“พาณิชย์” ดันตั้งตลาดกลางข้าวสาร เปิดทางเลือกในการซื้อข้าว และผลักดันราคาให้สูงขึ้น

“พาณิชย์” ดันสร้างตลาดกลางค้าข้าวสารทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ เพิ่มทางเลือกให้มีตลาดซื้อขายข้าวสารเพิ่มขึ้น หวังให้มีการแข่งขันด้านการเสนอราคาขาย และช่วยดันราคาให้สูงขึ้น เตรียมดึงผู้ซื้อข้าวทั้งในและต่างประเทศมาเลือกซื้อ ส่วนราคาข้าวในประเทศขยับขึ้นต่อเนื่อง

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้ประกอบการโรงสีข้าวว่า ได้หารือถึงแนวคิดของกระทรวงพาณิชย์ที่จะจัดสร้างตลาดกลางค้าข้าวสารขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกร และผู้ประกอบการค้าข้าวสามารถนำผลผลิตมาขายที่ตลาดกลาง โดยให้ผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศได้เลือกซื้อ ถือเป็นการสร้างสมดุลระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย จากปัจจุบันที่มีผู้ขายมาก ผู้ซื้อน้อย และส่วนใหญ่เป็นผู้ส่งออก เมื่อผู้ซื้อต่างชาติต้องการซื้อข้าวไทยก็จะซื้อผ่านผู้ส่งออกเหล่านี้เท่านั้น ซึ่งบางครั้งทำให้ไม่มีการแข่งขันกันเสนอราคาขายให้สูงขึ้น

สำหรับรูปแบบการจัดสร้างตลาดกลาง กระทรวงฯ จะหาผู้ลงทุนที่เป็นภาคเอกชน ซึ่งขณะนี้ได้สอบถามแล้ว และหลายรายแสดงความสนใจ แต่อยู่ระหว่างการหารือรูปแบบการทำธุรกิจ (บิสิเนสโมเดล) คาดว่าน่าจะจัดสร้างในภาคกลาง หรือจังหวัดนนทบุรี ที่สะดวกต่อการขนส่ง และคาดว่าน่าจะเห็นเป็นรูปธรรมได้ในปีหน้า

“ผู้ประกอบการโรงสีสนับสนุนการสร้างตลาดกลางข้าวสาร ซึ่งจะจัดสร้างทั้งที่เป็นตลาดจริงๆ เอาสินค้ามาวางขายกันจริงๆ เป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าให้ผู้ซื้อได้เลือกซื้ออย่างสะดวกสบาย และตลาดกลางซื้อขายทางออนไลน์ เพื่อให้สามารถค้าขายได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น” นางอภิรดีกล่าว

นางอภิรดีกล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงสียังได้ขอให้กระทรวงฯ เร่งประสานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้เร่งปล่อยสินเชื่อตามโครงการต่างๆ ของรัฐบาล เช่น สินเชื่อเพื่อซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรมาเก็บไว้ในช่วงที่ผลผลิตออกมากที่ขณะนี้ยังมีความล่าช้าในการพิจารณา ซึ่งกระทรวงฯ รับจะเร่งประสานให้ ส่วนสถานการณ์ราคาข้าวในประเทศ ล่าสุดราคาข้าวเปลือกในประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาข้าวที่สำรวจจากสมาคมโรงสีข้าวไทย พบว่าราคาข้าวเปลือกได้ปรับตัวสูงขึ้นเกือบทุกชนิดเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดยราคา ณ วันที่ 21 ธ.ค. 2559 ข้าวเปลือกหอมมะลิปี 2559/60 จ.บุรีรัมย์ อยู่ที่ตันละ 10,000 บาท เทียบกับราคาเฉลี่ยเดือน พ.ย.ที่อยู่ที่ตันละ 9,500-9,800 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ปี 2559/60 จ.อุบลราชธานี ตันละ 11,000 บาท ขณะที่ข้าวเปลือกเจ้า 5% จ.พระนครศรีอยุธยา ตันละ 7,700-7,800 บาท สูงขึ้นจากตันละ 7,600-7,700 บาท ส่วนข้าวสารเจ้า 5% ตันละ 11,900-12,000 บาท ปรับขึ้นจากตันละ 11,700-11,800 บาท