ประตูบ้าน กับ การสร้างบ้าน

ประตูบ้าน

ประตูบ้าน คือ ส่วนที่ใช้เปิด-ปิดระหว่างห้อง เพื่อเป็นทางผ่านเข้าห้องแต่ละห้อง สร้างความเป็นสัดส่วนภายในคอนโดและจะช่วยแบ่งลักษณะการใช้งานของห้องนั้น ๆ ประตูบ้าน กับ การสร้างบ้าน บทความรู้นี้มีอะไรให้ท่านบ้าง เชิญอ่านได้

 

สารบัญ

 

ลักษณะของ ประตูบ้าน ที่ดี

การเลือกประตูบ้านให้เข้ากับบ้านพักที่เราอาศัยอยู่นั้นมีเรื่องหนึ่งที่จำเป็น เพราะหากเลือกผิด อาจเกิดปัญหาการใช้งานที่ขัดข้อง ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงไปอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากตัดสินใจเลือกจะซื้อประตูบ้าน เราควรรู้จักข้อมูลเบื้องต้นว่าประตูบ้านที่ได้รับมาตรฐานนั้นมีรูปแบบ หรือลักษณะอย่างไร  ซึ่งประตูบ้านโดยทั่วไปจะมีขนาด 0.90 x 2.00 เมตร ส่วนใหญ่จะใช้เป็นประตูห้องนอนหรือห้องครัว แต่ถ้ามีขนาดเล็กลงมาขนาด 0.80 x 2.00 เมตร ส่วนใหญ่เขาจะใช้เป็นประตูห้องน้ำ หรือห้องเก็บของ แต่ก็ยังมีประตูแบบอื่นๆ อีกหลายแบบให้ได้เลือกใช้กัน

 

คุณสมบัติ ประตูบ้าน ที่ดี

1. สภาพบานประตูที่ดี

ควรเปิดและปิดได้เต็มที่ หากทำไม่ได้เปลี่ยนเป็นบานเลื่อนจะดีกว่าบานประตูเปิดได้ไม่ถึง 180 องศา อาจไปติดกับผนังหรือ ตู้ โต๊ะ เตียง คนที่ใช้โดยทั่วไป ยังไม่ประสบความสำเร็จได้อะไรเพียงครึ่งๆ กลางๆ หากเปิดประตูแล้วไปกระแทกสิ่งใดนั้น จะทำให้เกิดขัดแย้ง สุขภาพไม่ดี หรือมีกรณีพิพาทถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกคำพูดส่อเสียด (ประตูคือปาก) ต้องแก้ไขติดโช้คอัพ หรือยางกันกระแทก

2. บานพับ เปิด – ปิด

ควรดูแลอย่าให้เกิดเสียงดังเวลาเปิด-ปิด ได้ยินแล้วรำคาญหงุดหงิด โดยเฉพาะใครที่อยู่เงียบๆ คนเดียว และขวัญอ่อน จะตกใจ หรือระแวงว่ามีอะไรผิดปกติ แต่ที่แน่ชัดคือ เป็นลางบอกเหตุ ถึงการติดขัดทางการติดต่อกระแสการเงินโชคลาภจะเริ่มลดถอย ต้องรีบหาน้ำมันมาหยอด เพื่อให้เสียงนั้นหายไป โดยเร็วที่สุด เมื่อเสียงดังมากขึ้นอาจลุกลามไปถึงการทะเลาะวิวาทบาดหมางใจกันด้วยเรื่องเล็กน้อย

3. กลอนประตู – หน้าต่าง

มีความสำคัญมาก ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ปิด – เปิด ได้สะดวก บานประตูไม่กระแทกใส่กลอนและกุญแจโดยง่ายนั้นถือว่าดีที่สุด  ประตูเสีย เช่น แตกหัก ต้องรีบซ่อม มิฉะนั้นคนในบ้านมีอุบัติเหตุ หรือมีเหตุไปหาหมอฟัน เพราะประตูคือปาก

 

 

จากครอบครัวช่างผู้รับเหมาก่อสร้าง ใช้วัสดุคุณภาพสูง งบไม่บานปลาย เสร็จตามเวลา ช่างไม่ทิ้งงาน วางใจถึงหลังส่งมอบ มีประกันงาน บริการสร้างบ้าน รับออกแบบบ้านสวยๆ ทุกสไตล์ บ้านชั้นเดียว บ้านสองชั้น ขนาดเล็กและใหญ่ ราคาเหมาะสม ตามงบประมาณ กับ TAMPBUILDER(แทมป์บิวเดอร์) บริษัทรับสร้างบ้าน

 

ได้บ้านในฝันตามงบประมาณ ราคายุติธรรม ช่างผู้รับเหมาไม่ทิ้งงาน

กด >> รับสร้างบ้าน

 

 

ขนาดของ ประตูบ้าน มาตรฐาน

  1. 70 x 200 , 70 x 180 ( ส่วนมากจะเป็นประตูห้องน้ำ )
  2. 80 x 200 , 90 x 200 ( ประตู ห้องนอน หลังบ้าน )
  3. 90 x 200 ,100 x 200 (ประตูบานเดี่ยวหน้าบ้าน หรือ บานทั่วไป)
  4. 140 x 200 , 160 x 200 ( กว้าง 70 หรือ 80 จำนวน 2 บาน จึงเรียกว่าประตูบานคู่ หน้าบ้าน)

เมื่อหลังจากติดตั้งแล้ว ขนาดจะลดลงไป ด้านละ 1/2 – 1 ซม. ดังนั้น ขนาดจะเหลือ แค่  79.5 x 199.5 หรือ 79 x 199 ซม. สำหรับบานประตูบานเดี่ยวทั่วไป   เมื่อท่านวัดขนาดประตูจากขอบวงกบ หรือ บานประตูเดิมขนาดจึงไม่ใช่ 80 x 200 พอดีซึ่งเป็นเรื่องปกปกติ จึงจะเผื่อขนาดให้ประตู กว้าง และสูง เป็น 80.3 x 200.3 ซม. (สำหรับบานไม้ เนื้อแข็ง เต็ง ) แต่ขนาดของบานประตูไม้อัด HDF UPVC ไม้สัก ไม้สน ขนาดจะ เท่ากับ 80 x 200 พอดี  อย่างไรก็ตามหลังจากช่างติดตั้งจะต้องมีการไสกบที่ขอบประตู ขนาดจะลดลงไป 1/2 – 1.3 ซม. ซึ่งน้อยมาก  ดังนั้นประตูจึงเป็นต้อง ให้ช่างที่ชำนาญติดตั้งเท่านั้น

 

สถาปนิกมืออาชีพออกแบบบ้านตามสไตล์คุณ วิศวกรเซ็นต์เพื่อยื่นขออนุญาต

กด >> รับออกแบบบ้าน รับเขียนแบบบ้าน

 

 

ประตูบ้าน แบ่งตามจุดประสงค์ของการใช้งาน

ประตูบ้านที่แบ่งตามจุดประสงค์ของการใช้งาน พอที่จะแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

ประเภทที่หนึ่ง ประตูโปร่ง

ประตูบ้านโมเดิร์น

หมายถึง ประตูที่ไม่กั้นแสงสว่างหรืออากาศ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง ประตูประเภทนี้มีประโยชน์ในการกั้นพื้นที่เพื่อแบ่งแยกการใช้อย่างเป็นสัดส่วน แต่แสงสว่างและ/หรืออากาศก็ยังคงสามารถผ่านไปได้ ประตูที่สามารถมองทะลุผ่านไปยังอีกพื้นที่หนึ่งได้ก็เข้าข่ายของประตูโปร่งเช่นกัน

ลักษณะของประตูโปร่งก็คือ ประตูที่กรุกระจกใสเต็มบานเพื่อให้แสงสว่างผ่านเข้าไปได้ ในขณะเดียวกันสายตาก็สามารถมองทะลุเข้าไปได้ หรือประตูที่ตีเป็นไม้ระแนงโดยไม่มีวัสดุปิดทึบ ช่วยให้อากาศไหลผ่านเข้าไปได้ (เพื่อการระบายอากาศ) ไม่ให้เกิดความอับทึบ ประตูแบบโปร่งนี้โดยส่วนใหญ่จะใช้ปิดกั้นระหว่างพื้นที่ที่ยังต้องการความเชื่อมต่อกันอยู่บ้าง และเป็นพื้นที่ที่ไม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากนัก เช่น ประตูกั้นระหว่างชานกับห้องนั่งเล่น ซึ่งต้องการเปิดรับแสงธรรมชาติและการมองเห็นทัศนียภาพที่อยู่ภายนอกบ้าง

ประเภทที่สอง ประตูกึ่งทึบกึ่งโปร่ง

ประตูบ้าน กระจก

ประตูประเภทนี้ใช้สำหรับพื้นที่ที่ต้องการให้แสงสว่าง อากาศ หรือสายตาผ่านไปได้บ้าง แต่ก็ไม่ทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว ประตูในลักษณะนี้ ได้แก่ ประตูที่กรุกระจกฝ้าเพื่อให้แสงสว่างผ่านไปได้บ้าง แต่ไม่ถึงกับผ่านไปได้ทั้งหมด หรือมองเห็นได้บ้าง แต่ก็ไม่ชัดเจน

ประตูที่ทำเป็นบานเกล็ดทั้งบาน(เพื่อการระบายอากาศ) ก็จัดเข้าประเภทนี้ได้เหมือนกัน เพราะยอมให้อากาศผ่าน แต่ไม่ยอมให้สายตามองผ่าน นอกจากนี้แล้วประตูที่ครึ่งหนึ่งทำเป็นบานทึบ อีกครึ่งหนึ่งทำเป็นบานเกล็ดหรือกระจกใส ยอมให้อากาศ แสง หรือสายตาผ่านได้บ้าง ก็จัดเข้าประเภทนี้เช่นกัน

ประตูแบบนี้จะใช้ปิดกั้นระหว่างพื้นที่ที่ยังต้องการความเชื่อมต่อกัน และเป็นพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง เช่น ประตูกั้นระหว่างห้องครัวกับห้องรับประทานอาหาร ที่ควรจะปิดทึบเพื่อป้องกันกลิ่นและควันออกมาจากครัว แต่ก็ควรจะกรุกระจกใส ในบางส่วน เพื่อให้สามารถมองเห็นคนที่จะยกของออกมาเสิร์ฟ เป็นการป้องกันอันตรายจากการเปิดประตูชนกัน เป็นต้น

ประเภทที่สาม ประตูทึบ

ประตูบ้านไม้

เป็นประตูที่ไม่ยอมให้แสงสว่าง อากาศ และสายตามองผ่านไปได้เลย ประตูแบบนี้เหมาะที่จะทำการปิดกั้นในส่วนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือต้องการปิดบังจริงๆ เช่น ประตูห้องน้ำหรือประตูห้องเก็บของ วัสดุที่เป็นส่วนประกอบของบานประตูจะต้องเป็นวัสดุปิดทึบ ไม่ว่าจะเป็นไม้ โลหะ กระจกเงา หรือกระจกทึบแสง ตามแต่จะเลือกใช้

อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ประตูทั้งสามประเภทก็คงจะกำหนดแน่นอนไม่ได้ว่าตรงไหนควรใช้ประตูแบบใด ทั้งนี้เพราะเป็นความต้องการส่วนตัวของเจ้าของบ้านและผู้ออกแบบเองเสียมากกว่า ว่าพื้นที่ที่จะกั้นแบ่งด้วยประตูนั้นต้องการความเป็นส่วนตัวมากน้อยแค่ไหน หรือจะยอมให้แสงและอากาศผ่านได้มากน้อยเพียงใด ที่กล่าวถึงในข้างต้นนั้นจึงเป็นการยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพประกอบความเข้าใจเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม หน้าต่างบ้าน

 

การแบ่งประตูออกตามวัสดุที่ใช้งาน

การแบ่งประตูออกตามวัสดุที่ใช้งาน แบ่งออกได้คร่าว 12 ประเภท คือ

1. ประตูไม้ (Wood)

ประตูบ้าน2บาน

ไม้ หนึ่งในวัสดุที่คนไทยคุ้นเคยเพราะเป็นวัสดุประตูที่หาซื้อง่าย เข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติ สามารถทำลวดลายและสีสันได้ตามต้องการ ไม้ที่นิยมทำประตูเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้โอ๊ค ไม้สัก ซึ่งไม้แต่ละชนิดให้ความสวยงาม ความทนทานและราคาที่แตกต่างกัน

ข้อจำกัดของการใช้ประตูไม้จริง คือ น้ำ หากไม้โดนน้ำหรือได้รับความชื้นบ่อย ๆ ไม้จะบวม, เกิดเชื้อรา และเมื่ออากาศแห้งลงไม้จะ โก่ง บิดตัว การเลือกใช้ประตูไม้จริงจึงควรเลือกเฉพาะส่วนที่ไม่เสี่ยงต่อการโดนน้ำ เช่น ประตูห้องนอน และหากต้องการนำมาใช้กับประตูหน้าบ้าน ควรเลือกไม้เนื้อแข็งเท่านั้น และควรบำรุงรักษาอยู่เสมอ

ข้อดีของประตูไม้จริง

  1. มีความแข็งแรง ทนทาน
  2. มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากลวดลายของไม้

ข้อเสียของประตูไม้จริง

  1. ประตูไม้จริงจะหดและขยายออก หากได้รับความชื้น
  2. มีโอกาสเกิดปลวกได้

2.ประตู WPC (Wood Plastic Composite)

ประตู WPC

บานประตู WPC หรือที่นิยมเรียกกันว่าไม้สังเคราะห์ เป็นนวัตกรรมใหม่ทดแทนไม้ธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะทำจากไม้บดผสมพลาสติก นำมารีดเป็นแผ่น ทำให้ได้บานประตูที่แข็งแรงทนทาน (แต่น้อยกว่าไฟเบอร์กลาส)  กันปลวก ไม่ลามไฟ กันแรงกระแทกได้ดี สามารถแช่น้ำได้ 100 % ในระยะเวลานานกว่า 30 วัน  สามารถใช้งานได้ดีทุกส่วนของบ้านทั้งภายในและภายนอก

ข้อดีของประตูไม้ WPC

  1. ปลวกไม่ขึ้น หมดปัญหาเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปลวก
  2. วัสดุไม่ไวไฟ ลดความเสี่ยงปัญหาอัคคีภัย
  3. มีความแข็งแรงทนทาน
  4. ทนความชื้นได้ดีไม่บวมเมื่อโดนน้ำ

ข้อเสียของประตูไม้ WPC

  1. การดัดแปลงปรับใช้ในส่วนอื่นทำได้ยาก เนื่องจากรูปแบบของประตูที่ขึ้นรูปมาโดยเฉพาะ ทำให้ไม่สามารถปรับแต่งได้

3. ประตูไม้อัด หรือ ประตูไม้ MDF (Medium Density Fiber)

ประตูไม้อัด หรือ ประตูไม้ MDF

ประตูไม้อัดหรือประตูไม้ MDF เป็นบานประตูที่เหมาะกับงานภายในอาคารเนื่องจากมีความแข็งแรงน้อย ไม่ทนต่อสภาพความชื้นและแสงแดด ไม่สามารถใช้ในส่วนที่โดนน้ำได้โดยเฉพาะภายในห้องน้ำ หรือส่วนที่จะโดนฝนโดนแดดตลอด ข้อดีคือราคาถูก น้ำหนักเบา มีขนาดมาตรฐานให้เลือกหลากหลาย แต่ไม่ค่อยแข็งแรงผุง่าย ไม่ทนความชื้นและแสงแดด

4. ประตูไม้ HDF (High Density Fiber)

ประตูไม้ HDF

ประตูไม้  HDF (High Density Fiber) ซึ่งบานชนิดนี้กำลังเป็นที่นิยมมากสำหรับบ้านยุคใหม่ เพราะคุณภาพดีกว่าประตูไม้อัด MDF ไม่มีปัญหาเรื่องปลวก มอด แมลง ทนความชื้นได้ดี แต่ความแข็งแรงของประตูยังสู้ไม้จริงไม่ได้ ลักษณะของประตูโครงสร้างภายในจะเป็นไม้ประกบแผ่น Particle Board ที่นำไม้ชิ้นขนาดเล็ก มาอัดเป็นแผ่นด้วยความร้อนและกาวประสานอินทรีย์

ส่วนภายนอกนำแผ่นใยไม้มาผสมเรซินแล้วอัดขึ้นรูปด้วยแรงดันสูง จึงทำให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับประตูไม้อัดแต่คงทนกว่า ไม่ยืดหด บิดงอ สามารถทำลวดลายให้ใกล้เคียงกับไม้จริงได้ เหมาะกับงานติดตั้งภายในมากกว่าภายนอก แต่ถึงคุณสมบัติของประตูไม้ HDF จะทนต่อความชื้น

แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำและใช้งานที่ต้องโดนแสงแดดโดยตรง ใช้ร่วมกับห้องน้ำได้ แต่ต้องเป็นห้องน้ำที่มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน และระบายอากาศได้ดี

ข้อดีของประตูไม้ HDF

  1. ปลวกไม่ขึ้นไม้
  2. ทนความชื้นได้ในระดับหนึ่ง สามารถนำไปเป็นประตูห้องน้ำได้
  3. ราคาไม่แพง
  4. ลวดลายไม้คล้ายกับไม้จริง
  5. มีหลายสีให้เลือกใช้งาน
  6. เป็นวัสดุที่ไม่พองตัว โก่ง บิด งอ มีความคงทนกว่าประตูไม้อัด

ข้อเสียของประตูไม้ HDF

  1. แม้จะทนความชื่นได้ แต่ไม่ควรนำไปถูกฝนและแดดโดยตรงเพราะจะทำให้เสื่อมสภาพเร็ว

5. ประตูไม้เอนจิเนียร์

ประตูไม้เอนจิเนียร์

คือประตูที่ทำมาจากการขึ้นโครงสร้างไม้จริงผสมกับไม้อัดจากนั้นจึงนำไม้วีเนียร์ในการฉาบหน้าประตู โดยไม้วีเนียร์คือเยื่อไม้แผ่นบางๆ นิยมนำมาใช้เพื่อสร้างความสวยงาม ซึ่งการผสมระหว่างไม้จริง ไม้อัดและไม้วีเนียร์ ทำให้ประตูไม้เอนจิเนียร์ มีความแข็งแรงและสวยงามในคร่าวเดียวกัน

ข้อดีของประตูไม้เอนจิเนียร์

  1. มีความแข็งแรงเทียบเท่าไม้จริง
  2. มีลวดลายสวยงามเฉพาะ เนื่องจากไม้วีเนียร์ทำมาจากท่อนซุง ทำให้ลวดลายและผิวสัมผัสคล้ายกับไม้จริง

ข้อเสียของประตูไม้เอนจิเนียร์

  1. มีความยืดหดตัวเมื่อโดนความชื้น เช่นเดียวกันกับไม้จริง

6. ประตูพีวีซี (PVC)

ประตูพีวีซี

PVC หรือ Polyvinyl Chloride เป็นวัสดุประเภทพลาสติก เมื่อนำมาทำประตูหน้าต่างจะเสริมโครงเหล็กหรืออลูมิเนียมด้านใน เป็นประตูที่ทำมาจาก PVC จะเติมสารชนิดอื่นๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้ดีขึ้น สามารถนำไปขึ้นรูปประตูโดยใช้การรีดขึ้นรูปตามแบบ โดยปกติจะมีความหนาของโครงสร้างของประตูอยู่ที่ประมาณ 0.5 -1 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างบางจึงต้องเสริมขอบโดยรอบบานด้วยคิ้ว PVC ทำให้ขอบของประตูมีสันไม่เรียบเนียน

ถ้าดูที่คุณสมบัติของประตู PVC ด้วยความที่เป็นวัสดุพลาสติกจึงทำให้ทนความชื้นได้ดี ปลวกไม่กิน น้ำหนักเบา จึงทำให้เหมาะสำหรับติดตั้งเป็นประตูห้องน้ำ ห้องครัว แต่ก็มีข้อที่ต้องระวังในการใช้งานเนื่องจากเป็นวัสดุที่ไม่ค่อยแข็งแรง บางกรอบ และแตกหักได้ง่ายและไม่ทนแรงกระแทก อายุการใช้งานจึงสั้นกว่าประตูชนิดอื่น

ประตู PVC จึงเหมาะกับการใช้งานชั่วคราว หรืองานที่ไม่ต้องการความแข็งแรงทนทานมากนัก ไม่เหมาะสำหรับติดภายนอกอาคาร บริเวณที่แสงแดดส่องถึงเพราะวัสดุจะเสื่อมสภาพเร็ว แต่ก็มีข้อดีอีกอย่างคือสามารถทำความสะอาดง่าย ติดตั้งง่าย และมีราคาถูกกว่าประตูชนิดอื่นๆ จึงนิยมนำมาใช้เป็นประตูทางออกด้านหลังบ้าน, ลานซักล้าง ประตูห้องน้ำในสวน

ข้อดีของประตูพีวีซี

  1. มีน้ำหนักเบา
  2. ทนทานต่อความชื้นได้ดี

ข้อเสียของประตูพีวีซี

  1. ไม่แข็งแรง เปราะบาง แตกหักง่าย
  2. ไม่ทนต่อความร้อน หากได้รับแดดในปริมาณที่มากจะทำให้ประตูกรอบ

7. ประตูยูพีวีซี (uPVC)

ประตูยูพีวีซี

อัพเกรดจากประตู PVC มาอีก นั่นคือ ประตูยูพีวีซี (uPVC) หรือ ไวนิล(Vinyl) ผลิตจากโพลีเมอร์ ผ่านกระบวนการอัดรีดด้วยความร้อนสูงเป็นแผ่นเรียบอัดฟิล์มแล้วปั้มขึ้นรูปตามแบบ ประตูหน้าต่าง UPVC              (Unplasticized Poly Vinyl Chloride) UPVC เป็นวัสดุสังเคราะห์ชนิดหนึ่งได้จากกระบวนการผลิตปิโตรเคมีภัณฑ์ เป็นโพลิเมอร์พื้นฐานที่มีคุณสมบัติพิเศษกว่าโพลิเมอร์หรือพลาสติกทั่วไป

ประตูหน้าต่าง UPVC จะมีโครงสร้างภายในเป็นเหล็กเคลือบกันสนิม ห้อหุ้มด้วยวัสดุไวนิล หรือ UPVC สามารถออกแบบและผลิตได้หลากหลายรูปแบบ คุณสมบัติของ uPVC  คือ เป็นวัสดุที่ไม่ลามไฟ เป็นฉนวนกันไฟฟ้าได้ดี ทนทานต่อสภาพอากาศทั้งร้อน หนาว ฝน หรือไอเค็มจากทะเล ตัววัสดุไม่หดหรือขยาย ทนต่อแรงกระแทก สามารถกันน้ำได้ 100 % กันปลวกและแมลง กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี มีสีในเนื้อวัสดุ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสีขาว ผิวเป็นเงาแต่ทาสีทับไม่ได้

มักใช้เป็นประตูห้องน้ำหรือประตูภายนอกบ้าน มีความคงทน อายุการใช้งานนาน ป้องการรั่วซึมได้ดี และเนื่องจากเป็นบานที่ออกแบบมาจากโรงงานจึงมีความแนบสนิทพอดีไม่มีช่องว่าง กันฝุ่นละอองได้ เนื้อวัสดุไม่หดหรือขยายตัว ทนต่อความร้อนและแสงแดดได้ดี เป็นฉนวนกันความร้อนหรือความเย็น สามารถป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ สามารถติดมุ้งลวดได้ ทำความสะอาดได้ง่าย

จึงเหมาะกับการใช้งานภายใน และประตูภายนอกที่มีร่มบัง เช่น ประตูห้องน้ำ, ห้องครัว ประตูที่เปิดเชื่อมไปโรงรถ หรือประตูออกนอกระเบียง ไม่แนะนำให้ใช้งานภายนอกเต็มที่แบบไม่มีหลังคาบัง

แต่การติดตั้งประตู UPVC จะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ เพราะการแก้ไขงานที่ผิดพลาดจะยากกว่าอลูมิเนียม ส่วนการดูแลรักษา หากมีรอยขูดขีด อลูมิเนียมจะเก็บงานง่ายกว่า UPVC อีกทั้งกรอบบานของ UPVC จะมีขนาดใหญ่กว่ากรอบบานอลูมิเนียม ซึ่งถ้าต้องการให้หน้าต่างมีมุมมองที่กว้างมากขึ้น กรอบบาน UPVC อาจจะกินพื้นที่ไปบ้าง

ข้อดีของประตูยูพีวีซี

  1. เก็บเสียง สามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอก
  2. ไม่เป็นวัสดุไวไฟ
  3. ทนต่อสภาพอากาศ กันน้ำและความชื้นได้ดี

ข้อเสียของประตูยูพีวีซี

  1. ไม่ทนต่อแรงกระแทก เปราะบาง แตกหักง่าย
  2. ไม่ดูดซึบสี ทำให้ทาสีตกแต่งได้ยาก

8. ประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์

ประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์

ประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement ) ทำมาจากแผ่นซีเมนต์บอร์ดผสมกับเยื่อของต้นไม้และทรายซิลิกา โดยแผ่นซีเมนต์บอดร์ดมีคุณสมบัติกันความชื้น ทำให้ประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ทนทานต่อความชื้น แต่ด้วยความหนาแน่นของแผ่นซีเมนต์ที่ต่ำทำให้ประตูแตกหักง่ายหากได้รับแรงกระแทกจำนวนมาก

ข้อดีของประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์

  1. มีความยืดหยุ่น
  2. ทนทานความชื้นได้ดี ไม่ยืดหดตัวเมื่อได้รับความชื้น

ข้อเสียของประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์

  1. ไม่ทนต่อแรงกระแทก แตกหักง่าย

9. ประตูไฟเบอร์กลาส (Fiberglass)

ประตูไฟเบอร์กลาส

ประตูชนิดนี้ผลิตจากโพลีเอสเตอร์เรซิ่นเสริมใยแก้วมาหล่อขึ้นรูป ทำให้มีความแข็งแรงของวัสดุมากขึ้น ป้องกันการกระแทกได้ดี เป็นฉนวนป้องกันความร้อนได้ สามารถปรับไสและย้อมสีได้เสมือนไม้จริง โครงสร้างภายในตัวบานมักจะมีส่วนประกอบของ PS Foam และ PU injection foam ป้องกันเสียงและอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี บานไม่ยืดขยายตัว ไม่หด ไม่บิดงอตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

รูปแบบมีให้เลือกทั้งบานทึบ บานช่องเกล็ด บานลูกฟัก ใส่คู่กับกระจกได้ กันปลวก ทนแดด กันน้ำได้ 100 % ไม่เปื่อยยุ่ยแม้แช่น้ำเป็นเวลานาน จึงใช้กับห้องน้ำได้  เหมาะสำหรับใช้ภายนอกมากที่สุด

 

10. ประตูกระจก

ประตูกระจก pantip

นิยมใช้ในจุดที่ต้องการให้บ้านมีความโปร่งตาน่ามอง ไม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นประตูติดกระจกเทมเปอร์ และกระจกลามิเนตที่มีความแข็งแรง ทนทาน แตกหักยาก มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก อาทิ ประตู Fiberglass ประตูกระจกนิรภัย ประตูบานกระจกมีลวดลายแบบซีลค์สกรีน บานกระจกสแตนกลาส กระจกใสบานเปลือย และประตูกระจกบานเลื่อน

ซึ่งมักใช้ในงานภายในสำหรับกั้นแบ่งระหว่างห้อง  ตู้ ห้องน้ำ หรือบ้านที่มีพื้นที่น้อย ๆ ต้องการพรางตาให้ดูกว้างขึ้น ใช้ได้ทั้งงานภายนอกและภายใน ส่วนประตูนอกบ้าน นิยมใช้กระจกบานเลื่อนเชื่อมต่อกับโซนสวน ไม่นิยมใช้ร่วมกับประตูหลัก

11. ประตูเหล็ก (Steel)

ประตูเหล็ก

เหมาะกับการใช้งานภายนอก บริเวณประตูหน้าบ้าน หลังบ้าน ระเบียง ดาดฟ้าที่ต้องการความแข็งแรงและปกป้องบ้านเพื่อปลอดภัยเป็นหลัก การเลือกใช้ประตูเหล็กก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะเหล็กเป็นวัสดุที่สามารถกันไฟได้ดี เหล็กกล้ามีความแข็งแรงทนทานยากต่อการงัดแงะ

แต่ก็ต้องมีการเคลือบป้องกันสนิมมาเป็นอย่างดี เพราะหากอยู่ในจุดที่ต้องพบความชื้นสูงอาจจะเกิดสนิมได้ ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายแบรนด์ ผลิตประตูเหล็กสำหรับประตูหน้าบ้าน ให้ความสวยงาม หรูหราทันสมัยและปลอดภัยกว่าประตูชนิดอื่น ๆ

12. ประตูหน้าต่างอลูมิเนียม (Aluminum)

ประตูหน้าต่างอลูมิเนียม

ประตูหน้าต่างอลูมิเนียมเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาที่ค่อนหลากหลายมีทั้งราคาไม่แพงไปจนถึงเกรดคุณภาพดีๆราคาแพงให้เลือกใช้ อะลูมิเนียมที่ใช้ทำประตูหน้าต่างมี 2 ประเภท คือ อลูมิเนียมชุบสีด้วยไฟฟ้า (Anodizing) มี 3 สีหลักๆคือ สีชาอ่อน สีชาเข้ม และสีดำ อีกประเภทคือ อลูมิเนียมพ่นอบสี (Powder Coating) เป็นการพ่นและอบผงสีเคลือบบนพื้นผิว ทำสีได้หลายเฉด ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าและราคาสูงกว่าประเภทแรก

แต่ว่าอลูมิเนียมเป็นโลหะที่ไม่แกร่ง จึงบุบจากการกระแทกและมีรอยขูดขีดได้เช่นกัน โดยปกติแล้วควรเลือกใช้อลูมิเนียมความหนาไม่น้อยกว่า 1.2 มิลลิเมตร ในการใช้งาน

ข้อดีของประตูอลูมิเนียม

  1. มีน้ำหนักเบา
  2. ทนทานต่อสภาพอากาศ
  3. ดูแลรักษาง่าย เพียงแค่ชัดทำความสะอาดกระจก
  4. สามารถปรับเปลี่ยนประตูได้ตามโครงสร้างบ้าน

ข้อเสียของประตูอลูมิเนียม

  1. แตกหักง่าย เนื่องจากมีกระจกเป็นส่วนประกอบ

 

บริการเสริม บริษัทรับเหมาก่อสร้าง TAMPBUILDER

บริษัทรับเหมาก่อสร้างของเราทำแบบครบวงจร ONE STOP SERVICE

  1. บริการรับสร้างบ้านหรู (สนใจ กด >> รับสร้างบ้านหรู luxury โมเดิร์น)
  2. บริการรับออกแบบบ้าน เขียนแบบบ้านยื่นขออนุญาต (สนใจ กด >> รับออกแบบบ้าน รับเขียนแบบบ้าน)
  3. บริการหาผู้รับเหมา หาช่างรับเหมา (สนใจ กด >> หาผู้รับเหมา หาช่างรับเหมา)
  4. บริการรับทำBOQ รับถอดแบบและประมาณราคา (สนใจ กด >> รับทำBOQ รับถอดแบบและประมาณราคา)

 

 

การแบ่งประตูตามลักษณะวิธีการใช้งาน

การแบ่งประตูตามลักษณะวิธีการใช้งาน แบ่งออกเป็น 6 ประเภท คือ

1. ประตูบานสวิง

ประตูบานสวิง

ประตูบานสวิง ลักษณะคล้ายกับประตูบานเปิด แตกต่างที่ประตูบานสวิงสามารถผลักเข้า-ออกได้ 2 ทาง ซึ่งส่วนใหญ่กรอบของประตูบานสวิงจะนิยมทำจากอะลูมิเนียม ซึ่งบริเวณกรอบทั้งด้านบนและด้านล่างจะมีแกนเดือยยึดติดอยู่กับพื้น วงกบ หรือบานประตูด้วย ส่วนการใช้งานเหมาะกับพื้นที่ที่มีคนเข้า-ออกบ่อย ๆ เช่น ประตูหน้าบ้าน หรือสถานที่ต่าง ๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้าและออฟฟิศ เป็นต้น

 

2. ประตูบานเปิด

ประตูบานเปิด

ประตูบานเปิด เป็นประตูที่สามารถเปิดได้แค่เพียงทางเดียว ไม่สามารถผลักออกได้ โดยจะเปิดได้ 90-180 องศา ที่สำคัญคือใช้เนื้อที่บริเวณรอบประตูค่อนข้างเยอะมาก จึงต้องเหลือพื้นที่เว้นว่างไว้สำหรับการเปิด-ปิดพอสมควรด้วย โดยประตูบานเปิดจะมีทั้งแบบบานเดี่ยวและแบบบานคู่ ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ใช้สอย และความกว้างของทางเข้าที่เราต้องการ ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้ภายในบ้านเป็นหลัก เหมาะเป็นทั้งประตูหน้าบ้านหรือประตูห้องต่าง ๆ เช่น ห้องนอนและห้องน้ำ เป็นต้น

 

3. ประตูบานเลื่อน

ประตูบานเลื่อน

ประตูบานเลื่อน เป็นประตูที่ใช้งานด้วยการเลื่อนไปข้าง ๆ โดยจะมีรางติดอยู่ด้านล่าง ด้านบน หรือทั้ง 2 ด้าน เพื่อช่วยให้ประตูเปิด-ปิดได้สะดวกและลื่นไหลได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งประตูบานเลื่อนจะมีทั้งแบบบานเดี่ยว บานคู่ และบานสาม มีข้อดี คือ ไม่เกะกะ ไม่ต้องผลักเข้า-ผลักออก ทำให้ประหยัดพื้นที่

จึงเหมาะกับบ้านหรือห้องที่มีขนาดเล็กและต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะ และส่วนใหญ่ประตูชนิดนี้นิยมทำจากกระจก ทำให้สามารถมองเห็นข้างนอก-ข้างในได้อย่างเต็มที่ มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาได้อย่างดี ทำให้บรรยากาศดูโล่ง โปร่ง และทันสมัย

แต่อย่างไรก็ตาม ประตูประเภทนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกันคือ พื้นที่ทางเดินเข้า-ออกจะค่อนข้างแคบ และมักจะมีฝุ่นสะสมในรางเลื่อนต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ ส่วนการใช้งานจะนิยมทำเป็นประตูทางเข้าหน้าบ้าน หรือประตูกั้นห้องต่าง ๆ

 

4. ประตูบานเฟี้ยม

ประตูบานเฟี้ยม

ประตูบานเฟี้ยมหรือประตูบานพับ เป็นประตูบานเล็ก ๆ ที่นำมาต่อกันจนเป็นประตูบานใหญ่ เปิด-ปิดโดยการพับซิกแซกสลับกันไป-มา ไปรวมไว้ที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของประตู หรือแยกออกเป็น 2 ฝั่ง

โดยที่บริเวณประตูแต่ละบานจะมีเดือยติดอยู่ทั้งด้านบนและด้านล่างเพื่อเชื่อมต่อกัน ทำจากหลากหลายวัสดุขึ้นอยู่กับความชอบ มีทั้งไม้ เหล็ก และกระจก ข้อดีของประตูแบบนี้ก็คือสามารถเปิดได้กว้าง ไม่กินพื้นที่ แถมยังสวยงามและมีสไตล์ จึงได้รับความนิยมในการตกแต่งมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ใช้เป็นประตูหน้าบ้านหรือกั้นห้องก็ได้

การนำไปใช้

ประตูบานเฟี้ยมนิยมใช้แพร่หลาย เนื่องจากสามารถประยุกต์ได้หลากหลาย ดังนี้

  1. ห้องที่ต้องการเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่น เช่น ห้องนั่งเล่นกับสวนภายนอก
  2. ห้องอเนกประสงค์ที่มีขนาดใหญ่สามารถแบ่งเป็นห้องขนาดเล็กด้วยการใช้ประตูบานเฟี๊ยมกั้นแบ่งเป็นห้องต่างๆ
  3. ห้องขนาดเล็กสามารถกลายเป็นห้องใหญ่ด้วยการเปิดประตูบานเฟี๊ยมเชื่อมต่อกับห้องอื่น

5. ประตูบานหมุน

ประตูบานหมุน

ประตูบานหมุน เป็นประตูที่มีจุดหมุนอยู่ตรงกลางบาน มีทั้งแบบบานเดียวไปจนถึงแบบ 4 บาน มีจุดเด่นก็คือ สามารถตั้งให้หมุนรอบได้ 360 องศา ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ตกแต่งในบ้านขนาดใหญ่ มีพื้นที่เยอะ นอกจากนี้ยังนิยมใช้ตกแต่งในอาคาร ออฟฟิศ โรงพยาบาล หรือสถานที่สาธารณะอื่น ๆ อีกด้วย

การนำไปใช้

ด้วยวิธีการเปิดแบบเปิดค้าง 90 องศาและเหลือช่องประตูเพียงครึ่งเดียวของประตูบานหมุน จึงมีการออกแบบขนาดบานที่หลากหลาย ทำให้ดูสวย มีเสน่ห์ เหมาะสำหรับกั้นแบ่งพื้นที่ภายในบ้านและเชื่อมต่อระหว่างสองพื้นที่ ประตูบานหมุนไม่นิยมใช้เป็นประตูหลัก

6. ประตูม้วนหรือประตูชัตเตอร์

ประตูม้วนหรือประตูชัตเตอร์

ประตูม้วนหรือประตูชัตเตอร์ เป็นประตูที่ใช้งานด้วยการเลื่อนเปิดขึ้นไปด้านบน ส่วนใหญ่แล้วจะทำจากเหล็กเคลือบกัลวาไนซ์ มีทั้งแบบทึบ แบบโล่ง และแบบทั้งทึบทั้งโล่งในบ้านเดียวกัน โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นประตูหน้าบ้านตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ต่าง ๆ นั่นเอง

 

เทคนิคการเลือกประตูบ้านให้ตรงตามห้อง

1. ตำแหน่งการใช้งาน ภายนอกหรือภายในบ้าน

ประตูบ้านหน้าบ้าน

สำหรับการเลือกซื้อประตูต้องสำรวจความต้องการก่อนว่าต้องการใช้ประตูบริเวณภายนอกหรือภายในบ้าน หลังจากทราบความต้องการแล้วจึงนำคุณสมบัติของประตูละประเภทมาเปรียบเทียบกัน ยกตัวอย่างเช่น

ถ้าหากเป็นประตูภายนอก ควรพิจารณาจากคุณสมบัติเรื่องการทนทานต่อความชื้น ทนทานต่อแสงแดดและความแข็งแรง ดังนั้นจึงไม่ควรเลือกใช้ประตูที่ทนความชื้นได้น้อย อย่าง ประตู UPVC แต่ควรใช้ประตูที่ทนทานต่อสภาพอากาศอย่างประตู WPC

ส่วนประตูภายในบ้าน สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือความสวยงามและความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น หากต้องการประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน ประตูที่ควรเลือกใช้ควรเป็นประตูบานเลื่อน หรือต้องการเปิดพื้นที่ในบ้านเชื่อมติดต่อกัน ประตูที่เหมาะกับการใช้งานลักษณะนี้คือ ประตูบานเฟี๊ยมเป็นต้น

2. เลือกจากประเภทของห้อง

2.1 ประตูบ้าน

ประตูบ้านไม้สวยๆ

คือประตูที่เชื่อมจากภายนอก เช่น โรงจอดรถ สวน เข้าสู่ภายในบ้าน สำหรับประตูบ้านถือว่าเป็นหน้าตาของบ้าน ดังนั้นการเลือกประตูบ้านจึงต้องคำนึงถึงความสวยงามเป็นหลัก

แต่ทั้งนี้นอกจากความสวยงามแล้ว การเลือกประตูบ้านควรคำนึงถึงตำแหน่ง เนื่องจากประตูบ้านเป็นประตูที่ต้องรับกับสภาพอากาศทั้งแดดและฝนอยู่เสมอ หากบ้านไหนไม่ได้ติดตั้งระแนงไม้เพื่อลดแดด ก็ควรเลือกประตูที่ทนทานต่อสภาพอากาศเช่น ประตูไม้จริงหรือประตูWPC เป็นต้น

2.2 ประตูห้องนั่งเล่น

ประตูบ้าน โมเดิร์น pantip

สามารถปรับเลือกตามความต้องการของผู้อาศัย เช่น บ้านไหนที่ยังมีเด็กเล็กอยู่ ประตูห้องรับแขกก็ควรเป็นแบบบานเฟี๊ยมหรือประตูบานเลื่อนแบบใส เพื่อเปิดพื้นที่เชื่อมทำให้ผู้ปกครองสามารถสอดส่องดูแลเด็กได้ หรือบ้านไหนที่มีแขกผู้ใหญ่มาเยี่ยมบ่อยครั้ง ประตูสำหรับห้องนั่งก็ควรเป็นประตูแบบปิด เพื่อสร้างบรรยากาศความเป็นส่วนตัว เป็นต้น

2.3 ประตูห้องน้ำ

ประตูบ้าน ราคา

ควรนึกถึงการใช้งานเป็นหลักมากกว่าความสวยงาม เนื่องจากห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่ต้องถูกความชื้นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ประตูนั้นเสื่อมสภาพได้ง่าย จึงควรเลือกประตูที่เหมาะกับห้องน้ำเช่น ประตู UPVC หรือประตู PVC เนื่องจากประตูเหล่านี้มีคุณสมบัติกันความชื้นได้ดี ทำให้ลดปัญหาการซ่อมแซมประตูห้องน้ำ

2.4 ประตูห้องนอน

ประตูบ้าน บานเลื่อน pantip

ควรเลือกประตูที่มีอายุการใช้งานในระยะยาวและต้องมีความแข็งแรงเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้นอน ดังนั้นจึงควรเลือกประตูที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานเป็นหลัก เช่น ประตูไม้จริงหรือประตู WPC โดยในส่วนประตูไม้จริงจะมีความสวยงามและแข็งแรง แต่มีข้อเสียคือไม่ทนต่อความชื้น ส่วนประตู WPC ถึงแม้จะแข็งแรงไม่เท่าไม่จริง แต่ทนทานต่อความชื้น ไม่ยืดหดตัว เหมาะกับการใช้งานระยะยาว

3. เลือกจากวัตถุประสงค์การใช้งาน

3.1 เลือกจากความสวยงาม

ประตูบ้าน มินิมอล

ควรเลือกประตูไม้จริง เนื่องจากมีลวดลายที่เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร แต่ด้วยไม้จริงมีราคาที่สูง หากใครที่อยากได้ความสวยงามจากลายไม้ การเลือกใช้ประตูไม้ WPC ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่นอกจากลายไม้แล้ว รูปทรงของประตูก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น การเลือกใช้ประตูบานเลื่อนสไตล์ญี่ปุ่น ก็เป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามได้เช่นเดียวกัน

3.2 เลือกจากความต้องการประหยัดพื้นที่

ประตูบ้าน ภายนอก

สำหรับบ้านไหนที่มีพื้นที่ไม่มาก การเลือกใช้ประตูควรคำนึงถึงรูปแบบการเปิดปิดประตูให้ประหยัดพื้นที่มากที่สุด โดยต้องคำนวนถึงลักษณะการใช้งานของพื้นที่ประกอบด้วย เช่น หากต้องการใช้งานพื้นที่บริเวณด้าน หน้าประตู ก็ควรใช้ประตูแบบบานเลื่อน ซึ่งใช้พื้นที่ด้านข้างผนัง ทำให้มีพื้นที่เหลือบริเวณด้านหน้าประตู เป็นต้น

3.3 เลือกจากความปลอดภัย

รีโมท ประตูบ้าน

ความปลอดภัยคือหนึ่งในหน้าที่ของประตูบ้าน ขั้นแรกควรพิจารณาจากความหนาแน่นและความแข็งแรงของประตู โดยประตูที่มีความแข็งแรง เช่น ประตูไม้จริง ประตูไม้ WPC และประตูไม้เอนจิเนียร์ นอกจากความแข็งแรงแล้ว ความปลอดภัยสามารถเพิ่มได้จากการติดตั้งกลอนประตูแบบดิจิตอล ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยจากการตั้งรหัสผ่าน ทำให้คนที่เข้าห้องได้มีเฉพาะคนที่รู้รหัสผ่านเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม 3 เทคนิคเลือกประตูบ้านให้ตรงตามห้อง หมดปัญหาตามมาทีหลัง

 

ฮวงจุ้ยประตูหน้าบ้าน

ประตูหน้าบ้านคือปากของบ้าน

สำหรับการจัดฮวงจุ้ยในเชิงวิทยาศาสตร์นั้นเราให้ความสำคัญกับการเหนี่นวนำเอากระแสพลังงานจากธรรมชาติให้เข้ามาสู่บ้านของเราให้ได้มากที่สุดหากบ้านของเรานั้นสามารถหันหาองศาทิศทางที่ดีเมื่อเทียบกับพลังงานจากแนวกระแสแม่เหล็กโลก

ดังนั้นเงื่อนไขแรกก่อนที่เราจะพูดถึงการหาองศาทิศทางที่ดีนั้นเราจำเป็นต้องบริหารให้พลังงานจากธรรมชาติสามารถผ่านเข้าหน้ามาที่หน้าประตู บ้าน สำนักงาน โรงงาน หรือ ร้านค้า ของเราให้ได้เสียก่อน เพราะหากเราไม่สามารถบริหารให้พลังงานผ่านเข้ามาที่หน้าประตูของเราได้ เราก็ไม่มีความจำเป็นต้องรู้ว่าที่พักอาศัยของเราอยู่ในองศาทิศทางที่ดี รับพลังงานที่ถูกยุค ถูกสมัย หรือไม่

อยากให้คิดภาพของตัวเราเองว่าหากแม้เราจะอยู่ใกล้โต๊ะอาหารที่มีอาหารหลากหลายชนิดและมีสารอาหารที่ดีเพียงใดหากเราไม่มี “ปาก” แล้ว เราจะไม่สามารถกินอาหารนั้นเข้าไปได้เลย หรือแม้ว่าหากเรามีสิ่งกีดขวางปากของเราอยู่ เราก็จะรับประทานอาหารได้ไม่สะดวกสักเท่าไร

ดังนั้น “ประตูหน้าบ้าน” จึงเปรียบเสมือนเป็นปากของบ้านหากเรามีประตูหน้าบ้านที่ถูกต้องตามหลักทางชัยภูมิของศาสตร์ฮวงจุ้ยก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะได้รับหรือเหนี่ยวนำพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ได้มาก โดยลักษณะของประตูหน้าบ้านที่ดีนั้นควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

1. ประตูหน้าบ้านควรจะเป็นบานช่องเปิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน

ฮวงจุ้ยประตูบ้าน

เพื่อให้สามารถเปิดรับพลังงานธรรมชาติได้มากที่สุด และเพื่อนำไปใช้เป็นบานหลักในการหาทิศหลังพิง(Sitting Direction) ซึ่งจะเป็นทิศทางสำคัญในการคำนวณรูปแบบของพลังงานของศาสตร์อวงจุ้ยในชั้นสูงต่อไป

2. ประตูหน้าบ้านควรจะเป็นบานประตูที่เราใช้งานจริงๆ

รูป ประตูบ้าน

เนื่องจากในบางบ้านจะมีการใช้งานประตูจากโรงจอดรถเป็นหลัก จึงทำให้สภาพความเป็น “หยาง” ของประตูหน้าบ้านลดลง และหากเรามีความรู้ในขั้นสูง เมื่อซินแสสามารถออกแบบรูปแบบการเหนี่ยวนำของพลังงาน ให้พลังงานโชคลาภประจำยุคสามารถเข้ามาที่ประตูหน้าบ้านได้ หากเราใช้ประตูหน้าบ้านเป็นประจำ ก็จะทำให้เราได้รับพลังงานรูปแบบดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งของความเจริญรุ่งเรืองได้เช่นเดียวกัน

3. ประตูหน้าบ้านไม่ควรมีสิ่งกีดขวางใดๆ

ข้อห้าม ประตูบ้าน

โดยเมื่อเรายืนอยู่บริเวณหน้าประตูบ้านของเราแล้ว ในระยะ 10 เมตรนั้นไม่ควรมีสิ่งกีดขวางใดๆ เพราะสิ่งกีดขวางดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้, พุ่มไม้, หลังคา, กันสาด, เสาไฟฟ้า, ที่นั่งบริเวณชานหน้าบ้าน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งกีดขวางกระแสอากาศไม่ให้เข้ามาที่ปากประตูบ้านได้อย่างทั่วถึง

4. ประตูหน้าบ้านควรได้รับแสงสว่างอย่างสม่ำเสมอ

ประตูบ้าน โมเดิร์น บานคู่

เพราะเมื่อเราพูดถึงพลังงานของธรรมชาติ เรามักนึกถึงแต่พลังงานจากลม แท้จริงแล้วพลังงานที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันนั้นได้แก่พลังงานแสงสว่าง โดยเฉพาะแสงจากดวงอาทิตย์ เนื่องจากหากโลกเราไม่ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์แล้วก็จะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่สามารถมีชีวิตบนโลกได้ ดังนั้นบ้านที่ชอบปลูกต้นไม้หรือทำกันสาดยื่นมาบังแสงสว่างจนไม่สามารถเข้ามาที่ประตูหน้าบ้านได้เลย ก็จะเป็นที่มาของบ้านที่ได้รับพลังงานที่สำคัญในการดำรงชีวิตได้น้อยลง

5. เมื่อยืนที่ปากประตูบ้านต้องสามารถสัมผัสถึงพลังงานที่อยู่รอบๆได้

ซุ้ม ประตูบ้าน โมเดิร์น

พลังงานจากกระแสอากาศหรือลมธรรมชาติที่พัดผ่าน, พลังงานจากกระแสอากาศที่ยานพาหนะหรือคนลากผ่าน หรืออย่างน้อยที่สุดคือพลังงานกระแสอากาศเทียม เช่นน้ำพุ หรือ พัดลม

การปรับเปลี่ยนประตูบ้านเพื่อให้สามารถเหนี่ยวนำกระแสพลังงานจากธรรมชาติได้นั้นถือว่าเป็นหัวใจที่สำคัญมากของศาสตร์ฮวงจุ้ยในเชิงชัยภูมิ (Landform Feng Shui) ซึ่งลักษณะต่างๆที่ได้กล่าวไปนั้น ถือเป็นหลักการใหญ่ๆเท่านั้น รายละเอียดในเชิงลึกขึ้นไปเพื่อที่จะทำให้ประตูหน้าบ้านของท่านสามารถเหนี่ยวนำกระแสพลังงานประจำยุค ซึ่งจะเป็นที่มาของโชคลาภ, สุขภาพ และ ความสัมพันธ์ที่ดีนั้น มีต้องอาศัยประสบการณ์ของซินแสผนวกกับการคำนวณพลังงานในด้านองศาทิศทาง (Compass Feng Shui) ในชั้นสูงต่อไปด้วย

อ่านเพิ่มเติม ฮวงจุ้ยบ้าน

งานบริการยอดนิยมจาก บริษัทTAMPBUILDER ออกแบบ เขียนแบบ ถอดแบบ รับเหมาก่อสร้างบ้านและอาคาร ครบวงจร

หาผู้รับเหมา หาช่างก่อสร้าง รับออกแบบบ้าน รับเขียนแบบบ้าน รับทำ BOQ ถอดแบบประมาณราคา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!