xs
xsm
sm
md
lg

นักจัดสวนมากฝีมือ ‘ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง’ ผู้มาก่อนกาลและก้าวข้ามยุคสมัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


‘ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง’ นักจัดสวนผู้มีสไตล์ เปี่ยมเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ในแวดวงคนรักต้นไม้หรือคนที่ชื่นชอบงานจัดสวน ชื่อชั้นและฝีมือของ ‘ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง’ อยู่ในระดับ ‘ยอดฝีมือ’
เขาเป็นนักจัดสวนมืออาชีพผู้มีสไตล์ เปี่ยมเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยืนหยัดในวงการนักจัดสวนมามากกว่า 2 ทศวรรษ



ผู้จัดการออนไลน์ สัมภาษณ์พิเศษ ‘ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง’ นักจัดสวนมืออาชีพผู้นี้ ที่ล้วนบอกเล่าเรื่องราวเส้นทางความรักที่เขามีต่อต้นไม้และการจัดสวนได้อย่างน่าติดตาม นับแต่จุดเริ่มต้นของความรักในการจัดสวนที่เริ่มขึ้นเมื่อครั้งยังเป็นเด็กชั้นประถมศึกษา ที่สามารถปักชำ ทำสวนหย่อมด้วยตนเองได้อย่างน่าชื่นชม
ก่อนก้าวเข้าสู่แวดวงนักจัดสวน เมื่อรูปถ่ายผลงานสวนของเขาได้รับรางวัล และได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารชื่อดัง ไม่เพียงเท่านั้น จากการสนทนา ทำให้ได้รับรู้ว่า เขาเป็นมากกว่านักจัดสวน แต่ยังสามารถเป็น Decorator ให้ลูกค้าอีกด้วย รวมถึงอีกหลากหลายหัวข้อการพูดคุยเกี่ยวกับเนื้องาน ทัศนคติ วิสัยทัศน์ รวมทั้งการวิเคราะห์มูลค่าตลาดต้นไม้ที่ล้วนน่าสนใจ รวมถึง ‘สไตล์’ ที่ชัดเจน-นำเทรนด์-และก้าวพ้นยุคสมัย



สนทนากันถึงเสน่ห์ของสวนอังกฤษและองค์ประกอบที่สำคัญ ซึ่งสวนสไตล์อังกฤษนี่เองนับเป็นหนึ่งใน ‘ลายเซ็น’ ของเขาที่ลูกค้าจำนวนไม่น้อยจดจำได้
นอกจากนี้ ศิริวิทย์ยังเป็นเจ้าของ Little Tree Cafe ร้านกาแฟในสวนสวย ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และ Whispering Land ที่เน้นวัตถุดิบสดใหม่ปลอดสารพิษ ซึ่งแม้จำต้องปิดมานานนับปี เนื่องด้วยวิกฤติโควิด-19 ทว่า ในส่วนของงานจัดสวนนั้น ศิริวิทย์ย้ำอย่างชัดเจนว่าไร้ผลกระทบใดๆ

ไม่เพียงเท่านั้น เรายังชวนเขาวิเคราะห์กระแส ‘ดารา-คนดัง- Influencer’ แห่ปลูกต้นไม้, วิเคราะห์กลไกตลาด-ต้นไม้ราคาหลักล้าน ทั้งยังทิ้งท้ายการพูดคุยด้วยทัศนคติที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าต่อสังคมโดยรวม

เหล่านี้ คือถ้อยความจาก ‘ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง’ นักจัดสวนผู้มีผลงานที่ก้าวข้ามยุคสมัยและได้รับการยอมรับในเนื้องานมายาวนาน แง่คิดหลากหลายจากชายผู้นี้ที่ถ่ายทอดผ่านบทสนทนาจึงน่ารับฟังไม่น้อย


จุดเริ่มต้นของความรักในการจัดสวน

เริ่มต้นคำถามด้วยการขอให้นักจัดสวนรุ่นเก๋าผู้นี้ ช่วยเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้น ว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ชื่นชอบการจัดสวน


ศิริวิทย์ตอบว่า “จริงๆ แล้วต้องบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เรารักตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าย้อนกลับไปในอดีต เราจะเป็นเด็กที่สนใจเรื่องการจัดสวนมาตั้งแต่เด็กแล้ว จำความได้ว่าตอนเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา เราก็เก็บใบพุ่มจากที่โรงเรียนแล้วเอามาปักชำ ทำสวนหย่อมที่บ้าน เลี้ยงปลาคาร์พด้วย ที่บ้านมีบ่อปลาคาร์พ เราก็ทำสวนหย่อมที่บ้าน ถ้าย้อนกลับไปในวัยเด็ก เราก็เป็นเด็กที่ชอบสวนหย่อม ชอบต้นไม้อยู่แล้ว” ศิริวิทย์ระบุถึงความประทับใจในการจัดสวน ความรักในต้นไม้ที่เริ่มต้นขึ้นนับแต่วัยเด็ก


ก้าวเข้าสู่แวดวงนักจัดสวน


หากถามว่าก้าวเข้าสู่แวดวงนักจัดสวนได้อย่างไร


ศิริวิทย์ตอบว่า
“เป็นความบังเอิญที่เข้ามาอยู่ในแวดวงการจัดสวนได้ เนื่องจากในเวลานั้น หรือเมื่อเกือบ 20-30 ปีที่แล้ว เราก็มีบ้านของเราอยู่แล้ว เราก็แต่งสวนของเราอยู่แล้วตามสไตล์ ตามพื้นที่ที่เรามี เราอยากปลูกอะไรก็ปลูก
กระทั่งต่อมา เมื่อพี่สาวกลับมาจากเมืองนอกแล้วมาเปิดโรงเรียนสอนภาษาเด็กหลังเลิกเรียน แต่เป็นการสอนที่บ้าน จึงต้องปรับโซนทำห้องเรียนเพื่อให้เด็กได้มีที่เรียน ปรับพื้นที่ของบ้านให้มีห้องเรียน มีพื้นที่จัดกิจกรรม
นำเอาต้นไม้มาตกแต่งใหม่ แล้วปรากฏว่า ช่วงนั้นมีโครงการ ‘สวนจัดเอง’ ครั้งที่ 1 ของนิตยสาร ‘บ้านและสวน’
(หมายเหตุ : นิตยสารในเครือบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด มหาชน ) เขาก็ให้ผู้สนใจ ส่งรูปสวนจัดเองไปประกวด ผมเองไม่ได้จัดสวนเพื่อความสนุก เราจัดสวนเพื่อใช้งาน แต่ด้วยความที่นึกสนุกกับการประกวดนี้ แล้วเราก็มีรูปอยู่แล้ว เราก็ส่งไปเล่นๆ ปรากฏว่าส่งไปแล้วได้รางวัล ได้ตีพิมพ์ เมื่อได้ตีพิมพ์แล้ว คนก็เริ่มรู้จัก จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นของงานจัดสวนอย่างจริงจังครับ โครงการสวนจัดเอง ของบ้านและสวนที่ผมส่งภาพไปประกวด ก็ประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว” ศิริวิทย์บอกเล่าความเป็นมาที่ทำให้กลายมาเป็นนักจัดสวนที่มีผลงานเป็นที่ชื่นชมและได้รับการยอมรับอย่างมากในมวลหมู่คนรักสวน

ศิริวิทย์กล่าวต่อเนื่องว่า เมื่อผลงานการจัดสวนได้ตีพิมพ์ กลายเป็นว่าคนที่ไม่รู้จักเรา เพื่อนที่ไม่เคยมาบ้านเขาเลยก็ขอมาเที่ยว กลายเป็นว่า คนนู้นคนนี้ ต่างก็อยากมาชม และมีเพื่อนที่อยากทำบ้าน ก็ขอให้ศิริวิทย์ไปช่วย

“เช่น น้องของ ‘พี่อุ๊-ช่อผกา วิริยานนท์’ ( หมายเหตุ : นักแสดง พิธีกร ผู้ดำเนินรายการ) มาเห็นสวนบ้านเราก็ชอบ แล้วเขาอยู่ในช่วงสร้างบ้าน เราก็ไปช่วยจัดสวน ตอนนั้น เราทำในฐานะเพื่อน ไม่ใช่นักจัดสวน ก็คือซื้อต้นไม้มาเท่าไหร่ ก็คิดเท่านั้น ทำเพราะรู้สึกว่าเป็นความสนุก ได้มีพื้นที่ใหม่ๆ ให้เราได้จัด ได้สนุก แล้วก็มีเพื่อนๆ ที่ขอให้ไปช่วยจัดสวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เพื่อนคนนี้เสร็จ เพื่อนอีกคนมาเห็นบ้านเพื่อนคนนี้ ก็อยากให้เราไปทำให้ บางทีเขาก็ให้เราทำให้ทั้งบ้านทั้งสวน เราก็เลยต้องช่วยรีโนเวทบ้านให้เขาด้วย และจัดสวนด้วย ทั้งทำรั้ว ทำครัว ทำห้องนอน ห้องน้ำ เราทำทุกอย่างเลย แล้วก็ออกมาทำสวนด้วย” ศิริวิทย์บอกเล่าถึงจังหวะก้าวในช่วงแรกของการก้าวเข้าสู่สถานะ ‘นักจัดสวนมืออาชีพ’

เขาเล่าว่า เมื่อได้จัดสวนไปแล้วสองสวน ในช่วงนั้น นิตยสารบ้านและสวน ก็ยังคอยติดตามงานของศิริวิทย์อยู่ ดังนั้น นิตยสารบ้านและสวนก็ได้ตีพิมพ์ผลงานการจัดสวนของศิริวิทย์ทั้งสองสวน ซึ่งการตีพิมพ์ผลงานของเขานี่เอง เป็นสิ่งหนุนเสริมที่ทำให้มีคนเห็นผลงานของเขามากขึ้น และมีลูกค้าที่ชื่นชอบในไสตล์เฉพาะตัวของเขาเพิ่มมากขึ้น


“เมื่องานตีพิมพ์แล้วก็มีลูกค้าเห็นผลงานเรา เช่น มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง เพิ่งแต่งงานใหม่ ซื้อบ้านใหม่ แล้วเขาก็หา Reference เพื่อที่จะหานักจัดสวน คนที่เป็นสามีก็ดู Reference ต่างๆ จากนิตยสาร เมื่อสรุปได้ว่าแต่ละคนชอบตัวอย่างบ้านและการจัดสวนของบ้านหลังไหน เขาก็พบว่าเป็นงานของผม เป็น ‘ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง’ แล้วเขาก็โทรศัพท์ไปที่สำนักพิมพ์ของนิตยสารบ้านและสวน เพื่อขอเบอร์ผมมา ซึ่งกรณีนี้ ความจริงแล้วผู้ชายชอบบ้านหลังหนึ่ง ผู้หญิงก็ชอบอีกหลังหนึ่ง แต่ปรากฏว่า เมื่อเขาดูชื่อ เป็นชื่อเรา เป็นผลงานของเราที่ทำบ้านทั้งสองหลังนั้น นี่ก็เป็นที่มา เป็นจุดเริ่มต้นของงานลูกค้าในช่วงแรกๆ ครับแต่ก่อนหน้านั้น ก็มีทำสวนทำบ้านให้คนรู้จักที่ไม่ใช่เพื่อนด้วย อย่างเช่น คนที่เคยมาบ้าน เคยเห็นสวนเรา แล้วเขาให้ไปช่วยทำ ตอนนั้น เราก็เริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีโจทย์แตกต่างขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังไม่ได้ทำเต็มตัว เราก็ทำเป็นงานอดิเรกหรือเป็นอาชีพเสริมที่เราทำได้ในตอนนั้นครับ”
ศิริวิทย์ระบุ



เป็นมากกว่านักจัดสวน ควบตำแหน่ง Decorator ให้ลูกค้า

ถามว่า จากที่เล่ามาว่ามีการรีโนเวทบ้านด้วย ดังนั้น คุณย่อมไม่ได้เป็นเพียงแค่นักจัดสวนแล้ว แต่ยังมีความสามารถในการเป็น Decorator อีกด้วย

ศิริวิทย์ตอบว่า “ใช่ครับ แม้จริงๆ แล้วผมไม่ได้เรียนจบด้านนี้เลย แต่ผมชอบการตกแต่ง ชอบการจัดวาง ชอบแต่งบ้าน ชอบปลูกต้นไม้ มันก็ควบคู่กันไป แล้วเราก็สนุกกับมัน ทำแล้วเราสนุก คนที่เห็นงานเรา เขาไว้ใจเรา โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเขียนแบบ ไม่ต้องเสนอแบบให้ลูกค้าเห็นก่อนเลย แต่เขาไว้ใจเรา เมื่อเห็นงานเราแล้วเขาก็รู้และยอมรับ เขาก็ให้เราได้ทำงานอย่างเต็มที่ครับ” ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่ลูกค้าไว้วางใจ เชื่อมือ และยอมรับในความสามารถของนักจัดสวนผู้นี้ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้ง Decorator ผู้มีผลงานเป็นที่ยอมรับ

นอกจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นเจ้าของบ้านผู้ต้องการสวนที่สวยงามไว้ชื่นชมแล้ว ลูกค้ากลุ่มสำคัญอีกกลุ่มหนึ่งของศิริวิทย์ก็มีทั้งห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ย่านราชประสงค์ รวมทั้งห้างสรรพสินค้าเครือยักษ์ใหญ่ที่มีมากมายหลายสาขา
ซึ่งศิริวิทย์มักถูกขอให้ช่วยเมื่อมีงานอีเวนท์ต่างๆ เขายอมรับว่ามีงานอีเวนท์จากห้างสรรพสินค้าเหล่านี้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง


‘สไตล์’ ที่ชัดเจน-นำเทรนด์-ได้รับการยอมรับมากกว่า 2 ทศวรรษ

นับจากวันแรกที่เขาเริ่มรับจัดสวนให้เพื่อน รวมทั้งเพื่อนของเพื่อน และลูกค้าอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ชื่นชอบในผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา จวบจนถึงวันนี้ กล่าวได้ว่า ศิริวิทย์ก้าวเข้ามาในวงการนักจัดสวนมืออาชีพมากเกินกว่า 20 ปี หรือเจาะจงให้มากกว่านั้นคือ เขาเป็นนักจัดสวนมืออาชีพมายาวนานกระทั่งก้าวเข้าสู่ ‘ทศวรรษที่ 3’ ของอาชีพนักจัดสวนที่เขารักและหลงใหล


อดถามไม่ได้ว่า อะไร คือสิ่งที่ทำให้คนชื่นชอบการจัดสวนของศิริวิทย์

เขาตอบว่า “ผมมองว่าเป็นเพราะเรามีสไตล์ที่ชัดเจน เหมือนงานเรามีลายเซ็น นึกออกไหมครับ งานใดก็ตามถ้ามีสไตล์ที่ชัดเจน คนก็จะจดจำเราในแบบนั้น เหมือนเขาเห็นความชัดเจนของเรา เขาก็จดจำเราได้
ผมจัดสวนอังกฤษในยุคที่คนยังจัดแนว Tropical Garden แนวบาหลี เป็นสวนป่า แบบบาหลี เป็นสวนน้ำตก แต่การจัดสวนของผมถือได้ว่าเป็นยุคแรกเริ่มของการจัดสวนอังกฤษ ดังนั้น ก็อาจจะคล้ายกับว่าเมื่อคนนึกถึงสวนอังกฤษก็จะนึกถึงผมนะ แต่ถ้าถามว่าด้วยตัวผมเอง ผมเน้นที่สวนอักฤษอย่างเดียวไหม ก็ต้องตอบว่าไม่

ผมเน้นสวนยุโรป สวนคลาสสิคยุโรป
และจริงๆ แล้ว สวน Tropical ผมก็ทำได้ แต่คนจะจดจำเราในแบบนั้น ในแบบสวนสไตล์อังกฤษ
จริงๆ แล้วในเนื้องาน ในสไตล์ของผม ก็มีสวนหลายแบบที่ผมทำ แต่คนก็จะจดจำสวนอังกฤษ สวนยุโรป ด้วยความที่เราทำหนังสือกับอมรินทร์ฯ ( หมายเหตุ : บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด มหาชน ) หลายเล่มด้วย แล้วมักจะเป็นเรื่องสวนอังกฤษ นอกจากนั้นผมก็เป็นวิทยากร สอนจัดสวนด้วย ดังนั้น คนก็มักจะจำเราแม่นในงานชิ้นนั้นๆ ครับ”

ศิริวิทย์บอกเล่าถึงสไตล์ในการจัดสวนที่น่าสนใจ ด้วยเปี่ยมทั้งเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความหลากหลายของเนื้องาน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธว่า ‘สวนสไตล์อังกฤษ’ คือภาพจำที่ผู้คนไม่น้อยมีต่องานของเขา


เสน่ห์ของสวนอังกฤษ-สวนยุโรปกับองค์ประกอบที่สำคัญ

ถามว่า ทำไมเขาถึงสนใจจัดสวนอังกฤษหรือสวนยุโรป แล้วหากมีคนสนใจอยากจัดสวนแนวนี้บ้าง จะต้องเริ่มจากตรงไหน มีคำแนะนำอย่างไร

นักจัดสวนมืออาชีพผู้นี้ตอบว่า “ผมมองว่า เสน่ห์ของสวนอังกฤษมันน่าค้นหา มันน่ารัก มันจับต้องได้ มันไม่ใช่สวนที่เอาไว้ดูหรือเอาไว้มองอย่างเดียว แต่มันเชื้อเชิญให้เราอยากเข้าไปในสวน เห็นการเปลี่ยนแปลงของดอกไม้ ต้นไม้ เห็นนกมากินน้ำ มันมี Feeling ที่เป็นธรรมชาติ

นอกจากนั้น อีกปัจจัยที่ทำให้เราหลงใหลสวนอังกฤษคือพี่เปิ้ล พี่สาวคนโตที่ใช้ชีวิตอยู่อังกฤษ คือพี่สาวผมมีครอบครับแล้วย้ายครอบครัวไปอยู่อังกฤษ ทำให้เรามีโอกาสได้ไปเที่ยว แล้วเรารู้สึกว่าสวนอังกฤษมันมีหลายแบบ มันมีสวน Cottage มันมีทั้งเป็นสวนป่าแบบอังกฤษ มีทั้ง Formal หน่อยก็มี หรือมีทั้งแบบผสมผสานดอกไม้หลายชนิดอยู่ในแปลงเดียวกัน มันมีเสน่ห์ แต่จะทำยังไงให้สวนอังกฤษ มาอยู่บ้านเราได้ แน่นอนว่าเราต้องเปลี่ยนเรื่องพันธุ์ไม้"


ศิริวิทย์กล่าวว่า "สำหรับโครงสร้างและวัสดุ เราอาจหามาใช้ได้ แต่ว่าต้นไม้ ด้วยอากาศ อุณหภูมิ สภาพอากาศแบบบ้านเรา เราอาจทำสวนอังกฤษในเมืองไทยไม่ได้ทั้งหมด ก็จะยากตรงที่ว่า แล้วเราจะทำยังไง ที่ทำให้สามารถทำสวนอังกฤษโดยใช้ต้นไม้ไทยแล้ว Mood หรือ Tone มันได้ Feeling มันได้ จะทำยังไง เราจะเลือกต้นไม้ยังไง ให้ดูเป็นสวนอังกฤษในประเทศไทย” ศิริวิทย์บอกเล่าและยกตัวอย่างได้อย่างเห็นภาพ ทั้งเปิดมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับสวนอังกฤษที่เขาถนัด และกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อครั้งที่เริ่มต้นจัดสวนอังกฤษ บางคนก็บอกเขาว่า ‘โอ้ย เป็นไปไม่ได้หรอก สวนอังกฤษ จะอยู่ได้ยังไงในเมืองไทย’ แต่ศิริวิทย์รู้ดีว่าเขาทำอะไรอยู่ และรู้จักสิ่งที่ทำดีพอ

ดังนั้น เขาไม่ได้ใช้ต้นไม้ที่อยู่เมืองนอกมาใช้ในบ้านเรา เขาไม่ได้เจาะจงว่าต้องนำดอกไม้ พันธุ์ไม้จากเมืองนอกมาปลูก ซึ่งแน่นอนมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่จะทำยังไง ให้สวนอังกฤษอยู่ได้ในแบบฉบับที่เป็นต้นไม้เมืองไทย หรือมีการเพาะเลี้ยง เช่น มีต้นไม้เมืองนอกบางต้นที่นำมาเพาะเลี้ยงในเมืองไทยได้


“ผมไม่ได้บอกว่าไม้จากเมืองนอกทุกต้นจะอยู่เมืองไทยไม่ได้ แต่มันจะต้องมีการปรับวัตถุ วัสดุปลูก หรือมีการปรับสภาพอากาศให้เขาอยู่ได้ก่อน ไม่ใช่นำเข้ามาปั๊บปลูกเลย ต้องให้ต้นไม้ปรับตัวก่อน ปรับอุณหภูมิก่อน ไม้บางตัว ปรับตัวได้ เพราะได้รับการเพาะเลี้ยงในบ้านเราได้ดีแล้วในปัจจุบัน ทุกวันนี้ ไม้จากเมืองนอกจึงมีความหลากหลายมากกว่าเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว


ตอนนี้มีไม้เมืองนอกให้เราหยิบใช้มากกว่า ต่างจากเมื่อ 10-20 ปีก่อน แทบไม่มีไม้เมืองนอกให้เราหยิบใช้ได้เลย แต่ปัจจุบัน บ้านเราเป็นเมืองเกษตรกร จึงมีคนที่มีความเก่งในเรื่องการปรับปรุง ขยายพันธุ์ ไม้หลายชนิดตอนนี้ นำมาจัดสวนได้สบายเลยครับ แต่ถ้าในยุคนั้น มีไม้จากเมืองนอกให้เลือกได้เยอะเหมือนตอนนี้นะ โอ้โห! ผมว่าผมจัดสวนในยุคนั้นได้ ‘ว้าว’ กว่าเดิมเยอะเลยครับ” ศิริวิทย์บอกเล่าอย่างเปี่ยมอารมณ์ขันและแฝงความรู้เรื่องต้นไม้ ก่อนบอกเล่าเพิ่มเติมถึงสิ่งสำคัญของการจัดสวนสไตล์อังกฤษ


ศิริวิทย์กล่าวว่า สิ่งสำคัญ คือการเลือกและเข้าใจต้นไม้ รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ เช่น เก้าอี้สนาม กระถาง ตุ๊กตา คิวปิด สิ่งเหล่านี้คือสวนสไตล์อังกฤษ มีพร็อพที่บ่งบอกถึงความเป็นสวนอังกฤษ แล้วก็ต้องเลือกต้นไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นสวนสไตล์อังกฤษ

ขณะที่สวนบาหลี ก็จะมีตุ๊กตาบาหลี มีหินภูเขาไฟสไตล์บาหลี เป็นต้น เหล่านี้ ทำให้สวนมี Feeling หรือให้ความรู้สึกถึงความเป็นสไตล์ของสวนนั้นๆ ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ ศิริวิทย์เน้นว่าต้องมีวิธีคิด อาทิ ใช้ต้นไม้ชนิดอื่นมาทดแทนต้นไม้ที่ไม่มีในเมืองไทย รวมทั้งต้องเข้าใจแก่น เข้าใจสไตล์ ต้องเข้าใจอย่างแท้จริง ก่อนที่จะทำงาน

“ผมเชื่อว่าทุกวงการที่ทำงานดีไซน์หรือออกแบบ ต้องเข้าใจถึงการทำงานนั้นๆ ก่อน แล้วค่อยมาตีความ หาของตกแต่ง หาต้นไม้ ผมว่าก็ทำนองเดียวกันกับงานออกแบบอื่นๆ คือต้องมีความเข้าใจอย่างแท้จริง” ศิริวิทย์เน้นย้ำ


วิเคราะห์กระแส ‘ดารา-คนดัง- Influencer’ แห่ปลูกต้นไม้

เมื่อบอกกล่าวว่า อยากให้ช่วยวิเคราะห์ถึงช่วงหนึ่งเมื่อไม่นานปีมานี้ ที่มีกระแสดารา หรือผู้มีชื่อเสียงในสังคม หันมาสนใจปลูกต้นไม้ ปลูกไม้ใบ แล้วส่งผลให้ราคาไม้ใบสูงมาก บางต้นที่ราคาแตะหลักล้าน คุณมองว่ากระแสนี้สะท้อนถึงอะไร และส่งผลอย่างไรต่อวงการนักจัดสวนบ้างหรือไม่

ศิริวิทย์ตอบว่า “จริงๆ แล้ว มันเป็นเรื่องดีนะครับ การที่คนในวงการบันเทิง หรือคนที่มีอิทธิพลต่อคนทั่วๆ ไป ที่จะมาเป็นตัวอย่างการปลูกต้นไม้ให้คนอื่นปลูกตาม เหมือนปลูกเป็นตัวอย่าง คือผมมองว่าด้วยเหตุผลจริงๆ แล้ว คนเราโหยหาธรรมชาติ ถ้าไม่เกิดโควิด-19 คนก็จะยังเดินทางได้ เขาก็อาจจะไปป่า ไปเขาใหญ่ ไปทะเล หรือไปคาเฟ่ เป็นชีวิตประจำวันที่พวกเขาต้องการ โดยที่เขาอาจไม่รู้ตัว แต่เมื่อโควิด-19 มาถึง ไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่ในบ้าน คาเฟ่ก็ไม่เปิด สวนสาธารณะไม่เปิด ไปเที่ยวไหนไม่ได้ เดินทางไม่ได้ เขาก็จะรู้สึกอึดอัดและหาอะไรมาทดแทน เขาก็หาธรรมชาติมาทดแทน นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่า ธรรมชาติคือสิ่งที่มนุษย์ต้องการ"


"ที่ผ่านมาคนเราอาจไปสนใจอย่างอื่น แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่เขาโหยหาคือธรรมชาตินี่แหละ ที่ยังต้องอยู่คู่กับเรา เพราะไปไหนไม่ได้ ก็สร้างความสุขด้วยการเอาต้นไม้มาแต่งบ้าน ในเมื่อไปไหนไม่ได้ อยู่คอนโด ทาวเฮาส์ หรืออยู่บ้านที่ไม่ปลูกต้นไม้เลย ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนแก่ วัยรุ่น ผู้หญิง ผู้ชาย ดาราหรือใครก็ตาม ต่างก็หันมาปลูกต้นไม้หมดเลย ต่างจากยุคสมัยก่อน ที่อาจจะมีเพียงผู้ใหญ่เท่านั้นที่สนใจปลูกต้นไม้ เด็กรุ่นใหม่ ก็จะมองผ่าน แต่กลายเป็นว่ายุคนี้ เมื่อเกิดโควิด-19 ปุ๊บ! มันบ่งบอกว่า ทุกคนต้องการอะไร นั่นคือทุกคนต้องการธรรมชาติ"

"เราได้เห็นว่าผู้คนยังให้ความสำคัญกับต้นไม้ รู้สึกว่าต้นไม้เป็นธรรมชาติบำบัดเราในช่วงเวลาที่เราทุกข์ ช่วงเวลาที่เราเครียด ช่วงเวลาที่ต้อง Work from Home อยู่ในห้องที่อึดอัด ไม่มีบรรยากาศ ไม่ได้ออกไปเห็นธรรมชาติ ผมว่าเป็นเรื่องที่ทรมานเหมือนกันนะครับ เป็นเรื่องอึดอัดของการใช้ชีวิต ทุกคนเลยต้องหันหาธรรมชาติ เอาธรรมติเข้ามาอยู่ใกล้ตัว นี่เป็นสิ่งที่ดี และผมมองว่าด้วยความเป็นดารา คุณทำประโยชน์ได้เยอะเลยนะ ไม่ว่าคุณหยิบอะไร ต้องเข้าใจว่าดารา และ Influencer เขามีอิทธิพลต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะหยิบจับอะไร แต่งตัว ใส่รองเท้า หรือเขาจะปลูกอะไร คนจะตามเขา สะท้อนว่าผู้มีอิทธิพลต่อสังคมเหล่านี้ เขาน่าจะหยิบอะไรที่มีประโยชน์ ดีต่อภาพรวมของโลก ให้คนได้ทำตาม เพราะเขามีอิทธิพล ดังนั้น มันก็เป็นเรื่องที่ดีที่พวกเขาทำให้หลายคนหันมาปลูกต้นไม้” 
ศิริวิทย์ระบุ


ถามว่า ในสายตาเขา สะท้อนถึงกระแสอนุรักษ์โลกหรือไม่

นักจัดสวนผู้นี้ตอบว่า “ใช่ครับ มันเป็นเรื่องที่ดี ผมว่าไม่ใช่เฉพาะบ้านเรา แต่เป็นทั่วโลก ที่คนหันมาให้ความสำคัญกับต้นไม้ ธรรมชาติและใส่ใจภาวะโลกร้อน
ใส่ใจเรื่องมลพิษ ซึ่งต้นไม้ช่วยเราในเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด แต่ที่ผ่านมาคนไม่ได้ตระหนัก”



วิเคราะห์กลไกตลาด-ต้นไม้ราคาหลักล้าน มีทุกยุคสมัย

ถามเก็บเกี่ยวเป็นความรู้ว่า ต้นไม้ที่มีราคาสูงหลักล้านบาท เป็นไปตามกลไกตลาดไหม มีคนต้องการจริงๆ
หรือมีการปั่นราคา

ศิริวิทย์ตอบว่า “มันมีเกณฑ์การซื้อขายแบบนี้จริงๆ ครับ และในความเป็นจริงแล้ว ต้นไม้ราคาหลักล้านบาทไม่ใช่เพิ่งมีตอนนี้ แต่มีมานานแล้ว ในทุกยุคทุกสมัย แต่คนทั่วไปที่ไม่ได้สนใจ อาจไม่รับรู้ หรือสมัยก่อน ข่าวสารไม่ได้แพร่กระจายได้ง่ายขนาดนี้ แต่คนที่ซื้อขายกันจริงๆ เขาก็จะรู้กันในแวดวงคนซื้อขายต้นไม้ แต่ทุกวันนี้มีโซเชียลมีเดีย ข่าวสารแพร่ไปเร็วมาก โพสต์ปุ๊บ อีก5 นาที 10 นาที ทุกคนรู้แล้ว กระจายเป็นข่าวใหญ่ในทีวี ทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งข่าวโซเชียลฯ ก็กลายเป็นว่าเมื่อมันมีราคาสูง ทุกคนก็รู้สึกว่ามันพิเศษ"


ศิริวิทย์กล่าวว่า "ในความเห็นผม ต้นไม้ที่ดีจริงและมีราคาสูงจริงก็มี แต่ถามว่ามีการ Make ราคาเกินจริงไหม ผมเชื่อว่าก็มีครับ ซึ่งคนที่จะจับโป๊ะได้ เขาก็รู้แหละ แต่ถ้าเป็นของจริง แล้วเราดูรู้ถึงลักษณะ ความแปลก ความหายากของต้นไม้ เราจะรู้เลยว่ามันสมราคาจริงๆ คู่ควรจริงๆ แล้วก็มีคนกระเป๋าหนักที่เขาซื้อได้ มันไม่ได้เว่อร์สำหรับเขา คือต้องยอมรับว่ามันมีการซื้อขายจริง และมีมานานแล้ว เพราะมันมีคุณค่า มีคนที่เขาซื้อเพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจ"


"คือเมื่อเราพูดถึงต้นไม้ เมื่อเราอยู่กับมัน อาจไม่เหมือนการที่คนซื้อนาฬิกา หรือกระเป๋าแพงๆ เก็บไว้เก็งราคา ผ่านไปสิบปีก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แต่การซื้อต้นไม้ในราคาแพง คนกลุ่มนี้เขาไม่ได้ตีมูลค่าต้นไม้แบบนั้น แต่เขาตีมูลค่าที่ความสุขแล้วจบ! ต่อไป ไม่ว่ามันจะถูกหรือแพง เขาไม่สนใจ เขามีความสุข เขาชอบ เขาอยากได้ เขาได้เห็นมันทุกวัน เขาถือว่าคุ้มแล้ว มูลค่าของมันต่างกันกับทรัพย์สินอื่นๆ


ต้นไม้มันมียุค มีสมัย หมดยุคนี้ ก็เป็นต้นอื่นแล้ว เป็นอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่สมัยผมยังเล็ก ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อผม ท่านก็จะปลูกบอนสี ว่าน โกสน หมากผู้หมากเมีย มันมียุคสมัยของมัน แล้วก็จะมีความเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุค”

ศิริวิทย์วิเคราะห์มูลค่าของต้นไม้และความเปลี่ยนแปลงของแต่ละยุคได้อย่างน่าสนใจ


งานจัดสวนไร้ผลกระทบ จากโควิด-19 ยอดขายต้นไม้โตเกิน 100%

ถามว่าวิกฤติโควิด-19 ทั้ง 4-5 ระลอกที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอะไรต่อการจัดสวนของคุณหรือไม่
ศิริวิทย์ตอบว่า “สำหรับผมนะครับ ในส่วนของการจัดสวนนะ ไม่กระทบเลยครับ ดีขึ้นด้วยซ้ำไป ต้นไม้ก็ขายดี ขายได้เยอะเกิน 100 %

ต้นไม้ขายดีกว่าเก่า คือขายดีเกินเท่าตัวอีกน่ะครับ ต้องบอกว่าเกินหลายเท่าตัวเลยครับ"


ศิริวิทย์กล่าวว่า "เดิมที สัดส่วนงานจัดสวนก็เยอะอยู่แล้ว เมื่อเกิดช่วงโควิด-19 ก็มีเยอะกว่าเก่า แล้วข้อดีคือเราไปทำอย่างอื่นไม่ได้ จัดอีเวนท์ ทำงานแต่งไม่ได้ เราไปถ่ายงาน ถ่ายหนังสือไม่ได้ เราทำอย่างอื่นไม่ได้ ตอนนั้น ต้องหยุดหมดทุกอย่าง แต่เรายังจัดสวนให้บ้านลูกค้าได้ นึกภาพออกไหมครับ
จริงๆ แล้วผมทำงานหลายด้าน แต่โควิด-19 ทำให้เราโฟกัสงานด้านเดียว ดังนั้น การจัดสวนให้ลูกค้า ทำให้ผมได้ใช้เวลาเต็มที่ บางแห่งเราจัดเพียงสัปดาห์เดียวก็เสร็จ 


ผมทำงานหลายด้าน เรามีร้านอาหาร ทั้งนำเข้าต้นไม้ รับจัดงานแต่งงานด้วย ให้เช่าสถานที่ด้วย เขียนหนังสือด้วย
ทำสัมภาษณ์ด้วย มีหลายอย่างที่เราต้องทำ เราต้องแชร์เวลาให้กับสิ่งต่างๆ ไม่ได้มีเวลาให้การจัดสวนด้านเดียว

แต่เมื่อโควิด-19 มา กลายเป็นว่าผมได้ทำงานจัดสวนอย่างเต็มที่
ดังนั้น โควิด-19 ที่ผ่านมา ไม่มีผลกระทบกับงานต้นไม้ของผมเลย ทำให้ผมทำงานได้เยอะขึ้น งานเข้ามาเยอะขึ้น
แต่ที่ส่งผลกระทบคือในส่วนของร้านอาหารที่มีอยู่ 2 ร้านต้องหยุดไปปีกว่า” ศิริวิทย์ระบุ


ก้าวสู่ยุคสมัยที่ผู้คนให้ความสำคัญกับต้นไม้

ศิริวิทย์กล่าวว่า “ยุคนี้ หลายคนให้ความสำคัญกับสวน บางคนทำสวนก่อนทำบ้านซะอีกนะครับ หรือเก็บงบประมาณไว้ทำสวนก่อนทำบ้านเลย หลายคนเรียกผมไปดูสวน ตั้งแต่บ้านเพิ่งลงเสาเข็ม คนยุคนี้ ให้ความสำคัญกับทั้งบ้านและการจัดสวนเท่าๆ กันเลย เพราะเขาอยากให้สวนออกมาสวย

ผมมองว่ายุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว คนให้ความสำคัญกับต้นไม้เยอะขึ้น เพราะคนเห็นผลกระทบจากการตัดต้นไม้มากขึ้น
ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องดี แต่อยากให้จริงจังมากกว่านี้ อยากให้คนให้ความสำคัญกับต้นไม้ชัดเจนยิ่งขึ้น และอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาให้ความสำคัญกับต้นไม้อย่างจริงจังมากกว่านี้ ดูอย่างสิงคโปร์สิครับ น่าอยู่มาก ใครได้ไปสิงคโปร์ก็มักจะพูดถึงต้นไม้ ผมก็หวังอยากให้หน่วยงานรัฐของเราให้ความสำคัญกับต้นไม้ให้มากขึ้น”

นับเป็นความเห็นทิ้งท้ายที่สะท้อนถึงความเป็นผู้ที่รัก ใส่ใจ และให้ความสำคัญกับต้นไม้อย่างแท้จริง

……

Text by รพีพรรณ สายัณห์ตระกูล
Photo by ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง