โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาหาร

แฉ ทารุณเด็ก สถานสงเคราะห์

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

เผยแพร่ 28 พ.ค. 2566 เวลา 16.58 น.

วันที่ 28 พ.ค.66 กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้โพสต์แชร์ รูปภาพ เด็กหญิงถูก ปิดปาก มัดมือ มัดเท้า นั่งอยู่ในชักโครก อยู่ในห้อง และภาพเด็กหญิงนอนเรียงกัน 3 คน อยู่ในห้องอาบน้ำ พร้อมกับระบุข้อความว่า “ได้รับรู้เรื่องนี้มา ไม่นิ่งนอนใจที่จะหาทางตีแผ่สู่สังคม เด็กกว่า 280 ชีวิตต้องเผชิญกับความโหดร้ายจากสังคมภายนอกมาแล้ว ยังต้องมาเจอความโหดร้ายจากผู้ดูแล ทำไมมาตรการการทำผิดต้องมีห้องมืด ฝากสื่อด้วยนะคะ ยินดีให้ข้อมูล ฝากแชร์ เพื่อเป็นสะพานบุญให้เด็กหลายร้อยขีวิตด้วยนะคะ”
.
นอกจากนี้ยังโพตส์แชร์ คลิปเสียง จากแอปพลิเคชั่น ติ๊กต็อก โดยคลิปเสียงแรก ระบุข้อความว่า “คำพูดจากปากเด็กๆ หดหู่นะ เจอเรื่องครอบครัวมาเพื่อหาเซฟโซนเล็กๆให้ตัวเอง แต่กลับมาโดนแบบนี้” และข้อความว่า “เขาจับหนูลงหลุม บางอันก็มีน้ำ บางอันก็ไม่มีน้ำ เขาทั้งกัดหนูทั้งตีหนู ทั้งเอามีดมาเชือดหนู นี่เหรอคือสถานสงเคราะห์” ส่วนคลิปเสียงที่ 2 ระบุว่า สถานสงเคราะห์เค้าพูดกับเด็กแบบนี้กันเหรอ
.
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊ก น.ส.เปิ้ล (นาสมมติ) เป็นพยาบาลวิชาชีพ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เห็นในโพสต์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ภายในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยตนเองเพิ่งมาทำงานในสถานสงเคราะห์แห่งนี้ เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งทันทีที่เข้ามาถึงก็สังเกตเห็นความผิดปกติเนื่องจากเด็กที่นี่ดูไม่ร่าเริง ไม่กล้าสบตาผู้ใหญ่ เวลาพูดคุยก็จะถามคำตอบคำ หวาดกลัวพี่เลี้ยง จนกระทั่งวันหนึ่ง มีเด็กมาทำแผลที่ห้องพยาบาลกับตน สังเกตเห็นว่ามีบาดแผลบริเวณขา จึงถามเด็กว่าโดนอะไรมา เด็กก็บอกว่า"โดนแม่ตี" ซึ่ง"แม่"ที่เด็กเรียกนั้น ก็คือพี่เลี้ยงเด็ก ตนเคยรายงานผู้ใหญ่ให้ทราบ พี่เลี้ยงก็อ้างว่าเด็กดื้อ จำเป็นต้องตี
.
หลังจากนั้นตัวเองได้คลุกคลีกับเด็กมากขึ้น เด็กจนเด็กเริ่มไว้ใจ และมาเล่าข้อมูลให้ฟัง ว่าพี่เลี้ยงที่ทำทารุณกับเด็กนั้นมีหลายคน ที่ผ่านมาจะโดนพี่เลี้ยงลงโทษด้วยวิธีการหลากหลาย ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ อาทิ เตะจนตกบันได , ถีบตกเก้าอี้ , ถีบอัดตู้ , ขังในห้องมืด แล้วโยนตุ๊กตาน่ากลัวให้เด็ก , นอกจากนี้ ยังมีการเอาเด็กไปแช่ในท่อน้ำทิ้ง ซึ่งในนั้นมีน้ำสกปรก มีทั้งแมลงสาบ สัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งเด็กจะโดนจนชิน และจะมีคำเรียกติดปากว่า "โดนลงหลุม" ซึ่งความโหดร้ายยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เด็กบางคนยังโดนขังให้นอนในห้องน้ำ บางคนโดนมัดมือมัดขา และปิดปาก เด็กบางคนโดนจับโกนผม สร้างความอับอาย
.
โดยหลังจากที่ตนรับทราบเรื่องราวจากเด็ก และเห็นภาพการถูกทารุณกรรมต่างๆนานา จึงรายงานให้กับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ ก็มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า เพราะพี่เลี้ยงเด็กที่ก่อเหตุ ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วย มีการสร้างพยานเท็จขึ้นมา โดยโยนว่าเหตุการณ์ทั้งหมด เด็กกระทำต่อเด็กเองไม่เกี่ยวข้องกับพี่เลี้ยง
.
และสถานการณ์ก็เลวร้ายลง หลังจากที่มีภาพหลุดออกไป กลุ่มของพี่เลี้ยงได้เรียกเด็ก ลๅชทั้งหมดมารวมกัน แล้วเค้นถามว่าใครเป็นคนถ่ายภาพ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับเด็ก
.
ดังนั้น ตนเองในฐานะพยาบาลวิชาชีพและเป็นนักจิตวิทยา รับไม่ได้กับพฤติกรรมที่กระทำกับเด็กแบบนี้ เพราะเด็กแต่ละคนที่เข้ามาอยู่ในสถานสงเคราะห์แห่งนี้ ส่วนมากมาจากครอบครัวที่ไม่สามารถดูแลได้ เด็กบางคนโดนกระทำทารุณกรรมทั้งร่างกายและจิตใจมาก่อน แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในสถานสงเคราะห์ ซึ่งควรจะเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่กลับมากระทำกับเด็กแบบนี้ "เหมือนเด็กอยู่ในคุก" ซึ่งตนเป็นห่วงกลัวว่าในอนาคตเรื่องราวเหล่านี้จะกลายเป็นปมในใจ และทำให้เด็กเป็นโรคซึมเศร้า จึงอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลตรวจสอบ
.
ต่อจากนั้นผู้สื่อข่าว เดินทางไปติดตามข้อเท็จจริง ที่ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี โดย นางธนภร สุเทศ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ฯ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ยอมรับว่าเหตุการณ์ ที่ปรากฏภาพ เด็กโดนมัดมือมัดเท้า เกิดขึ้นจริง เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา
.
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เด็กรุ่นพี่ กระทำต่อเด็กรุ่นน้อง โดยอาศัยจังหวะช่วงที่พี่เลี้ยงเผลอไปเข้าห้องน้ำ ประมาณ 10 นาที ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หรือบุคลากรในสถานสงเคราะห์ แต่เป็นการกระทำระหว่างเด็กด้วยกันเอง ส่วนกรณีปรากฏภาพเด็กโดนโกนผมนั้น ขอชี้แจงว่าเด็กลายดังกล่าวป่วยเป็นโรคผิวหนัง "โรคชันนะตุ" หรือเป็นเชื้อราที่หนังศีรษะ ซึ่งภายในสถานสงเคราะห์ก็มีเจ้าหน้าที่พยาบาลในการรักษา ซึ่งการโกนผมก็เป็นหนึ่งในขั้นตอนการรักษา ไม่ได้เป็นการลงโทษเด็กแต่อย่างใด
.
แต่ตนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากมีเจ้าหน้าที่ภายในสถานสงเคราะห์ ทำหนังสือรายงานขึ้นมา เบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และได้มีการแยกตัวผู้ที่ถูกกล่าวหา ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเด็ก โดยหลังจากนี้ ถ้าหากมีพยานหลักฐานชี้ชัดว่ามีเจ้าหน้าที่หรือบุคลากรภายในมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทารุณกรรมเด็ก ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย บุคลากรทุกคนของสถานสงเคราะห์ ผ่านการอบรม และปฏิบัติตามมาตรการ เเละดูแลเด็กตามหลักสิทธิ
.
เพจ:ข่าวเวิร์คพอยท์ https://www.facebook.com/NewsWorkpoint

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0