คอลัมน์ : สัมภาษณ์
ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติแข่งขันกันดุเดือดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ “ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ “อัมพร กมลโกมุท” CEO เครือ AEG (Ambassador Education Group) กลุ่มทุนท้องถิ่นเชียงใหม่ที่ปักหมุดลงทุนสร้างธุรกิจโรงเรียนนานาชาติมากที่สุดถึง 6 แห่งตลอดเวลา 22 ปี ด้วยรายได้ต่อปีมากกว่า 600 ล้านบาท
ร.ร.สอนภาษาสู่นานาชาติ
จุดเริ่มต้นของเครือ AEG เกิดขึ้นเมื่อปี 2533 หรือ 33 ปีก่อนจากธุรกิจโรงเรียนสอนภาษา CEC ที่ก่อตั้งขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดย อ.ชูเกียรติ กมลโกมุท และ อ.อัมพร กมลโกมุท ที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ
และต้องการส่งเสริมให้เด็กนักเรียน นักศึกษาได้มีโอกาสเข้าถึงการเรียนภาษาอังกฤษและพัฒนาทักษะการสนทนาภาษาอังกฤษจากครูเจ้าของภาษา ถือเป็นโรงเรียนสอนภาษารุ่นบุกเบิกของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับการยอมรับมากที่สุดในยุคนั้น
โดยสามารถขยายธุรกิจไปหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคอีสานมากกว่า 10 สาขา อาทิ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก และขอนแก่น ซึ่งต่อมาได้ขายกิจการไปเกือบทั้งหมด ปัจจุบันเหลือเพียง 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่
เนื่องจากได้เริ่มเบนเข็มเข้าสู่ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติแห่งแรก Little Stars Bilingual Pre-School ตั้งแต่ปี 2544 เริ่มจากนักเรียนเพียง 15 คนในปีแรก และเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาในปี 2552 ได้ขยายการลงทุนแห่งที่ 2 สร้างโรงเรียนยุวฑูตศึกษาพัฒนา Ambassador Bilingual School (ABS) เป็นโรงเรียน 2 ภาษา เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาล ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6
ปัจจุบันเครือ AEG มีโรงเรียนนานาชาติจำนวน 6 แห่ง มีมูลค่าการลงทุนรวมมากกว่า 600 ล้านบาท ได้แก่ Little Stars Bilingual Pre-School เปิดสอนระดับชั้นเตรียมอนุบาล ส่วนอีก 4 โรงเรียนเปิดสอนระดับชั้นเตรียมอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6
ได้แก่ 1) Ambassador Bilingual School (ABS) 2) Unity Concord International School (UCIS) 3) Americana Chinese International School (ACIS) 4) Ambassador Bilingual Academy (ABA) และ British Concordance International School (BCIS) เปิดสอนระดับชั้นเตรียมอนุบาลถึง ป.5
นักเรียนกลุ่มหลักของเครือ AEG แบ่งสัดส่วนเป็นจีน 40% ตะวันตก 30% เกาหลี 10% และอีก 20% เป็นคนไทยและชาติอื่น ๆ ในอาเซียน ซึ่งการมาเรียนของนักเรียนต่างชาติก่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนต่อจังหวัดเชียงใหม่จำนวนมหาศาล
ยกตัวอย่างเฉพาะนักเรียนต่างชาติในเครือ AEG จำนวน 2,000 คน ซึ่งมีพ่อแม่ผู้ปกครองมาอยู่ด้วย มีค่าใช้จ่ายประจำวัน อาทิ ค่าอาหาร ซื้อของต่าง ๆ และค่าเช่าบ้าน รวมแล้วราว 2,000 ล้านบาทต่อปี
อ.อัมพรกล่าวต่อว่า การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาของเครือ AEG จึงต้องทำให้สอดคล้องกับเทรนด์ปัจจุบัน เน้นความหลากหลายทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนที่ต้องพัฒนาควบคู่กัน ดังนั้น ทางกลุ่มจึงได้ลงทุนทำโรงเรียน Americana Chinese International School (ACIS) เพื่อรองรับกลุ่มคนจีนโดยเฉพาะ ปรับตัวแข่งเดือดทุนข้ามชาติ
อ.อัมพรกล่าวว่า ในระยะเวลากว่า 20 ปี ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในจังหวัดเชียงใหม่ขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีมากกว่า 20 แห่ง มีกลุ่มทุนส่วนกลางกลุ่มทุนท้องถิ่นที่ทุ่มและกลุ่มทุนต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์
ซึ่งเป็นลักษณะของการร่วมทุนกับคนไทย โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็วคือ ศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว มีไลฟ์สไตล์ที่น่าอยู่อาศัย ซึ่งเมื่อชาวต่างชาติมาเที่ยวแล้วจะต่อยอดสู่การพำนักระยะยาว (long stay) และต้องการให้ลูกได้เรียนโรงเรียนนานาชาติตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประกอบกับเชียงใหม่มีความสะดวกสบาย ค่าใช้จ่ายไม่สูง
ขณะที่คนในท้องถิ่นที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะนักธุรกิจทั้งในเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และพะเยา นิยมส่งลูกมาเรียนโรงเรียนนานาชาติในจังหวัดเชียงใหม่ จึงทำให้กลุ่มทุนเล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสทางการตลาดในการลงทุน
อีกหนึ่งปัจจัยก็คือ กระแสความนิยมของคนจีนที่ส่งลูกมาเรียนโรงเรียนนานาชาติที่เชียงใหม่เพิ่มมากขึ้นในช่วงระยะกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศจีนค่าเทอมถือว่าแพงมาก เฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 ล้านบาทต่อปี แต่มาเรียนที่เชียงใหม่ค่าเทอมเพียงหลักแสนต่อปี ซึ่งถูกกว่าหลายเท่า
ทั้งนี้ ปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในจังหวัดเชียงใหม่มีสูงมาก ทำให้เครือ AEG ต้องปรับตัวตลอดเวลา มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาให้ทันโลก ไม่ได้เน้นเฉพาะเด็กนักเรียนต่างชาติ แต่อยากเห็นความเสมอภาคทางด้านภาษาของเด็กไทยให้เท่ากับเด็กต่างชาติอื่น ๆ
“เครือ AEG เราให้โอกาสคนทุกกลุ่มที่พอมีกำลังซื้อ สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนในระดับอินเตอร์ที่มีมาตรฐานสูง ด้วยค่าเทอมที่ไม่แพง และเชื่อว่าถูกกว่าหลาย ๆ แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอัตราค่าเทอมของเครือ AEG เฉลี่ยอยู่ที่ 1-3 แสนบาทต่อปี เทียบกับที่อื่นอยู่ที่ 3-4 แสนบาทต่อปี”
รุกสู่สปอร์ตคอมเพล็กซ์
สำหรับผลประกอบการของเครือ AEG อยู่ที่ราว 600 ล้านบาทต่อปี โดยปี 2566 มีจำนวนนักเรียนประมาณ 3,500-4,000 คน ขณะที่ปี 2567 ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักเรียนเป็น 5,000 คน
และปี 2568 ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักเรียนเต็ม capacity ความจุสูงสุดที่ 7,000 คน เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักเรียนในอีก 2 ปีข้างหน้า ในปี 2566 ได้ขยายการลงทุนสร้างอาคารเรียนโรงเรียนในเครือหลายแห่งเพิ่มขึ้นมูลค่าการลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท
อ.อัมพรกล่าวว่า แผนการลงทุนในอนาคต ในระยะ 2-5 ปีข้างหน้า เตรียมขยายการลงทุนพัฒนาโครงการ community complex บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ใกล้เคียงกับโรงเรียนนานาชาติของเครือ AEG
ซึ่งวางโมเดลให้เป็นศูนย์ธุรกิจการศึกษานานาชาติ โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์ดูแลคนชรา สปอร์ตคอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะมีทั้งสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส ฯลฯ ศูนย์วัฒนธรรมนานาชาติ ที่เป็นการแสดงเผยแพร่วัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ คาดว่ามีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน มีแผนขยายการลงทุนธุรกิจโรงเรียนนานาชาติไปยังหลายจังหวัดในภาคเหนือ อาทิ เชียงราย พะเยา และพิษณุโลก นอกจากนี้ ยังมองพื้นที่ภาคใต้ คือจังหวัดภูเก็ตที่มีโอกาสและศักยภาพสูงทางการตลาด โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนแผน คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 5 ปีนี้
ก้าวรุกของกลุ่มทุนท้องถิ่นเชียงใหม่ เครือ AEG กับโรดแมปธุรกิจโรงเรียนนานาชาติที่เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างไม่หยุดยั้ง
