วิธีการ ซื้อน้ำแข็งแห้ง

ร่วมเขียน โดย ทีมงานวิกิฮาว

น้ำแข็งแห้งเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ในรูปแบบของแข็ง โดยก๊าซนี้เป็นก๊าซสำคัญที่ซึมผ่านชั้นบรรยากาศของโลก สารนี้ซื้อได้ง่ายและคุณสามารถใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้หลากหลายอย่างตั้งแต่การแช่แข็งอาหารเร็วไปจนถึงการสร้างหมอกในทันที

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

การซื้อและการขนส่งน้ำแข็งแห้ง

ดาวน์โหลดบทความ

1
ไปรับน้ำแข็งแห้งที่ร้านขายของชำในท้องถิ่นหรือร้านขายสินค้าทั่วไป. บริษัทที่ขายน้ำแข็งแห้ง เช่น บริษัทชัยดรายไอซ์ จำกัด และบริษัท Freezco เป็นต้น
- วางแผนไปรับน้ำแข็งแห้งใกล้กับเวลาที่คุณต้องการจะใช้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากมันจะมีการเปลี่ยนแปลงจากของแข็งไปเป็นก๊าซอยู่ตลอดเวลา จึงมีอายุการเก็บรักษาที่สั้นมาก น้ำแข็งแห้ง 2-4.5 กิโลกรัมจะเปลี่ยนจากของแข็งไปเป็นก๊าซทุก 24 ชั่วโมง^{[1]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะสามารถซื้อน้ำแข็งแห้งได้ แต่ร้านค้าบางแห่งจะกำหนดว่าคุณต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปีจึงจะซื้อได้
2
ซื้อน้ำแข็งแห้งแบบก้อนใหญ่. ทั้งการทำการทดลองที่โรงเรียนและการสร้างเอฟเฟกต์หมอกนั้นต้องการน้ำแข็งแห้งแบบก้อนใหญ่
- ยังมีน้ำแข็งแห้งในรูปแบบเม็ดเล็กๆ อีกด้วย แต่ส่วนใหญ่ใช้ในการทำความสะอาดด้วยน้ำแข็งแห้งเพื่อทำความสะอาดพื้นผิวหรือเพื่อการขนส่งทางการแพทย์
- น้ำแข็งแห้งจะมีราคาตั้งแต่ 30-90 บาทต่อ 0.5 กิโลกรัม แม้ว่าราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณและสถานที่ แต่โดยทั่วไปมักจะมีราคาถูก
3
ใส่น้ำแข็งแห้งในภาชนะที่หุ้มฉนวนอย่างเช่น คูลเลอร์พลาสติกหรือกระติกพลาติก. เนื่องจากน้ำแข็งแห้งเย็นกว่าภาชนะแช่แข็งแบบดั้งเดิมมากๆ (-78.5 องศาเซลเซียส) ดังนั้นจึงไม่สามารถแช่เก็บไว้ในช่องแช่แข็งหรือตู้เย็นทั่วไปได้
- ยิ่งคูลเลอร์หรือกระติกของคุณหุ้มฉนวนหนาขึ้นเท่าไร ยิ่งทำให้น้ำแข็งแห้งระเหิดช้าลงเท่านั้น
- เปิดและปิดภาชนะให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อชะลอกระบวนการระเหิด คุณยังสามารถเติมพื้นที่ว่างในคูลเลอร์ด้วยก้อนกระดาษเพื่อจำกัดบริเวณที่เสียเปล่าและลดการระเหิดด้วยเช่นกัน^{[2]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- การเก็บน้ำแข็งแห้งในช่องแช่แข็งอาจจะทำให้เทอร์โมมิเตอร์ของช่องแช่แข็งดับได้ เนื่องจากน้ำแข็งแห้งเย็นจัด ช่องแช่แข็งของคุณจะดับเพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเย็นจัดจนเกินไป^{[3]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ดังนั้นถ้าช่องแช่แข็งของคุณเสียและคุณต้องการแช่แข็งอาหารข้างใน คุณก็สามารถใส่น้ำแข็งแห้งไว้ข้างในได้และมันจะทำหน้าที่แทน
4
วางคูลเลอร์ในรถและไขกระจกหน้าต่างลง. จำไว้ว่าน้ำแข็งแห้งคือคาร์บอนไดออกไซด์และเป็นอันตรายถ้าสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก
- อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งถ้าคุณขนส่งน้ำแข็งแห้งเป็นเวลานานกว่า 15 นาที การอยู่กับน้ำแข็งแห้งในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้ไม่ดีอาจจะทำให้หายใจหอบและปวดหัวได้ และอาจจะส่งผลร้ายแรงถ้าสูดดมเป็นเวลานาน^{[4]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

การจัดการกับน้ำแข็งแห้ง

ดาวน์โหลดบทความ

1
สวมถุงมือหนังและเสื้อแขนยาวเมื่อเปิดหรือเทน้ำแข็งแห้ง. แม้ว่าการสัมผัสสั้นๆ จะไม่เป็นอันตราย แต่การสัมผัสกับผิวหนังนานๆ สามารถทำให้เซลล์แข็งตัวและจะทำให้คุณแสบมือได้ในลักษณะเดียวกันกับไฟลวก
- ถุงมือที่ใช้จับภาชนะร้อนจากเตาอบหรือผ้าเช็ดตัวก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่จะไม่มีการป้องกันเหมือนกับถุงมือ ให้ดูแลน้ำแข็งแห้งเช่นเดียวกับกระทะร้อน โดยอย่าให้สัมผัสโดนผิวของคุณ
- รักษาแผลน้ำแข็งแห้งกัดเช่นเดียวกับแผลไฟลวกตามปกติ ถ้าผิวหนังของคุณแค่แดงอย่างเดียวก็จะหายในไม่ช้า ถ้าผิวหนังของคุณพุพองหรือลอกออกมา ให้รักษาบริเวณนั้นด้วยครีมยาปฏิชีวนะและพันด้วยผ้าพันแผล ปรึกษาแพทย์ทันทีในกรณีที่เป็นแผลหนัก^{[5]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
เก็บน้ำแข็งแห้งที่ไม่ได้ใช้ไว้ในห้องที่อากาศถ่ายเทได้ดี. การเก็บน้ำแข็งแห้งปริมาณมากไว้ในบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเทจะสามารถทำให้อากาศขาดออกซิเจนได้
- ห้องเก็บของที่ล็อคไว้ในสนามหลังบ้านของคุณจะมีอากาศไหลเวียนได้ดีและจะไม่เป็นอันตรายที่ทำให้คนหรือสัตว์หายใจไม่ออก ถ้าคุณมีปัญหาในการหาสถานที่ดีๆ ในการเก็บน้ำแข็งแห้งแล้วล่ะก็ ให้ถามครูสอนเคมีที่โรงเรียนของคุณว่ามีสถานที่ที่ปลอดภัยในการเก็บน้ำแข็งแห้งในห้องปฏิบัติการทางเคมีหรือไม่
- ให้แน่ใจว่าคุณเก็บน้ำแข็งแห้งไว้ห่างจากเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง
3
เปิดประตูและหน้าต่างในห้องที่มีน้ำแข็งแห้งหกรั่วไหล. น้ำแข็งแห้งจะระเหิดต่อไปแต่จะต้องสามารถผสมกับอากาศได้ง่ายขึ้น
- น้ำแข็งแห้งหนักกว่าออกซิเจนและจะสะสมในบริเวณต่ำของบริเวณที่หกรั่วไหล หลีกเลี่ยงการเอาใบหน้าเข้าใกล้กับหลุมหรือบริเวณปิดและต่ำ เนื่องจากสถานที่เหล่านี้จะมีความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์สูงที่สุด^{[6]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
ให้ทิ้งน้ำแข็งแห้งในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้ดีที่อุณหภูมิห้องเพื่อกำจัดทิ้ง. ถ้าคุณพบว่ามีน้ำแข็งแห้งเหลือมากเกินไป ให้จำไว้ว่ามันอยู่ระหว่างการระเหิดอย่างต่อเนื่องและคุณก็แค่ทิ้งมันไว้เฉยๆ ให้มันระเหยไปเอง
- ลานสนามหลังบ้านของคุณเป็นสถานที่ที่ดีในการกำจัดน้ำแข็งแห้ง ให้แน่ใจว่าปลอดภัยจากคนอื่นอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- คุณยังสามารถใช้ตู้ดูดควันเพื่อกำจัดน้ำแข็งแห้งได้อีกด้วย ตู้ดูดควันคือตู้ที่อากาศถ่ายเทได้ซึ่งสามารถใช้หรือเก็บรักษาสารเคมีที่เป็นอันตรายได้ ห้องปฏิบัติการเคมีของโรงเรียนอาจจะมีตู้ดูดควันซึ่งคุณสามารถทิ้งน้ำแข็งแห้งได้ ให้แน่ใจว่าคุณได้ขออนุญาตครูก่อนที่จะทำอย่างนั้น
โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง

ดาวน์โหลดบทความ

1
อย่าเก็บน้ำแข็งแห้งไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทจนอากาศถ่ายเทไม่ได้. การระเหิดของน้ำแข็งแห้งเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะทำให้ภาชนะขยายตัวและอาจจะระเบิดได้
- น้ำแข็งแห้งอาจทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงถ้าบรรจุแน่นเกินไป บางคนถูกกล่าวหาในข้อหาความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ เนื่องจากตั้งใจเก็บน้ำแข็งแห้งไว้ในบริเวณปิดจนระเบิดเพื่อสร้าง "ลูกระเบิด" น้ำแข็งแห้ง
- อย่าเก็บน้ำแข็งแห้งไว้ในภาชนะโลหะหรือแก้ว เนื่องจากการระเบิดสามารถสร้างเศษกระสุนที่กระจายกลางอากาศซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดบาดแผลหรืออาการบาดเจ็บสาหัสอื่นๆ ได้
2
หลีกเลี่ยงการเก็บน้ำแข็งแห้งไว้ในห้องใต้ดิน ชั้นใต้ดิน รถยนต์ หรือบริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวกอื่นๆ. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากน้ำแข็งแห้งจะค่อยๆ เริ่มแทนที่ออกซิเจนและอาจจะทำให้เกิดอาการหายใจไม่ออกถ้าสูดหายใจเข้าไปเรื่อยๆ^{[7]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ระบายอากาศออกจากบริเวณที่เคยเก็บน้ำแข็งก่อนที่จะเข้าไปข้างใน
3
พยายามอย่าทิ้งน้ำแข็งแห้งไว้โดยไม่เหลียวแล. ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มีใครอยู่แถวนั้น แต่อาจจะเกิดการหกรั่วไหลและอุบัติเหตุอื่นๆ ขึ้นได้ถ้าไม่อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด
- อย่าทิ้งน้ำแข็งแห้งไว้บนเคาน์เตอร์ที่เป็นกระเบื้องหรือมีพื้นผิวทึบ เนื่องจากความเย็นจัดอาจจะให้มันแตกได้
4
อย่าทิ้งน้ำแข็งแห้งในท่อระบายน้ำ อ่างล้างจาน ชักโครก หรือที่ทิ้งขยะ. คุณอาจจะทำให้น้ำในท่อกลายเป็นน้ำแข็งและอาจจะทำให้พวกมันแตกออกได้
- ท่อที่อัดแน่นมากจะทำให้น้ำแข็งแห้งขยายตัวเร็วขึ้นและอาจจะทำให้เกิดการระเบิดได้
โฆษณา