5 ข้อดีของไม้อัดฟิล์มดำ เปลี่ยนเรื่องยากในการก่อสร้างอาคารให้ง่ายขึ้น

เมื่อพูดถึงการก่อสร้างในทุกวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วผู้รับเหมาก่อสร้างมักจะใช้ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ยาง ไม้สน หรือไม้กระบาก มาใช้สำหรับทำแบบในการเทคอนกรีต ซึ่งปัญหาของไม้เหล่านี้คือบิดงอ ยืดหดตัวสูง และไม่ทนต่อปลวก และแมลงต่างๆ ซึ่งในหลายครั้งก็อาจจะทำให้การทำงานเกิดความปวดหัว ยากลำบากได้

Materials Room จึงอยากชวนทุกๆ คนไปทำความรู้จักกับไม้แบบอีกประเภทหนึ่งก็คือ ไม้อัดฟิล์มดำ นวัตกรรมไม้อัดที่ช่วยให้การทำงานของผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น ข้อดีของไม้ชนิดนี้จะมีอะไรบ้างไปติดตามกัน รับรองว่า รู้จักแล้วจะลืมวัสดุไม้ธรรมดาๆ ที่เคยใช้กันเลยยย!

ทำความรู้จักกับไม้อัดฟิล์มดำ

ไม้อัดฟิล์มดำ หรือ แผ่นไม้บางฟิล์มดำ คือ การนำไม้เนื้อแข็งแผ่นบางอัดสลับชั้น ให้เกิดความหนา 10- 20 มิลลิเมตร พร้อมยึดติดกันด้วยกาวกันน้ำ ชนิด Melamine หรือ Phenol Formaldehyde ซึ่งทำให้ขอบไม้มีสีแดงสด พร้อมปิดผิวหน้าด้วยแผ่นฟิล์ม Phenolic Resin ของ DYNEA จากประเทศ ฟินแลนด์ ส่งผลให้ไม้ชนิดนี้มีข้อดีมากมายดังนี้  

สามารถกันน้ำได้ดี
ไม้ในทุกเกรด จะถูกเคลือบผิวฟิล์มดำทั้งด้านหน้า และด้านหลังของตัวไม้ เพื่อให้คุณสมบัติกันน้ำ สารเคมี ปูนผสม ปูนกาว ปูนทุกชนิด ซึ่งไม้แต่ละเกรดจะแตกต่างกันตรงที่การใช้กาวในการยึดติด โดยรุ่นเกรดต่ำจะใช้กาว Melamine ในส่วนเกรดสูงจะใช้ Phenol Formaldehyde ซึ่งให้ความคงทนต่อน้ำ และการยึดติดได้ดีกว่า อย่างไรก็ตามหากนำไม้อัดทุกเกรดมาทาสีกันน้ำเคลือบไปอีกหนึ่งชั้น จะยิ่งเพิ่มคุณสมบัติให้ทนต่อแดด ความร้อน ฝน ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

แข็งแรง ทนทาน และเกิดรอยขีดข่วนยาก

ไม้อัดบางทุกชิ้นจะถูกคัดเลือกให้ลายเสี้ยนหันไปในทางทิศทางเดียวกัน พร้อมติดฟิล์มดำทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อไม่ให้ตัวไม้เกิดความทนทานต่อแรงบิด แรงกด และแรงเฉือน รวมไปถึงฟิล์มดำยังช่วยให้ไม้เกิดรอยขีดข่วนได้ยากในช่วงการก่อสร้างอีกด้วย

ไม่มีสารพิษเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน

ฟิล์ม Phenolic Resin สร้างขึ้นจากโพลิเมอร์สังเคราะห์จากธรรมชาติ ในส่วนของกาว Melamine หรือ Phenol Formaldehyde ทำขึ้นจากพลาสติก จึงไม่มีแร่ใยหิน ไม่มีสารตะกั่ว และปรอท ที่เป็นพิษกับร่างกายของเรา

มีหลายขนาด ราคาถูก น้ำหนักเบา และขนส่งง่าย

ไม้อัดฟิล์มดำมีขนาดความหนาตั้งแต่ 10, 15,18, 20,25 มิลลิเมตร โดยแต่ละความหนาจะมีขนาดอยู่ที่ 1.22 x 2.44  เมตร มีน้ำหนัก 22- 33.5 กิโลกกรัม ซึ่งเป็นขนาดที่สามารถขนส่งได้ง่าย และราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 500-600 บาท/แผ่น ราคาจะขึ้นอยู่กับเกรดของไม้ และการผลิตของแต่ละแบรนด์ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกชนิดไม้อัดแบบไส้เต็มที่เหมาะกับงานตัดแต่ง หรือ ไส้ต่อ ที่จะเหมาะกับการงานใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อีกด้วย

เหมาะกับเป็นไม้แบบหล่อคอนกรีต

เหมาะสำหรับงานแบบหล่อที่มีพื้นที่กว้าง เช่น ใช้ทำไม้แบบในงานก่อสร้าง แบบเทคอนกรีต พื้น ผนัง ท้องคาน ข้างคาน พื้น และตอม่อ ด้วยผิวไม้อัดฟิล์มดำมีความเรียบเนียน เมื่อคอนกรีตเซ็ตตัวแล้วผิวจึงมีความเรียบเนียนตามไปด้วย ทั้งนี้ฟิล์มดำยังช่วยให้คอนกรีตไม่ยึดติดกับแผ่นไม้ ทำให้ถอดแบบออกมาได้สะดวกกว่าไม้ชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ตัวไม้ยังสามารถนำไปตัดเป็นชั้นวางของ ชั้นวางสินค้าได้ และที่พักชั่วคราวในไซต์ก่อสร้างได้ เนื่องจากไม้สามารถรับน้ำหนักได้ในระดับหนึ่ง

สามารถนำมาใช้ซ้ำได้มากถึง 8 ครั้ง

ไม้อัดฟิล์มดำสามารถใช้เป็นไม้แบบซ้ำได้หลายครั้ง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความหนาของไม้ ดังนี้
ไม้หนา 10 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้ 2 ครั้ง

ไม้หนา 15 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้ 4 ครั้ง

ไม้หนา 18 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้ 5 ครั้ง

ไม้หนา 20 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้ 6 ครั้ง

ไม้หนา 25 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้ 8 ครั้ง

ซึ่งการใช้งานไม้ซ้ำแบบนี้ ช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้างในโครงการระยะยาวได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ควรตรวจสอบไม้ทุกๆ ครั้ง ในการใช้งาน เพราะลักษณะการใช้งานในแต่ละประเภทโครงการที่หนักเบาแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ไม้เสื่อมสภาพลงกว่าตามที่กำหนดได้

วิธีใช้งานไม้อัดฟิล์มดำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

1.ก่อนใช้งานไม้อัดเคลือบฟิล์มดำ ควรใช้ผ้าเช็ด หรือขัดดด้วยน้ำสะอาด ให้เรียบร้อย เนื่องจากอาจจะมีเศษฝุ่น เศษดิน เศษปูน ซึ่งจะมีผลต่อการความเรียบเนียนเมื่อนำไปใช้ในการหล่อแบบคอนกรีต รวมไปถึงเมื่อใช้งานเสร็จแล้วควรทำความสะอาดอีกครั้งก่อนจะเก็บรักษา อย่างไรก็ตามการทำความสะอาดควรหลีกเลี่ยงแปรงที่มีความคม ซึ่งอาจจะทำให้ฟิล์มเสียหายได้

  1. เมื่อมีการตัด หรือ เจาะไม้ ควรใช้สีกันน้ำ ทาสีกันน้ำบริเวณขอบที่ตัดหรือเจาะ 2-3 รอบ เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าไป และยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น หากเจาะรูไม้ไปแล้ว แล้วรูนั้นไม่ได้ถูกใช้งานให้อุดรูไม้ด้วยเศษไม้ หรือกาว
  2. ในการใช้ไม้อัดเคลือบฟิล์มดำควรใช้ 2 หน้าสลับกันไป เพื่อเป็นการลดแรงเค้นของผิวไม้ในด้านที่เพิ่งใช้งานเสร็จ
  3. ควรเก็บรักษาไม้ไว้ในที่ร่ม และควรวางไม้ซ้อนกันเป็นคู่ เช่นหน้า-หน้า หรือ หลัง-หลัง ซึ่งในพื้นที่เก็บไม้ ต้องทำให้แห้งอยู่เสมอ แต่ถ้าหากวางไว้ในที่กลางแจ้ง ควรมีผ้ายางคลุมไว้ เพื่อเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
  4. หากพบว่ามีร่องรอยชำรุด ควรซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อนเก็บรักษา

สำหรับผู้รับเหมาหรือสถาปนิกที่กำลังออกแบบ ก่อสร้างอาคารอยู่ การใช้ไม้อัดฟิล์มดำมาทำเป็นไม้แบบ ก็ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องความเรียบเนียน ความคงทน ราคาถูก ปลอดภัย และยังสามมารถใช้งานซ้ำได้อีกด้วย ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลา ทุนทรัพย์ และทรัพยากรให้กับโลกของเราได้อีกทางหนึ่งด้วย หากสนใจไม้อัดฟิล์มดำ ก็สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://www.thaimetallic.com/ หรือ https://www.thaiplywood.net/

More MATERIALS

Discover more from Materials Room

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading