20 ส.ค. 2023 เวลา 16:56 • สุขภาพ

ประโยชน์ของถั่วลิสง มีอะไรบ้าง?

ถั่วลิสงประโยชน์ทางโภชนาการสูง และเป็นแหล่งของโปรตีน และพลังงานสูง รวมถึงมีกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย
ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารคาวหวานต่าง ๆ
ถั่วลิสงสามารถนำมาเพาะเป็นถั่วงอกได้เช่นเดียวกับถั่วเขียว
น้ำมันจากถั่วลิสง สามารถนำมาใช้แทนน้ำมันมะกอกเพื่อปรุงอาหาร มีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอล และไม่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอนุมูลอิสระ
สำหรับถั่วลิสงป่า ที่เป็นพืชยืนต้น สามารถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
ลำต้น และใบของถั่วลิสง นำมาใช้ทำปุ๋ย และเป็นอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้องได้
ถั่วลิสงยังนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
ถั่วลิสงมีน้ำมันประมาณ 47% จึงนิยมนำเมล็ดของถั่วของลิสง ไปใช้ในอุตสาหกรรมสกัดน้ำมัน
สารอาหารในถั่วลิสง เป็นอย่างไร?
สารอาหารต่าง ๆ ทางโภชนาการของถั่วลิสง ในปริมาณ 100 กรัม
พลังงาน 570 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 21 กรัม
น้ำ 4.26 กรัม
น้ำตาล 0 กรัม
เส้นใย 9 กรัม
ไขมัน 48 กรัม
ไขมันอิ่มตัว 7 กรัม
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 24 กรัม
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 16 กรัม
โปรตีน 25 กรัม
วิตามินบี 1 0.6 มิลลิกรัม 52%
วิตามินบี 3 12.9 มิลลิกรัม 86%
วิตามินบี 6 1.8 มิลลิกรัม 36%
วิตามินบี 9 246 ไมโครกรัม 62%
วิตามินซี 0 มิลลิกรัม
ธาตุแคลเซียม 62 มิลลิกรัม 6%
ธาตุเหล็ก 2 มิลลิกรัม 15%
ธาตุแมกนีเซียม 184 มิลลิกรัม 52%
ธาตุฟอสฟอรัส 336 มิลลิกรัม 48%
ธาตุโพแทสเซียม 332 มิลลิกรัม 7%
ธาตุสังกะสี 3.3 มิลลิกรัม 35%
ถั่วลิสงกินเยอะ แล้วอ้วนไหม?
ก่อนอื่นควรคำนึงว่าจะรับประทานถั่วลิสงกี่แคล จึงจะช่วยลดน้ำหนักและความอ้วนได้
ถั่วลิสงมีไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งทำให้อิ่มท้องนาน ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง
ยังช่วยยับยั้งไขมันเลว ที่เป็นผลเสียต่อร่างกาย ด้วยการรับประทานแบบดิบ ๆ หรือนำมาต้มแล้ว
ไม่ควรรับประทานเกิน 1 กำมือ หรือจะรับประทานเป็นอาหารว่างไม่เกินครั้งละ 17 เม็ด หรือประมาณ 1 ฝ่ามือเล็ก ๆ ซึ่งจะให้พลังงานประมาณ 100 กิโลแคลอรี่
การรับประทานถั่วคั่ว ถั่วทอด ถั่วอบ ซึ่งผ่านความร้อน และน้ำมัน ทำให้ไขมันไม่อิ่มตัวที่มีในถั่วลิสงหายไป หากรับประทานในปริมาณมาก ๆ หรือตามใจปาก ก็ทำให้อ้วนได้
หากต้องการรู้ว่าควรรับประทานถั่วลิสงอย่างไรถึงจะไม่อ้วน ให้เทียบน้ำหนักของถั่วลิสงดิบที่ 100 กรัม จะให้พลังงาน 570 กิโลแคลอรี่ ต่อความต้องการพลังงานของแต่ละคน ซึ่งผู้ชาย ต้องการปริมาณแคลอรี่ที่ใช้เป็นพลังงานต่อวัน 1,800-2,500 กิโลแคลอรี่ ผู้หญิง ต้องการปริมาณแคลอรี่ที่ใช้เป็นพลังงานต่อวัน 1,500-2,000 กิโลแคลอรี่
ถั่วลิสงต้ม อันตรายอย่างไร?
ถ้าจะสังเกตว่า ถั่วลิสงต้มอันตรายได้อย่างไร ให้ดูที่บริเวณเปลือก ถ้าหากมีจุดสีดำ ๆ คล้ายลักษณะของเชื้อรา หรือมีสีผิดแปลกออกไป ก็ควรหลีกเลี่ยงไม่รับประทาน เนื่องจาก เสี่ยงปนเปื้อนจาก อะฟลาทอกซิน สารพิษก่อมะเร็งร้ายแรง โดยผู้ที่ได้รับอะฟลาทอกซิน ส่วนใหญ่จะยังไม่แสดงอาการในระยะแรก ๆ จนเมื่อมีอาการเรื้อรังแล้ว คือ กินอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อรา แล้วเชื้อรานั้น สร้างสารอะฟลาทอกซิน ทำให้เกิดการอักเสบของตับเรื้อรัง เกิดภาวะตับแข็ง ก่อเกิดมะเร็งตับ และอาจมีผลต่อระบบไต หัวใจ
หากต้องการจะใช้ประโยชน์ของถั่วลิสง ก็ควรจะซื้อแค่เพียงพอต่อการใช้ ไม่ควรซื้อมาเก็บไว้นาน ๆ เพราะคิดว่าเป็นประเภทอาหารแห้ง และควรหลีกเลี่ยงถั่วลิสงที่ดูเก่า มีความชื้น หรือมีกลิ่นหืน เพราะอาจจะมีโอกาสปนเปื้อนอะฟลาทอกซินสูงมาก รวมถึงควรเลือกซื้อจากร้านที่มีบรรจุห่อปิดสนิท มีวันผลิต และวันหมดอายุชัดเจน หรือร้านที่มีการทำแบบสดใหม่ เพื่อป้องกันการได้รับสารอันตรายเข้าร่างกายแบบที่ไม่รู้ตัว
ส่งท้ายสักนิด ทานถั่วอย่างไรให้ได้ประโยชน์
สำหรับผู้ที่พึ่งหัดกินถั่วใหม่ ๆ หรือปกติไม่ได้กินถั่วเป็นประจำนั้น ให้เริ่มกินแต่น้อย ๆ เช่น สัปดาห์ละ 2 ครั้ง จากนั้น จึงค่อยเพิ่มความถี่ให้มากขึ้น เพื่อให้ระบบย่อยอาหารของร่างกายปรับตัว
ควรแช่เมล็ดถั่วในน้ำเปล่า เป็นเวลา 12-24 ชั่วโมง ก่อนนำไปปรุงอาหาร จะช่วยให้แป้ง หรือ oligo-saccharide บางส่วนที่ย่อยยากนั้น สามารถย่อยได้มากขึ้น
เลือกชนิดของถั่วที่จะนำมากิน ทั้งนี้ถั่วแต่ละชนิดนั้น ทำให้เกิดแก๊สไม่เท่ากัน เช่น ถั่วขาว และถั่วเหลืองจะมีแก๊สมาก ส่วนถั่วดำ ถั่วแดง และถั่วเขียว จะมีแก๊สน้อยกว่า นอกจากนี้ ถั่วเมล็ดแห้ง ก็จะทำให้เกิดแก๊สในท้องมากกว่าถั่วสำเร็จรูปที่บรรจุกระป๋อง
เวลากินถั่ว ควรเคี้ยวให้ละเอียดมากที่สุด เพราะเอนไซม์ในน้ำลายนั้น จะทำหน้าที่ช่วยย่อยแป้งได้ดี
เนื่องจากในถั่วมีสารประเภทกรดไฟติก หรือไฟเทต ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด เช่น เหล็ก สังกะสี และแคลเซียม ดังนั้น จึงควรกินถั่วที่ปรุงสุกแล้ว ถั่วที่ผ่านการงอก หรือกระบวนการหมักมาแล้ว เพื่อลดปริมาณสารไฟเทต
ปริมาณที่แนะนำในการกินถั่ว คือ ครึ่งถ้วย หรือ 64 กรัม และใน 1 สัปดาห์ ควรกินให้ได้ 3-4 ครั้ง/สัปดาห์
การเลือกซื้อถั่ว ให้เลือกถั่วที่ผลิตใหม่ๆ เมล็ดสมบูรณ์ ไม่ลีบ ไม่ฝ่อ หรือการกัดแทะของแมลง โดยเฉพาะถั่วลิสงจะมีเชื้อรา อะฟลาทอกซิน จะขึ้นได้ง่าย หากเมล็ดของถั่วมีการแตกหัก หรือมีความชื้นสูง ดังนั้น จึงไม่ควรซื้อถั่วเก็บไว้เป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อรา
หรือสร้างสารพิษอะฟลาทอกซินได้
สำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องอืด อาหารไม่ย่อย หรืออาการไม่พึงประสงค์หลังกินถั่วเมล็ดแห้ง ถ้าปฏิบัติตามข้อ 1, 2 และ 3 แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น อาจเลือกกินถั่วในรูปแบบที่ผ่านกระบวนการงอก หรือถั่วที่ผ่านกระบวนการหมักมาแล้ว จะทำให้อาการดีขึ้น
โฆษณา