รูปแบบของบรรจุภัณฑ์กระดาษ
กระดาษมีหลายชนิด ผลิตมาจากเยื่อกระดาษที่มีคุณภาพแตกต่างกันตามความเหนียว ความทนทาน ต่อการฉีกขาด ดึงขาด ดันทะลุสามารถตัด ดัด พับ งอ ได้ง่าย สามารถออกแบบได้มากแบบ เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ มีราคาถูกที่สุดและน้าหนักเบาที่สุด โดยทั่วไปกระดาษจะยอมให้น้าและก๊าซซึมผ่านได้ดีไม่สามารถป้องกัน ความชื้น เสียความแข็งแรงเมื่อถูกน้าหรืออยู่ในสภาวะที่เปียกชื นมีความคงรูป พิมพ์ได้งดงาม และสามารถใช้ หมุนเวียน (Recycle) ได้จึงไม่ก่อปัญหามลภาวะสามารถท้าเป็นหีบห่อได้มากมาย ตั้งแต่ถุงชนิดต่าง ๆ กล่องกระดาษ ฯลฯ ซึ่งแต่ละชนิดมีความเหมาะสมกับการใช้งานแตกต่างกันออกไปตามลักษณะของสินค้าและสิ่ง แวดล้อม ดังนั้นคุณสมบัติของกระดาษที่ท้าจากเยื่อไม้ธรรมดาจึงได้รับการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพขึ้น โดยการ ผนึกหรือเคลือบเข้ากับวัสดุอื่น ๆ เพื่อให้สร้างสรรค์เป็นโครงสร้างใหม่ของบรรจุภัณฑ์และท้าหน้าที่บรรจุห่อ หุ้มผลิตภัณฑ์ได้หลายประเภท
1.ซองกระดาษ (paper envelope) ใช้บรรจุสินค้า เช่น ใบเลื่อย หัวสว่าน ยาเม็ด และเมล็ดพืช การเลือกใช้ขนาดและชนิดของซอง ขึ้นกับชนิดของสินค้า รูปร่างของสินค้าเป็นหลัก
2. ถุงกระดาษ (Paper Bag) มีทั งแบบแบนราบ แบบมีขยายข้างและก้น และแบบผนึก 4 ด้าน สมบัติของกระดาษที่ใช้ขึ้นกับการใช้งานเป็นหลัก ถ้าสินค้าที่มีน้าหนักมากควรใช้กระดาษเหนียวซึ่งมีค่าของการต้านแรงดันทะลุและการต้านแรงดึงขาดสูง นอกจากนี ยังมีถุงกระดาษหลายชั น (Multiwall Paper Sack) ส้าหรับขนส่งสินค้าที่มีน้าหนักมากกว่า 10 กิโลกรัม สินค้าที่นิยมคือ ปูนซีเมนต์อาหารสัตว์สารเคมีเม็ดพลาสติก โดยส่วนใหญ่นิยมใช้กระดาษคราฟท์ (Kraft) ซึ่งมีความหนาบางน้ามาซ้อนเป็นผนังหลายชั น (Multiwall Bag) หรือเคลือบผิวแตกต่างกันไปตามหน้าที่ใช้สอย
3. เยื่อกระดาษขึ้นรูป (Molded Pulp Container) มีทั งชนิดที่ท้าจากเยื่อบริสุทธิ์ซึ่งใช้บรรจุอาหารส้าเร็จรูปและอาหารที่เข้าตู้อบไมโครเวฟได้และชนิดที่ท้าจากเยื่อเศษกระดาษซึ่งใช้บรรจุไข่ผัก ผลไม้สด และท้าเป็นวัสดุกันกระแทก
4. กระป๋องกระดาษ (Paper Composite Can) เป็นบรรจุภัณฑ์รูปทรงกระบอกที่ได้จากการพันกระดาษทับกันหลาย ๆ ชั้น พันแบบเกลียวหรือแบบแนวตรง ถ้าใช้กระดาษเหนียวแต่เพียงอย่างเดียวจะเรียกว่า Paper Can นิยมใช้บรรจุของแห้ง แต่ถ้าใช้วัสดุร่วมระหว่างกระดาษเหนียว แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ และแผ่นฟิล์มพลาสติกเรียกว่า Composite Can ซึ่งมักบรรจุอาหารประเภทขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ โดยฝากระป๋องมักเป็นโลหะหรือพลาสติก การเลือกใช้ต้องพิจารณาคุณภาพของตะเข็บระหว่างตัวกระป๋องฝาและรอยต่อของการพัน เพื่อป้องกันมิให้เกิดการรั่วซึม
5. ถังกระดาษ (Fiber Drum) มีลักษณะแบบเดียวกับกระป๋องกระดาษ แต่มีขนาดใหญ่ ใช้ในการขนส่งเป็นหลักซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วใช้บรรจุสารเคมี
6. กล่องกระดาษแข็ง (Paperboard Box) เป็นบรรจุภัณฑ์ขายปลีกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก กระดาษแข็งมีหลายชนิด เช่น กระดาษขาวไม่เคลือบ เป็นกระดาษที่เนื อหยาบ น้ามาใช้เป็นกล่องรองเท้าหรือกล่องภายนอกของขนมที่น้าไปห่อด้วยพลาสติกอีกชั นหนึ่ง เป็นต้น อีกทั งยังมีกระดาษการ์ด และกระดาษอาร์ตมัน เป็นต้น นอกจากนี มีการเคลือบวัสดุอื่น เช่น วานิช หรือพลาสติก เพื่อปรับสมบัติของกระดาษให้ดีขึ น เช่นกระดาษเคลือบ ใช้ในการบรรจุสินค้าอุปโภคและบริโภคกันมากเพราะสามารถพิมพ์ได้อย่างสวยงาม และหาซื้อง่าย โดยรูปแบบของกล่องกระดาษแข็งแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
- กล่องแบบพับได้ (Folding Carton) หรือ (Cardboard)
- กล่องแบบคงรูป (Set-Up Box)
7. กล่องกระดาษลูกฟูก (Corrugated Box) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้ในการขนส่ง และมีปริมาณการใช้สูงสุด เนื่องจากเป็นกล่องที่มีน้าหนักเบา มีความแข็งแรง อีกทั งยังสามารถพิมพ์ข้อความหรือรูปต่างๆได้เพื่อดึงดูดความสนใจ นอกจากนี ยังมีการพัฒนาออกแบบกล่องกระดาษลูกฟูกให้เป็นทั งบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งและชั นวางสินค้า โดยโครงสร้างของกล่องกระดาษลูกฟูกขึ้นกับชนิดของกระดาษคราฟท์ที่น้ามาใช้เป็นส่วนประกอบของกล่องกระดาษลูกฟูก ชนิดของลอน รูปแบบของกล่อง รอยต่อของกล่อง รวมทั้งรูปแบบการปิดฝากล่อง ในการออกแบบกล่องกระดาษลูกฟูกนั้นต้องค้านึงถึงชนิดและน้าหนักของผลิตภัณฑ์ด้วย หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรับน้าหนักได้ด้วยตัวเอง เช่น กระป๋องหรือขวดแก้ว การออกแบบก็จะค้านึงการต้านทานแรงดันทะลุเป็นหลัก ในทางตรงข้ามถ้าหากผลิตภัณฑ์มีน้าเบาบอบบาง การออกแบบก็จะค้านึงถึงการต้านทานแรงกดทับเป็นหลัก