xs
xsm
sm
md
lg

“สื่อสิงคโปร์” ถาม! ไทยซื้อรถถังใหม่ 2 พันล้าน แต่ไม่เห็นเอามาใช้ที่ชายแดนใต้เลย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

รถถังจีน รุ่น VT-4 (ภาพจากสื่อจีน)
สื่อสเตรตไทม์ของสิงคโปร์ ระบุ ไทยซื้อรถถังจากจีน 2 พันล้าน และกัมพูชาไล่สหรัฐฯ ถอนกำลังออกนอกประเทศ สะท้อนความสัมพันธ์กับจีน และการถอยห่างจากมะกัน ระบุ เหตุไม่สงบชายแดนใต้มากที่สุด แต่กลับไม่มีการใช้รถถังที่นั่น ผู้เชี่ยวชาญระบุ รัฐบาลทหารได้รับความเห็นชอบจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ไม่จำเป็น แม้แต่เรือบรรทุกเครื่องบินทั้งที่ไม่มีเครื่องบิน

เว็บไซต์สเตรตไทม์ของสิงคโปร์ รายงานหัวข้อ “Thailand and Cambodia strengthen ties with China” โดยอ้างแหล่งข่าวจากสำนักข่าวเอเอฟพี ว่า รัฐบาลไทยได้ตกลงที่จะซื้อรถถังจากจีนจำนวน 10 คัน มูลค่า 58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่กัมพูชาสั่งให้หน่วยงานของทหารเรือสหรัฐฯ ถอนกำลังออกจากประเทศ กลายเป็นร่องรอยที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่คลายความสัมพันธ์ต่อสหรัฐฯ ในขณะที่พวกเขากระชับความสัมพันธ์กับจีน

กองทัพไทยได้เปลี่ยนรถถังรุ่น M41 ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ออกไป แทนที่ด้วยรถถัง VT-4 ของจีน ซึ่งจะยังคงปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพิ่มขึ้นต่อไปในอีก 3 ปี หลังจากรัฐบาลทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ได้ระดมซื้อรถถังจากจีน 28 ลำ และเรือดำน้ำมูลค่า 380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยวงเงินที่ถูกร้องขออีก 2 ลำ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติซื้อรถถัง VT-4 จำนวน 10 ลำขึ้นไป มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ว่า “เป็นการแทนที่รถถัง M41 ที่ใช้มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง”

ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับเหตุความไม่สงบมายาวนานหลายสิบปีในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากที่สุด แต่กลับไม่ค่อยมีการใช้รถถังที่นั่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศครั้งล่าสุด เกิดขึ้นระหว่างการต่อสู้ที่ชายแดนกัมพูชาในปี 2554

ทหารที่ขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสองครั้งในทศวรรษที่ผ่านมา ในทางตรงกันข้าม งบประมาณด้านการป้องกันประเทศกลับมีเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าตัว ไปอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ความเอื้ออาทรของคนไทยต่อกองทัพได้ทำให้เกิดความประหลาดใจ เนื่องจากเศรษฐกิจถดถอยหลังรัฐประหาร นักวิจารณ์ระบุว่า กองทัพไทยซึ่งมีสัดส่วนนายพลมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ได้รับความเห็นชอบการจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็น รวมไปถึงเรือบรรทุกเครื่องบินซึ่งปัจจุบันไม่มีเครื่องบินสักลำเดียว

จีนได้สูบเอางบประมาณด้านการป้องกันประเทศของไทย ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุด คือ สหรัฐฯ ซึ่งนโยบายที่มีต่อประเทศไทย และส่วนที่เหลือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มมีความไม่แน่นอน ภายหลังการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีนโยบายปกป้องตัวเอง

ขณะเดียวกัน สถานทูตสหรัฐฯ ในกัมพูชา กล่าวว่า หน่วยทหารก่อสร้างกองทัพเรือ หรือ ซีบีส์ (Seabees) ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ยกเลิกโครงการที่วางแผนไว้ทั้งหมด 20 โครงการ รวมทั้งการสร้างโรงเรียน และโรงพยาบาล ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาได้แจ้งต่อสถานทูต ในการตัดสินใจที่จะเลื่อนโครงการ Seabees ไปเรื่อยๆ

พล.อ.ชุม สุชาติ โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวว่า เขาไม่ได้ตระหนักถึงการตัดสินใจดังกล่าว

กัมพูชาไปไกลกว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ ในการติดพันกับจีน และการถอยห่างสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไปภายใต้ประธานาธิบดี ทรัมป์ แม้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุน เซน จะรู้สึกชื่นชมยินดีกับนายทรัมป์ก็ตาม

ผลกระทบด้านความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เกิดขึ้นจากการที่สหรัฐฯ วิจารณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายที่ทำให้รัฐบาลกัมพูชาสามารถตัดสิทธิ์พรรคการเมืองได้ง่ายขึ้น และขอให้ต่ออายุข้อเรียกร้องของกัมพูชาในการยกเลิกหนี้จำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษที่ 1970

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กัมพูชาระงับการฝึกซ้อมรบร่วมกัน เนื่องจากมีการจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน กัมพูชากล่าวว่า เป็นเพราะยุ่งยากกับการเลือกตั้ง และปฏิเสธว่า ไม่ได้ติดต่อใดๆ กับจีน แต่เมื่อปีที่แล้วจีนได้ร่วมกันฝึกซ้อมรบกับกัมพูชาเป็นครั้งแรก กองทัพกัมพูชาได้รับประโยชน์จากการฝึกและอุปกรณ์ของจีน เช่น รถจี๊ป จรวด และ เฮลิคอปเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น