รีเซต

เที่ยวญี่ปุ่น 10 ที่เที่ยวยามานาชิ ทักทายฟูจิซัง จุดเช็คอิน ใกล้โตเกียว

เที่ยวญี่ปุ่น 10 ที่เที่ยวยามานาชิ ทักทายฟูจิซัง จุดเช็คอิน ใกล้โตเกียว
SummerB
7 ตุลาคม 2565 ( 20:30 )
6.7K

      สัญลักษณ์ของ ญี่ปุ่น จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก ภูเขาไฟฟูจิ แห่ง จังหวัดยามานาชิ Yamanashi จังหวัดยอดฮิตใกล้กรุงโตเกียวที่หลายๆ คนนิยมไปเที่ยวแบบ One Day Trip กัน วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนไปเช็คอิน 10 ที่เที่ยวยามานาชิ พร้อมกับทำความรู้จักกับจังหวัดแห่งนี้ในแง่มุมอื่นๆ แล้วทุกคนจะรู้ว่า ยามานาชิ มีเสน่ห์กว่าที่ทุกคนคิด

 

รวมที่เที่ยว ยามานาชิ ญี่ปุ่น

ดินแดนแห่ง ภูเขาไฟฟูจิ

 

ทำความรู้จักกับ จังหวัดยามานาชิ

Yamanashi Prefecture

 

 

       ก่อนอื่นเลย เรามาจำความรู้จักกับจังหวัดแห่งภูเขาไฟฟูจิกันค่ะ จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture 山梨県) ตั้งอยู่ในภูมิภาคชุบุ (Chubu) โดยมี เมืองโคฟุ (Kafu) เป็นเมืองใหญ่ ภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสูง และธรรมชาติที่สวยงาม ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งของ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) และ ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิทั้ง 5 จึงไม่แปลกใจเลยหากจังหวัดยามานาชิจะกลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และด้วยระยะทางที่อยู่ไม่ไกลจาก กรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นมากนัก ผู้คนจึงนิยมมาเที่ยวที่นี่แบบ One Day Trip หรือไม่ก็ค้างสักคืนสองคืนค่ะ 

 

 

       นอกจากภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบทั้ง 5 แล้ว จังหวัดยามานาชิก็ยังเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองออนเซ็นชั้นเลิศด้วยค่ะ เรียกว่าเป็นหนึ่งใน must do list ในการไปเที่ยวยามานาชิเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่มีรีสอร์ทน้ำพุร้อนอยู่หลายแห่ง เช่น อิซาวะออนเซ็น (Isawa Onsen) นิชิยามะออนเซ็น (Nishiyama Onsen) และ ชิโมเบะ (Shimobe Onsen) เป็นต้น แล้วก็มีเรียวกังรีสอร์ทอีกหลายแห่งให้เราได้แช่ออนเซ็นพร้อมชมวิวสวยๆ ของภูเขาไฟฟูจิไปด้วย ฟินสุดๆ ไปเลย~ ไม่เพียงเท่านี้ ยามานาชิยังมีอีกฉายาว่า "อาณาจักรแห่งผลไม้" เนื่องจากเป็นแหล่งเพาะปลูกผลไม้ต่างๆ เช่น องุ่น พีช และลูกพลัมคุณภาพสูง การไปเก็บผลไม้สดๆ ตามไร่ต่างๆ จึงเป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่ไม่ควรพลาด

 

1. เจดีย์ชูเรโตะ Chureito Pagoda

ฟูจิโยชิดะ Fujiyoshida

 

 

      ภาพของเจีดย์ 5 ชั้น และภูเขาไฟฟูจิมักจะปรากฏอยู่ในโปสการ์ดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก เจดีย์ชูเรโต (Chureito Pagoda 新倉山 浅間公園 忠霊塔) ที่ตั้งอยู่ใน สวนสาธารณะอาราคุรายามะเซ็นเก็น (Arakurayama Sengen Park) เมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida) เป็นแลนด์มาร์คของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากจะเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดยามานาชิแล้ว ยังเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของญี่ปุ่นด้วย เพราะไม่ว่าจะด้วยความงดงามของเจดีย์เอง หรือความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟฟูจิทางด้านหลังก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ไม่ยาก

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/b1voEuA6T825F5wu6 

============

 

2. เส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิ โยชิดะ Yoshida Trail

ฟูจิโยชิดะ Fujiyoshida

 

Abhijeet Khedgikar / Shutterstock.com

 

     เราอาจจะเห็นฟูจิซัง หรือภูเขาไฟฟูจิแบบไกลๆ มานักต่อนัก ครั้งนี้เราจะชวนนักปีนเขาทั้งหลายไปปีนเขาที่ เส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิ โยชิดะ (Yoshida Traill) กันค่ะ ที่นี่เป็นเส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิที่มีชื่อเสียงที่สุด ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมเท่านั้น โดยมีจุดหมายปลายทางเป็นทะเลหมอกสุดอลังการที่ สถานีที่ 7 (7th Station) ซึ่งการเดินทางไปกลับบนภูเขาไฟฟูจินั้นจะต้องใช้เวลา 2 วัน 1 คืน นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมอุปกรณ์ไปให้พร้อมสำหรับการค้างคืนค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/cPWytVe3JmUUng3T6 

============

 

3. ทะเลสาบยามานากาโกะ

Lake Yamanakako

 

 

      ทะเลสาบยามานากาโกะ (Lake Yamanakako 山中湖) หนึ่งใน 5 ทะเลสาบรอบ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด ด้วยทิวทัศน์ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และทิวทัศน์ที่งดงาม จึงทำให้ทะเลสาบยามานากาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี 2013 สำหรับใครที่อยากชมวิวรอบๆ ทะเลสาบ ที่นี่เขาจะมี เรือสวอนเลค (Swan Lake) เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เป็นรูปหงส์ให้เราได้นั่งชมวิวสวยๆ กันค่ะ แถมบริเวณใกล้ๆ ทะเลสาบยังมี หมู่บ้านนินจา โอชิโนะ ชิโนบิ โนะ ซาโตะ (Ohshino Shinobi no Sato) หมู่บ้านโบราณที่มาพร้อมกับการแสดงนินจาที่น่าตื่นเต้น ฟีลเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังญี่ปุ่นยุคโบราณเลยทีเดียว

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/4Eu39Xye8dJFKf2j6 

============

 

4. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ Lake Kawaguchiko

ฟูจิคาวากุจิโกะ Fujikawaguchiko

 

 

      ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดในบรรดา 5 ทะเลสาบรอบฟูจิซัง และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากทะเลยามานากาโกะ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงามและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อีกทั้งยังมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ทะเลสาบคาวากุจิโกะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 2013 พร้อมกับทะเลสาบยามานากาโกะ และภูเขาไฟฟูจิค่ะ

 

 

     Fuji-Kawaguchiko Fall Leaves Festival เป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีชื่อเสียงของ เมืองฟูจิคาวากุจิโกะ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ระหว่างปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปีค่ะ ภายในเทศกาล เราจะได้ชม อุโมงค์ใบเมเปิ้ล หรือ โมมิจิ ไคโร (Momiji Kairo) ผลัดใบเปลี่ยนสีเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง และร่วงหล่นตามพื้นอย่างสวยงาม เมื่อเข้าสู่ยามค่ำคืน จะมีการประดับไฟ Illumination ส่องแสงไปทั่วบริเวณ โรแมนติกสุดๆ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวญี่ปุ่น ทะเลสาบคาวากุจิโกะ Lake Kawaguchiko ถ่ายรูปสวย รอบภูเขาไฟฟูจิ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/ktoz5zBAHqzeAp51A 

============

 

5. สวนโออิชิ Oishi Park

ฟูจิคาวากุจิโกะ Fujikawaguchiko

 

 

      Oishi Park สวนขนาดใหญ่ในเมืองฟูจิคาวากุจิโกะ ที่ทางเดินยาว 350 เมตรให้เราได้ชมวิว และถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้สวยๆ ที่จะมีดอกไม้กว่า 90 ชนิดมาหมุนเวียนปลูกตลอดปี ไม่ว่าจะเป็น ดอกพิงค์มอส (Moss Pink) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกลาเวนเดอร์ (Lavender) ช่วงฤดูร้อน ดอกโกเกีย (Kochia) ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สวยฟินแบบไปกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/kk61mjkoWLj3JPQg7 

============

 

6. สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ Fuji-Q Highland

ฟูจิคาวากุจิโกะ Fujikawaguchiko

 

Foodforthoughts / Shutterstock.com

 

       สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland 富士急ハイランド) พิกัดสุดมันส์ที่คนรักความเร็วและท้าทายต้องไม่พลาด ที่นี่มีเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวให้เลือกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น FUJIYAMA, Takabisha และ Eejanaika ไฮไลท์ของสวนสนุกที่ได้รับการบันทึกใน Guinness World Record ว่าเป็นรถไฟเหาะที่มีความสูง ความเร็ว และองศาแนวดิ่งที่มากที่สุดในโลก! งานนี้ต้องคนใจถึงจริงๆ ค่ะถึงจะสู้ได้ แต่บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ เพราะได้เห็นวิวของฟูจิซังแบบชัดๆ เลย

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/BiPTZ8UtkD96jKZT9 

============

 

7. ถ้ำลมฟุกาคุ Fugaku Wind Cave

ฟูจิคาวากุจิโกะ Fujikawaguchiko

 

 

     ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave 富岳風穴) หนึ่งในถ้ำที่เกิดจากลาวาของภูเขาไฟฟูจิ รายล้อมไปด้วย ป่าสนอาโอคิกาฮาระ จูไค (Aokigahara Jukai) ที่อุดมสมบูรณ์ ภายในถ้ำนั้นมีความยาวประมาณ 201 เมตร และความสูง 8.7 เมตร มีอุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 0-3 องศา ตลอดปี สถานที่แห่งนี้จึงถูกใช้เป็นสถานที่กักเก็บไข่ไหม (silkworm egg) ในสมัยโชวะ (Showa Period 1926–1989) แต่ในปัจจุบันก็ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ผู้คนได้เข้าชมได้ โดยมีไฮไลท์เป็น ชั้นลาวา ผลึกน้ำแข็ง และเสาน้ำแข็งที่ไม่ละลายแม้กระทั่งในช่วงฤดูร้อนให้เราได้ชมความมหัศจรรย์กันค่ะ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/udihMXGyfogZmTZH7 

============

 

8. ทะเลสาบไซโกะ

Lake Saiko

 

 

      ถ้าอยากชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และวิวของฟูจิซังแบบเต็มๆ ตา เราขอแนะนำ ทะเลสาบไซโกะ (Lake Saiko 西湖) เลยค่ะ ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบคาวากกุจิโกะ แต่บรรยากาศเงียบสงบกว่ามาก แถมยังรายล้อมไปด้วยป่าสนอาโอคิกาฮาระ จูไค และถ้ำต่างๆ ที่เกิดจากลาวาของภูเขาไฟฟูจิที่ไหลผ่าน เช่น ถ้ำค้างคาวไซโกะ (Lake Saiko Bat Cave) ถ้ำลมฟุกาคุ (Fugaku Wind Cave) และ ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave) เป็นต้น

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/qJGeirbcgZ9xSsqr6 

============

 

9. ศาลเจ้าทาเคดะ Takeda Shrine

โคฟุ Kofu

 

Satoshi Mizushima / Shutterstock.com

 

      ศาลเจ้าทาเคดะ (Takeda Shrine 武田神社) ตั้งอยู่ใน เมืองโคฟุ (Kofu) เมืองใหญ่ของจังหวัดยามานาชิ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากตั้งอยู่ในสถานที่พำนักเดิมของ ทาเคดะ ชินเก็น (Takeda Shingen 1521 – 1573) หนึ่งในนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ภายในเขตของศาลเจ้าจะประกอบไปด้วย หอสวดมนต์ อนุสาวรีย์ สะพานสีแดง และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ มากมายที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างยิ่ง

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/7z9KsPhVhmYKfEzt6 

============

 

10. โชเซนเคียว Shosenkyo

โคฟุ Kofu

 

 

     แม้จะเป็นเมืองใหญ่ที่มีตึกสูงมากมาย แต่ก็มีแหล่งธรรมชาติที่น่าไปชมด้วยเช่นกัน โชเซนเคียว (Shosenkyo 昇仙峡) แหล่งธรรมชาติที่สวยงามที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองโคฟุตอนกลาง อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของ อุทสานแห่งชาติชิชิบุ ทามะ ไค (Chichibu Tama Kai National Park) ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 1250 ตารางกิโลเมตรด้วยกัน 

 

 

     ไฮไลท์ของการมาเที่ยวโชเซนเคียวคือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จะพาเราเดินจาก สะพานนากาโทโระ (Nagatoro Bridge) ถึง น้ำตกเซ็นกาทากิ (Sengataki Waterfall) ในระยะทาง 4 กิโลเมตร ระหว่างการเดินทางเราก็จะได้ชมความงดงามของ แม่น้ำอารากาวะ (Arakawa River) รวมถึงแมกไม้นานาพันธุ์ไปตลอดทาง นอกจากนี้พวกเรายังสามารถยังกระเช้าลอยฟ้า Shosenkyo Ropeway ขึ้นไปยังจุดชมวิวที่สามารถเห็นได้กว้างไกลถึงภูเขาไฟฟูจิ และเทือกเขา Japanese Southern Alps เลยทีเดียวค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/7bvCxFhAgb5cqKPB8