ไม่ทิ้งคราบ

7. ตั้งค่าโหมดการซักไม่เหมาะสมกับผ้านวม

          ผ้าแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและเนื้อผ้าที่ต่างกัน เพื่อรักษาผ้าไม่ให้ชำรุดเสียหาย หรือขาดก่อนเวลาอันควร ควรตั้งโหมดการซักผ้าให้แตกต่างไปตามชนิดของผ้า รวมถึงอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ซักผ้า ควรซักด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ที่มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพื่อฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่นที่สะสมอยู่ในผ้านวม แต่หากซักด้วยน้ำเย็น ก็จะช่วยเรื่องไม่ให้ผ้าเกิดรอยยังรอยย่น ในเรื่องของระยะเวลาในการปั่นก็มีผลต่อผ้านวมเหมือนกันค่ะ หลายคนอาจคิดว่าปั่นนานหน่อย ผ้าจะสะอาดขึ้น แต่ความจริงแล้ว หากปั่นผ้านวมนานเกินไปอาจทำให้ผ้าหดตัวได้ ดังนั้น ควรปั่นผ้าในระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่เร็วและไม่นานเกินไป

8. เอาผ้านวมออกจากเครื่องซักแล้วตากเลย

          เมื่อเอาผ้านวมออกจากเครื่องซักแล้ว ควรสะบัดผ้านวมก่อนตาก เพื่อไม่ให้ผ้านวมยับ จับตัวเป็นก้อน ให้ผ้านวมได้คลายตัว และควรนำผ้านวมไปตากแดด เพื่อฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่น อีกทั้งยังทำให้ผ้านวมนุ่มขึ้นอีกด้วย

 

>> ช้อปชุดเครื่องนอน และผ้าห่มนวม ได้ที่หน้าร้าน และหน้าเว็บ คลิก

 

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อย่านิ่งนอนใจ!!! คุณควรซักผ้าขนหนูบ่อยแค่ไหน

มองไม่เห็น ใช่ว่าจะไม่มี!! กำจัดไรฝุ่นบนที่นอน สาเหตุโรคภูมิแพ้

สินค้าแนะนำ