xs
xsm
sm
md
lg

“เมย์ เฟื่องฯ” ตอบแล้วเห็นด้วยไหม? “หนุ่ม กรรชัย” คนดีคนเดียว หนุ่มเดียวในใจ เซอร์ไพรส์ “น้องมายู” ติดใจละคร อยากเดินแบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เมย์ เฟื่องอารมย์” เซอร์ไพรส์ “น้องมายู” ขอเล่นละครเอง และเริ่มอยากไปเดินแบบทั้งที่เคยปฏิเสธ เล่าเคยร้องไห้เพราะลูกไม่ชอบให้ถ่ายรูป มีพบจิตแพทย์ปรึกษาวัยทองเด็ก ตอนนี้ดีขึ้นแล้วตามอายุ ดีใจได้รับรางวัลใหญ่ที่โรงเรียน ตอบไม่ถูกเห็นด้วยไหม กับประโยค “หนุ่ม กรรชัย” คนดีคนเดียว หนุ่มเดียวในดวงใจ บอกอย่าคาดหวังมาก เพราะจะทำให้สามีกดดัน

จากที่เคยมีความเป็นตัวของตัวเองหนักมาก และไม่ยอมออกงานเหมือนลูกดาราคนอื่นๆ แต่อยู่ดีๆ “น้องมายู” ก็ขอคุณแม่ “เมย์ เฟื่องอารมย์” หรือ “เมย์ ปทิดา กำเนิดพลอย” มาชิมลางงานแสดง ด้วยการขอเล่นละคร ทำเอาคุณแม่ งงหนัก แต่ก็ยอมให้ลองสักตั้ง ล่าสุดวันนี้ (30 มิ.ย.) แม่เมย์ก็ได้เผยในงานบวงสรวงละคร “กรงดอกสร้อย” ว่าไม่รู้เลยทำไมลูกถึงอยากเล่นละคร เพราะเมื่อก่อนไม่เอาอะไรทั้งนั้น ทั้งๆ ที่มีงานติดต่อมาเยอะมาก

“จริงๆ มีหลายงานติดต่อมายูเยอะ แต่ทางเราก็จะถามมายูก่อนว่ารับไม่รับ ให้ความสมัครใจกับลูก ส่วนใหญ่มายูจะไม่เอาเลย งานอะไรก็จะไม่เอา ถามก็ไม่เอา แล้วเขาจะเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป แม้กระทั่งเราไปงานธรรมดาทั่วไป รู้ไหมว่ากว่าที่จะเห็นรูปในไอจีที่เมย์ลง เหนื่อยมาก คือบางทีทะเลาะกันเลยนะ จนบางทีเราเคยร้องไห้ด้วย รู้สึกแบบเฮ้ยทำไมลูกไม่ยอมถ่าย แค่รูปเดียว บางทีเราไม่ชอบถ่ายอยู่แล้ว แต่บางทีเราก็อยากให้เขามีนิดหนึ่ง เขาก็จะแบบว่า ไม่เอา หนูไม่ชอบถ่ายรูป หรือถ้าใครมาถ่ายเขา เขาก็ไม่ชอบ เขาอยากจะให้ขอก่อน มันก็เป็นอีกมุมไพรเวตของเด็ก ตอนนี้มีอะไรเราก็จะขอลูก ตอนนี้เริ่มเข้าใจ พูดถึงตอนเขาเด็กๆ นะที่เราไม่เข้าใจ

หลังๆ เราก็เริ่มเรียนรู้ประสบการณ์หลายอย่าง เขาจะเป็นคนที่ไม่รับอะไรเลย งานเดินแบบกลุ่มลูกดาราไปเดินกัน ถามมายูก่อนด้วยนะ มายูไปเดินไหม มายูบอกไม่เอา หนูไม่ชอบเดินแบบ ตอนนั้นนะคะ แต่ว่าอยู่ดีๆ เขาบอกเขาอยากเล่นละคร อันนี้งงจริงๆ ไม่เข้าใจ (เพราะไปกองทุกวันนี้หรือเปล่า?) ไม่ได้ไปกอง ส่วนใหญ่ไม่ได้ไป แต่มีวันหนึ่งไปแล้วเขาเห็นเด็กในละครเล่นกัน แล้วเขาคงรู้สึกลึกๆ มันก็น่าสนใจหรือเปล่า อยู่ดีๆ ไม่รู้เหมือนกัน เขาก็บอกว่าหนูอยากเล่นละคร”

เลือกเล่นละครเพราะเงียบดี ไม่ชอบเสียงกรี๊ดหรือเสียงเชียร์ถ้าไปเดินแบบ
“อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เขาบอกเขาอยากเล่น เราก็ถามจริงเหรอ แน่ใจนะ บังเอิญว่าละครเรื่องนี้ตอนจบมันมีฉากเด็กสั้นๆ ก็เลยถามเขา เขาโอเคอยากเล่น วันนั้นที่มาถ่ายยังลุ้นเลยว่าถ้าวันนั้นเปลี่ยนใจไม่ถ่ายก็ไม่เป็นไร แต่เขาก็ถ่าย แล้วทำได้โอเคตามนั้น พอกลับบ้านมาก็ยังถามว่าอยากเล่นอีกไหม เขาบอกว่าก็อยากเล่น ก็ถามว่าเขาว่าทำไมระหว่างการถ่ายแบบกับเล่นละคร ทำไมหนูถึงเลือกที่จะมาเล่นละคร เขาบอกว่าเงียบดี ไม่มีเสียงคนอื่น ไม่มีเสียงกรี๊ด หนูไม่ชอบเสียงกรี๊ด คือเหมือนกับว่าการที่เขาได้โชว์ตัวในอีเวนต์ มันจะมีเสียงข้างนอก มายูๆ หรือคอยเชียร์ที่จะซัปพอร์ตเขา แต่เขากลับบอกว่าหนูไม่ชอบเสียงเชียร์อย่างนั้น (อาจจะเป็นความกดดันของเขา?) คงงั้นมั้งคะ เขาก็เลยชอบเงียบๆ ที่อยู่ในกอง หลังๆ เราก็ให้เขาดูเด็กๆ โชว์โน่นโชว์นี่ เขาก็เริ่มพูดแล้วนะว่า เดี๋ยวครั้งหน้าหนูจะไปเดินแบบแล้ว”

ไม่กดดันลูกจะเล่นไม่ได้ เพราะบทมันไม่มีอะไร แต่ถ้าเล่นจริงจังต้องคุยกันอีกที
“ไม่ค่ะ เราดูแล้ว ที่ให้เขามาเล่นบทมันไม่ได้มีอะไร เป็นการลองนิดเดียวเอง แทบจะไม่มีอะไรเลย อันนี้เอามาให้ลองก่อน แทบจะไม่มีบทพูด เป็นฉากเบาๆ มาก ให้มาลองกล้อง ลองมาอยู่ในกอง บรรยากาศการเป็นนักแสดงเป็นยังไงก่อน เขาก็ขอเราก็เลยให้ไป แต่ถ้าต้องไปเล่นจริงจังต้องมาคุยกันอีกทีหนึ่ง”

ตอนมาดูมอนิเตอร์ก็ดูชอบ แต่ติว่าเสื้อกับผมหนูไม่ดี ซึ่งแก้ไม่ได้แล้ว
“ดูค่ะ ก็ดูเขาชอบนะ ก็ถามเขาว่าตรงไหนที่หนูรู้สึกว่ามันไม่ดี ยังไม่โอเค เขาบอกว่าเสื้อหนูไม่โอเค ใส่ไม่ดี ผมหนูด้วย ก็บอกไปว่า ไม่ได้แล้วนะลูก มันผ่านไปแล้ว เราจะได้รู้ว่าบางสิ่งบางอย่างมันกลับมาแก้ไม่ได้ แต่ว่าไม่เป็นไร คราวหน้าเรามีโอกาส เราทำให้มันดีขึ้นนะ

คุณพ่อไม่มาเฝ้าที่กองเพราะต้องทำงาน
“ไม่ค่ะ ทางคุณพ่อเขาทำงานอยู่แล้ว ไม่มีเวลาอยู่แล้วค่ะ ถ้าเป็นห่วงก็เป็นห่วงทั่วไปค่ะ แต่เรื่องอย่างอื่นดีเทลเยอะ ก็มาทางคุณแม่ สายคุณแม่อยู่แล้วค่ะ”

ดีใจลูกได้รับรางวัลใหญ่ที่โรงเรียน
“ก็ดีใจค่ะ พอดีมายูเพิ่งจบชั้น Year3 พอจบแล้วเขาจะมีรางวัลใหญ่ของโรงเรียนในการมอบให้เด็กในแต่ละชั้นปี แต่ละสาขาหนึ่งรางวัล ตอนแรกได้รับเมล์จากโรงเรียน ตอนแรกยังไม่รู้ด้วยซ้ำ มีผู้ปกครองท่านอื่นอ่านเมล์ก่อนแล้วบอกว่ายินดีด้วยนะคะคุณแม่ เราก็งงยินดีอะไร น้องมายูไงคะ เข้าไปเปิดเมล์ดู มายูได้รับรางวัลของชั้น Year3 เป็น Art&Design คนเดียวในชั้น 1 ใน 100 ของชั้น เราก็รู้สึกดีใจ เพราะว่ามายูเขาก็เป็นแนวติสต์ๆ  เขาเป็นแนวนี้อยู่แล้ว มันได้รับ เขาไม่ชอบที่จะมาข้างหน้าจอ เขาไม่ได้เป็นแนวนี้ แต่ว่าเขาเป็นคนชอบวาดรูป ชอบศิลปะ แล้วเขาก็ได้รับรางวัล เราก็รู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็ได้รับรางวัลในสิ่งที่โดดเด่นในรูปแบบของเขา แล้วเป็นงานของโรงเรียนด้วย เราก็ดีใจที่เขาได้ ดูเขาก็ดีใจ บางทีเขาเป็นคนนิ่งๆ ก็ถามว่าหนูได้รับรางวัลนะ เขาก็เหรอๆ งงๆ อยู่ พยายามบอกเขาหนูเก่งมากนะลูก เขาก็เหรอๆ วันรับรางวัลเขาก็ตื่นเต้นมาก”

ไม่มีให้ของขวัญพิเศษเป็นรางวัล เพราะปกติอยากได้อะไรก็ให้อยู่แล้ว
“ปกติเขาอยากได้อะไร ถ้าเห็นสมควรเราก็ให้อยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เขาก็เข้าใจ ไม่ได้มาบอกว่าอะไร เดี๋ยวนี้เวลาอยากจะได้อะไร เขาก็จะรู้ว่าอันนี้เอาแค่นี้พอ บางทีเราถามเอาไหมลูก เขาแทบไม่เอาด้วยซ้ำ เขาถามว่าแพงไหม พอคนขายบอกราคามา เขาก็นิ่งๆ แล้วเปลี่ยนใจว่าไม่เอา เขาก็คิดเองว่าไม่เอา บางทีเรายังบอกว่าเอาสิ น่ารักออกลูก แม่อยากได้ เราชอบเองของเด็ก เขาบอกหนูไม่เอา เราบอกเอาหน่อยนะ แม่อยากได้จริงๆ บางทีเป็นสิ่งที่เราอยากได้เอง เขาก็ไม่เอา แต่ก็มีบางอย่างที่เขาอยากได้ ก็ถือว่าเขาคิดและตัดสินใจได้ในวัยของเขา”

ไม่รู้สึกว่าลูกโตเกินวัย แต่บางมุมความคิดก็มีเหตุผลมากกว่าแม่ด้วยซ้ำ
“โตไหมเหรอ ไม่นะ มายูยังดูเด็กอยู่ ยังไม่ค่อยโตเป็นสาวเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าเขามีความคิดบางอย่างที่ตัดสินใจได้ในบางมุม บางมุมก็เด็กมาก บางมุมก็ไม่ไหวเลย บางมุมก็คิดได้มากกว่าเราดีกว่าเราอีก ให้คำตอบกับเราได้ดี จนเรากลับมาฟังคำพูดของลูกที่เขาแนะนำเราต่างๆ ก็ถือว่าเขามีความคิดที่มีเหตุมีผลของเขาเหมือนกันนะ”

เคยกังวลวัยทองของเด็ก จนต้องไปปรึกษาจิตแพทย์ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วตามอายุ
“ใช่ค่ะ พออายุมากขึ้น ดีขึ้นค่ะ พออายุมากขึ้น บางทีมีคนมาถามเหมือนกันว่าเคยอ่าน หรือเคยฟังคุณเมย์สัมภาษณ์ ว่าลูกสาวคือน้องมายูมีอารมณ์พีกเยอะ คุณพ่อคุณแม่บางครอบครัวก็จะเครียดเกี่ยวกับเรื่องลูก เมย์ก็บอกว่าไม่เป็นไรเลย ค่อยๆ เข้าใจเขา อย่าไปเครียด เพราะว่าโตไปเรื่อยๆ เขาจะเปลี่ยนเอง ซึ่งก็เป็นความจริง มายูก็ดีขึ้นด้วยอายุเขาก็มีเหตุผลมากขึ้น รู้เรื่องมากขึ้น ดีขึ้น เพียงแค่ว่าเราค่อยๆ บอกเขาไป ในจุดๆ นี้เขาโอเคแล้วค่ะ ไม่ค่อยมีอะไรเลยนอกจากบางอารมณ์มากกว่าที่จะเป็น แต่ส่วนใหญ่โอเคมาก”

บอกอยากคาดหวัง เพราะจะทำให้กดดัน หลังคนยกให้สามี “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เป็นคนดีคนเดียว หนุ่มเดียวในดวงใจ
“ก็คิดว่า… ไม่ๆ เขาก็บอกว่าอย่ามาอะไรเขาเลย อย่ามาคาดหวังอะไรเขาเลยนะคะ เขาก็ไม่ได้ดีอะไรนักเท่าไหร่ เขาก็แค่เป็นคนๆ หนึ่งที่ถ่ายทอดหรือเป็นคนกลางให้ทุกคน ก็ทำดีที่สุดในรูปแบบของเขา (แสดงว่าเราก็ดูอยู่เหมือนกัน เห็นคลิปนั้น?) คลิปเยอะไงเลยเห็น พอดีเห็นมีคลิป แต่จริงๆ ไม่ค่อยได้มีเวลา บอกตรงๆ ไม่ได้มีเวลาดูอะไรเลยค่ะ เพราะว่าทำละคร ดูน้อง ยุ่งมากเลย ไม่ค่อยมีเวลา ก็ได้เห็นบ้างนิดหน่อย เขาเขินมากเวลาพูดคำนี้ออกมา ไม่ค่อยเต็มปาก น่าจะเป็นแบบนั้น (หัวเราะ) ถามว่ามองเป็นเรื่องขำๆ ไหม ไม่รู้ขำไหม เห็นเขาขำกันใช่ไหมหรือยังไง เขาแซวกันใช่ไหมคะ ถามว่าเห็นด้วยไหม กับประโยคนั้น ก็ยังไงล่ะ คิดว่าเหมือนที่เขาพูดค่ะ ก็อย่าอะไร คือบางทีมันกดดันเนาะทำตรงนี้ กดดันเยอะๆ ก็กดดัน ปล่อยไปเรื่อยๆ ดีกว่าค่ะ”











กำลังโหลดความคิดเห็น