อบอุ่นไปกับงานศิลปะอุ่น ๆ ของ ‘ปิแอร์ ออกุสต์ เรอนัวร์’

ศิลปะ Impressionism เป็นอีกลัทธิที่อยากเล่าไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะหยิบเรื่องของใครมาก็ดูน่าสนใจไปหมด เพราะมันเป็นเหมือนยุคแห่งการทดลอง เสาะหาทางใหม่ ๆ มีอิทธิพลอย่างมากกับศิลปะสมัยใหม่ยุคอื่น ๆ อีกคนที่เราอยากพูดถึงก็คือ Pierre-Auguste Renoir (ปิแอร์ ออกุสต์ เรอนัวร์) ศิลปินที่เป็นต้นกำเนิด Impressionism ไม่ต่างจากโมเนต์เลยทีเดียว

 

เรอนัวร์เริ่มต้นเกี่ยวกับศิลปะด้วยความสนใจส่วนตัว ได้เข้าไปทำงานที่โรงงานทำตุ๊กดาดินเผา เรียนรู้ศิลปะด้วยตัวเองจากการไปดูผลงานที่พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ และเข้าเรียนศิลปะในที่สุด

หนทางของเรอนัวร์ไม่ได้ง่ายจนเกินไป เพราะเขาไม่ใช่คนฐานะดี แต่ก็ไม่ได้รันทดเกินไป ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่ทำงานศิลปะคล้าย ๆ กันช่วยดึง ๆ กันไปด้วย ทั้งไปวาดรูปด้วยกัน จัดงานแสดงร่วมกัน จนมีชื่อเสียงไปพร้อม ๆ กันทุกคน

เดอะแก๊ง Impressionism ประสบความสำเร็จแบบสุดขั้วทุกคน

แก๊งที่มีอุดมการณ์และสไตล์การสร้างงานศิลปะเหมือนกับเรอนัวร์ ก็เป็นศิลปินที่มีชื่ออยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะทุกเล่ม แบบที่ทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อ อย่าง ปีซาโร, โมเนต์, พอล เซซานต์, แอดการ์ เดอกา ล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินต้นแบบความเป็น Impressionism กันทั้งสิ้น ซึ่งเป็นแก๊งที่ร่วมกันแสดงงานในฐานะการบุกเบิกสไตล์ศิลปะแบบ Impressionism เป็นครั้งแรก แต่ถึงแม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จ ทุกคนก็ยังคงไปต่อในด้านศิลปะ อย่างเรอนัวร์เองก็มีลูกค้าอุปถัมภ์เพื่อให้วาดรูปคนในครอบครัว เหมือนเป็นธรรมเนียมของตระกูลผู้ดีมีเงินในยุโรปสมัยก่อนที่จะต้องจ้างศิลปินซักคนเพื่อวาดภาพให้กับคนในครอบครัว ส่วนหนึ่งเป็นรสนิยมส่วนบุคคลแต่เหมือนว่าส่วนใหญ่จะมีไว้เชิดหน้าชูตากันมากกว่า

เหมือนเป็นช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ พัฒนาฝีมือ และเก็บเงินไปพร้อม ๆ กัน เพราะเขาก็สามารถขายงานได้ด้วย ทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ความเป็นเรอนัวร์ที่แตกต่างจาก Impressionism คนอื่น ๆ อย่างชัดเจน

ศิลปินในแก๊งของเรอนัวร์ ผู้ริเริ่มลัทธิ Impressionism มีความพยายามที่จะสร้างความแตกต่างทางศิลปะจากยุคก่อน ๆ ที่เคยนิยมวาดภาพเหมือนจริงมาก ๆ ใช้สีเข้ม ๆ อย่างน้ำตาลหรือดำเพื่อระบายเงา ให้มันดูมืดตามที่ควรจะเป็น แต่ศิลปินยุค Impressionism ใช้สีอื่น ๆ ที่เป็นสีบรรยากาศมาผสมกันเพื่อสร้างเป็นเงาแทน อย่างการใช้สีม่วงหรือน้ำเงินและใช้สีอื่น ๆ ที่อยู่ในรูปมาผสมด้วย ทำให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

และจุดเด่นของเรอนัวร์ที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด คือสไตล์รูปที่ชอบวาด อย่างการวาดรูปคนกำลังสังสรรค์กันกลางแจ้ง มีแสงลอดลงมาจากช่องใบไม้ แสงอาทิตย์กระทบกับเสื้อผ้า สีแสง สีปกติและสีเงาที่ต่างกันชัดเจน รวมถึงการเก็บช็อตที่ดูเหมือนทุกคนกำลังเคลื่อนไหวกันอยู่ ฝีแปรงที่ไม่มีแบบแผน ปาดไปตามอารมณ์ของภาพ แถมสีสดใสสไตล์ลัทธิประทับใจ ให้ความรู้สึกอุ่น ๆ ของแสงอาทิตย์กลางแจ้ง ทำให้เรอนัวร์ไม่เหมือนคนอื่น

The Swing and The Ball at The Moulin De Galette (1876) 

การเต้นรำที่มูแล็งเดอลากาแล็ต เป็นหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซของเรอนัวร์ก็ว่าได้ เป็นการเก็บบรรยากาศทุกรายละเอียดจนเรารู้สึกสนุกสนานไปด้วย และบ่งบอกความเป็นเรอนัวร์มากที่สุดรูปหนึ่ง ด้วยสไตล์การวาดแสงลอดจากใบไม้มากระทบสิ่งของแบบที่เขาชอบวาด กลายเป็นภาพที่แพงที่สุดของเรอนัวร์ มูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ประมาณเกือบ 5,000 ล้านบาท

By the Water (1880)

บั้นปลายชีวิตของเรอนัวร์ก็ใช่ว่าจะสดใส เพราะเขากลับมีอาการเจ็บปวดที่ข้อมือจนจับพู่กันแทบไม่ได้ ทำให้ต้องเอาพู่กันผูกไว้กับมือแล้วเริ่มวาด แต่ก็ทำให้เราเห็นว่าอาการป่วยไม่ได้หยุดความเป็นศิลปินเลยจนวาระสุดท้าย

อ้างอิงข้อมูลจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Salon_(Paris)
https://www.theartstory.org/artist/renoir-pierre-auguste/
https://www.biography.com/artist/pierre-auguste-renoir