กลุ่มมือปืนบุกโจมตีสถานีโทรทัศน์เอกวาดอร์ขณะออกอากาศสด

กลุ่มชายติดอาวุธบุกเข้าไปในสตูดิโอถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ในเอกวาดอร์ พร้อมข่มขู่พนักงานของสถานี กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร (9 ม.ค.) ที่สถานีโทรทัศน์ทีซี (TC) ในเมืองกัวยากิว (Guayaquil) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเอกาวาดอร์

กลุ่มชายสวมหมวก หน้ากาก และพกอาวุธปืน บุกเข้าไปยังสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ ขณะกำลังออกอากาศสด พร้อมบังคับให้พนักงานนอนราบกับพื้น ก่อนที่สัญญาณถ่ายทอดสดจะถูกตัดขาดไป

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องว่า "อย่ายิง ขอร้องอย่ายิง" ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

“ได้โปรด พวกเขาเข้ามาเพื่อฆ่าพวกเรา” พนักงานทีซี กล่าวกับเอเอฟพีผ่านข้อความวอตส์แอปป์ “พระเจ้า อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเลย คนร้ายกำลังออนแอร์อยู่”

ผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนเล่าว่า เห็นชายสวมหน้ากากออกมาจากสตูดิโอทีซี พร้อมตัวประกันหลายคน ต่อมา มีรายงานว่าตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วหลายราบ

ก่อนหน้านี้ เอกวาดอร์ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วัน หลัง ฟิโต ซึ่งมีชื่อจริงว่า อาดอลโฟ มาเซียส วิลลามาร์ (Adolfo Macías Villamar) หัวหน้าแก๊งอาชญากรรม หลบหนีออกจากเรือนจำที่มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ม.ค.)

ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า การบุกโจมตีสถานีโทรทัศน์ทีซีเกี่ยวข้องกับหายตัวไปจากเรือนจำของหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมรายนี้หรือไม่

ประธานาธิบดีแดเนียล โนโบอา กล่าวเมื่อวันอังคาร (9 ม.ค.) ว่า ขณะนี้ “ความขัดแย้งของกลุ่มติดอาวุธภายใน” ได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศนี้ และเขากำลังระดมกำลังกองทัพเพื่อ “เปิดปฏิบัติการทางทหารเพื่อต่อต้าน” สิ่งที่เขาเรียกว่า “กลุ่มอาชญากรข้ามชาติ องค์กรก่อการร้าย และผู้ก่อสงครามที่ไม่ใช่รัฐ”

คำแถลงของผู้นำเอกวาดอร์เกิดขึ้น หลังนักโทษเกือบ 40 คน รวมถึงนักโทษคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้แหกคุกออกจากเรือนจำอีกแห่งในเมืองริโอบัมด้วย

เพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ประธานาธิบดีแดเนียลออกกฤษฎีกาโดยใช้ชื่อว่า โชเนรอส (Choneros - ตั้งชื่อตามเมืองโชเน (Chone) ในจังหวัดมานาบิ (Manabi) พร้อมประกาศให้ 21 แก๊งอาชญากรรมเป็น “องค์กรก่อการร้าย” ประกอบด้วย Aguilas, AguilasKiller, AK-47, Caballeros Oscuros, ConeKiller, Covicheros, Cuartel de las Feas, Cubanos, Fatales, Ganster, Kater Piler, Lagartos, Latin Kings, Lobos, Los p.27, Los Tiburones, Mafia 18, Mafia Trebol, Patrones, R7 และ Tiguerones

เอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 7 นายถูกลักพาตัวไป โดยวิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นภาพเจ้าหน้าที่ 3 นายนั่งอยู่ที่พื้น โดยมีปืนจ่อศีรษะพวกเขาอยู่ และบังคับให้เจ้าหน้าที่นายหนึ่งอ่านแถลงการณ์ถึงประธาธิบดีโนโบอา

“คุณประกาศสงคราม คุณก็จะได้รับสงคราม” เจ้าหน้าที่อ่านแถลงการณ์ และว่า “คุณประกาศภาวะฉุกเฉิน เราขอประกาศให้ตำรวจ พลเรือน และทหารเป็นผู้เสียหายจากสงคราม”

ประชาชนที่อาศัยในกีโต เมืองหลวงของประเทศ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เมืองนี้ตกอยู่ในภาวะจลาจลนับตั้งแต่มีข่าวการบุกจู่โจมที่สถานีโทรทัศน์ในเมืองกวายากิล

“ในเมืองนี้เต็มไปด้วยความกังวลใจมากมาย” มาริโอ อูเรนา กล่าว “ที่ทำงาน ผู้คนรีบออกจากออฟฟิศ คุณเห็นการจราจรหนาแน่นและสัญญาณเตือนภัยทุกที่ มันโกลาหล”

ขณะที่ชาวเมืองเกวงกาอีกคนกล่าวกับเอเอฟพีว่า พวกเขาตกใจเมื่อเห็นสถานีโทรทัศน์ถูกยึด

“ในเอกวาดอร์ เราไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนที่ทีวีช่องหนึ่งถูกยึด และการออกอากาศเริ่มต้นด้วยการยิงและการลักพาตัว” ฟรานซิสโก โรซาส กล่าว “แล้วเราอยู่ในสถานการณ์การรักษาความปลอดภัยแบบไหน หากสถานีโทรทัศน์ถูกโจรกรรมแบบนี้ได้ เกิดความไม่มั่นคงแบบนี้ได้ ลองจินตนาการถึงร้านอาหารหรือร้านค้าสิ”

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรือนจำของเอกวาดอร์ประสบปัญหาความบาดหมางกันอย่างรุนแรงระหว่างสมาชิกแก๊งคู่แข่งที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ซึ่งทำให้เกิดการสังหารหมู่ผู้ต้องขังหลายต่อหลายครั้ง

สำหรับ ฟิโต ซึ่งมีชื่อจริงว่า อาดอลโฟ มาเซียส วิลลามาร์ เป็นหัวหน้าแก๊ง “ลอส โชเนรอส” แก๊งที่ทรงพลังและเชื่อกันว่าอยู่เบื้องหลังเหตุจลาจลและการต่อสู้ในเรือนจำซึ่งปะทุขึ้นในเรือนจำของเอกวาดอร์

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ฟิโตไม่อยู่ในห้องขังของเขาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ตอนที่ตำรวจมาถึงเพื่อย้ายตัวเขาไปยังเรือนจำอื่นที่ภายในบริเวณเดียวกัน

เจ้าหน้าที่คาดว่า เขาหลบหนีไปในเวลากี่ชั่วโมงก่อนแผนย้ายผู้ต้องขังจะเริ่มขึ้น โดยผู้คุม 2 คนตกเป็นผู้ต้องสงสัยฐานช่วยฟิโตหลบหนี

การหลบหนีของฟิโตยังสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีโนโบอา ซึ่งสาบานตนเมื่อเดือน พ.ย. 2023 หลังจากชนะการเลือกตั้งที่เผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จากการลอบสังหารผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เฟอร์นันโด วิลลาวิเซนซิโอ ซึ่งเคยเป็นสื่อมวลชนด้วย

วิลลาวิเซนซิโอ เคยออกมาเปิดเผยว่า เขาถูกฟิโตขู่ฆ่า จากนั้นไม่กี่วัน เขาก็จะถูกยิงเสียชีวิตขณะออกจากการชุมนุมหาเสียงในกรุงกีเมืองหลวงกีโต