×

Dry Wave Cocktail Studio บาร์ค็อกเทลที่ใช้ความลื่นไหลบอกเล่าสิ่งใหม่

22.01.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • ถ้าบอกว่า Dry Wave Cocktail Studio เน้นคลาสสิกค็อกเทลก็อาจถูกครึ่งหนึ่ง เพราะถ้าลองเปิดเล่มเมนูดูจะเห็นคำว่า ‘Super Classic’ เป็นเมนูคลาสสิกที่เอามาทำใหม่ให้ไม่ธรรมดาขึ้นไปอีก ด้วยการนำคลาสสิกค็อกเทล 2 ตัวมาชนกัน จนเกิดเป็นเมนูใหม่เฉพาะที่นี่

นี่คือบาร์แห่งใหม่ย่านทองหล่อที่เราเชื่อว่าจะต้องกลายเป็นบาร์สุดฮอตของนักดื่มในปีนี้อย่างแน่นอน เพราะ ‘Dry Wave Cocktail Studio’ เป็นบาร์ของ ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ บาร์เทนเดอร์มือดีที่อยู่ในวงการนี้มานาน 20 ปี หลังจากเขายืนหลังบาร์ดังๆ ไปจนถึงลองย้ายไปยืนบริหารอยู่หลังฉากดูบ้าง ปาล์มบอกว่าตอนนี้เขาเองก็รู้สึกว่าคงถึงเวลาแล้วที่จะมีบาร์ค็อกเทลเป็นของตัวเองสักที 

 

ตอนนี้ปาล์มจึงลงมาดูแลบาร์แห่งนี้เต็มตัว เขาคิดเองตั้งแต่คอนเซปต์ รูปแบบร้าน เครื่องดื่ม ไปจนถึงเล่มเมนูที่น่าสนใจและมีความเป็นตัวของตัวเองมากๆ

 

 

The Vibe

 

Dry Wave Cocktail Studio อยู่ในซอยทองหล่อ 13 ด้านในสุดของโครงการ SODALITY ที่มีร้านและคาเฟ่มากมายอยู่รวมกัน ส่วนค็อกเทลบาร์อยู่ชั้นบน เปิดเข้าไปจะเจอบรรยากาศโคซี่เหมือนห้องนั่งเล่น มีทั้งมุมเคาน์เตอร์บาร์และโต๊ะเล็กๆ

 

“ผมชอบคำว่า Wave เพราะฟังดูมีความลื่นไหล เป็นเส้น เป็นคลื่น จึงใช้คำนี้เป็นคอนเซปต์ร้านตั้งแต่การออกแบบ ใช้ทั้งหินอ่อน ทำเพดานโค้ง ผนังใช้ทรายจริงๆ และเมนูก็ใช้ลายเส้นในการบอกรสชาติด้วย”

 

ส่วนเหตุผลที่ Dry Wave ไม่ใช้คำว่า Cocktail Bar ก็เพราะปาล์มชอบการได้นั่งคุยกับลูกค้า เขาอยากทำให้บาร์นี้เป็นเหมือนห้องทดลองค็อกเทล จึงใช้คำว่า Studio แทน ทุกคนสามารถมานั่งดื่มและพูดคุยกันได้สบายๆ ด้วยเหตุนี้บาร์จึงมีมุมเคาน์เตอร์ที่ทุกคนนั่งล้อมหันหน้าเข้าหากันได้ด้วย รับรองว่าทั้งสนุกและอบอุ่นไปอีกแบบ

 

 

The Taste

 

ถ้าบอกว่า Dry Wave Cocktail Studio เน้นคลาสสิกค็อกเทลก็อาจถูกครึ่งหนึ่ง เพราะถ้าลองเปิดเล่มเมนูดูจะเห็นคำว่า ‘Super Classic’ เป็นเมนูคลาสสิกที่เอามาทำใหม่ให้ไม่ธรรมดาขึ้นไปอีก เพราะปาล์มบอกว่าเขาชอบคลาสสิกค็อกเทล แต่ไม่อยากทำคลาสสิกทวิสต์ เขาจึงนำคลาสสิกค็อกเทล 2 ตัวมาชนกัน จนเกิดเป็นเมนูใหม่เฉพาะที่นี่

 

“ผมแบ่งค็อกเทลตามรสชาติ แต่ละรสชาติมีลายเส้นเป็นคลื่นของตัวเอง ผมลองคิดว่าแล้วถ้าเราเอาคลื่นของแต่ละตัวมาผสานเข้ากัน มันจะเป็นอย่างไร มันก็เลยเกิดเป็นเมนูเล่มนี้ แรกๆ อาจต้องทำความเข้าใจหน่อย แต่หลายๆ คนก็บอกว่ามันเข้าใจง่ายดี มันสนุก”

 

พูดอย่างเดียวทุกคนก็อาจยังไม่เห็นภาพ เพราะฉะนั้นมาดูของจริงกันเลยดีกว่า แก้วแรกที่ปาล์มแนะนำคือ Aloha Collins (400 บาท) ค็อกเทลที่มีความ Fruity ผสม Citrusy เพราะเป็นการผสมคลาสสิกค็อกเทล Mai Tai เข้ากับ Collins จิบแล้วจะมีความผลไม้มากกว่าความเปรี้ยวอย่างที่ลายเส้นบอก

 

 

Henry C. Iced Tea (440 บาท) จะเป็นแนว Floral โดด ผสมความ Boozy นิดๆ เบสคือค็อกเทล Ramos Gin Fizz ผสมกับ Long Island Iced Tea แก้วนี้ตั้งชื่อตามผู้คิดค้นเมนู Ramos Gin Fizz ด้วย

 

1806 – 1988 (400 บาท) เป็นการจับ Old Fashioned มาชนกับ Cosmopolitan เมนูนี้มีความ Boozy หน่อยๆ แต่ Citrusy จะชัดเจนกว่า

 

“ผมใช้เวลาทดลองอยู่นานเหมือนกันกว่าเมนูจะลงตัว เพราะค็อกเทลที่เราเลือกมาชนกันรสชาติค่อนข้างต่างกันมาก แต่ผมก็พยายามทำ Combination หลายๆ แบบ มันสนุกและหลากหลายดี และเราก็พยายามตั้งชื่อเฉพาะขึ้นมาใหม่ด้วย”

 

 

Good for…

 

เราชอบที่ Dry Wave Cocktail Studio มีความเป็นตัวของตัวเองชัดเจน และพวกเขากำลังทำสิ่งใหม่ที่น่าสนุกมาก ถ้าใครเป็นสายคลาสสิกค็อกเทล บาร์นี้เป็นอีกแห่งที่ห้ามพลาดเลย เพราะนอกจากเมนู Super Classic ที่น่าลองทุกแก้ว เรายังสามารถสั่งคลาสสิกค็อกเทลที่ใช้เป็นเบสในแต่ละเมนูได้ด้วย ซึ่งปาล์มบอกว่าถ้าหากเมนูเล่มนี้เสร็จสมบูรณ์เมื่อไร Dry Wave จะมีคลาสสิกค็อกเทลให้ลองเกือบ 30 ชื่อ

 


 

Dry Wave Cocktail Studio

 

Address: ซอยทองหล่อ 13 ชั้น 2 โครงการ SODALITY

Open: ทุกวัน เวลา 19.00-01.00 น.

Contact: @drywavecocktailstudio

Budget: 500-1,000 บาท

Map: https://maps.app.goo.gl/wk6AsBaUYnc8Nf2j6

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising