ตลาดสี่มุมเมืองกับตลาดไท เกี่ยวข้องกันอย่างไร ที่ไหนรายได้มากกว่ากัน ? (วิเคราะห์)

ถ้าพูดถึงตลาดสี่มุมเมืองและตลาดไท เชื่อว่าใคร ๆ รู้จักกันดีในฐานะตลาดกลางจำหน่ายผักและผลไม้ตลาดใหญ่ในย่านรังสิต

ตลาดไทอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

ส่วนตลาดสี่มุมเมือง อยู่ไม่ไกลจากเซียร์รังสิตมากนัก

และทั้ง 2 ตลาดยังมีระยะห่างกันเพียง 18-20 กิโลเมตรเท่านั้น

ทั้งระยะทางที่ใกล้กัน และตลาดกลางที่จำหน่ายสินค้าเหมือน ๆ กัน หลายคนอาจจะคิดว่า ตลาดไทและตลาดสี่มุมเมืองคือ คู่แข่งกัน

แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะทั้ง 2 ตลาดเป็นพี่น้องกัน

ตลาดสี่มุมเมืองกับตลาดไท เป็นตลาดของตระกูลภัทรประสิทธิ์ ซึ่งถือเป็นตระกูลหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ หลากหลายรูปแบบ ผ่านการลงทุนผ่านบริษัท โฮลดิ้ง ที่ชื่อว่า วินเวสต์เม้นท์

ตลาดสี่มุมเมือง เป็นตลาดที่เกิดขึ้นมาก่อนตลาดไท มีประพันธ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นหัวเรือใหญ่ บริหารตลาดภายใต้บริษัท ดอนเมืองพัฒนา จำกัด

ตลาดสี่มุมเมืองเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2526 จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 รัฐบาลกำหนดให้มีตลาดกลางสำหรับสินค้าเกษตร วัตถุประสงค์หลักคือตัดพ่อค้าคนกลาง ให้เกษตรกรได้พบกับผู้ซื้อโดยตรง และให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการภายใต้การสนับสนุนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์

ปัจจุบันตลาดสี่มุมเมืองมีพื้นที่ตลาด 453 ไร่ แบ่งตลาดออกเป็น 16 ตลาดย่อย มีแผงขายรวม 1,800 แผง เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง และมีทายาทรุ่นที่ 2 ของประพันธ์ ภัทรประสิทธิ์ เข้ามาร่วมบริหาร

การเข้ามาบริหารตลาดของทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูลภัทรประสิทธิ์ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับตลาดสี่มุมเมืองในรูปแบบใหม่ ๆ ด้วยการนำเทคโนโลยี และอินไซด์เข้ามาขยายธุรกิจ เช่น ในช่วงโควิด-19 ที่ประชาชนกักตัวอยู่บ้าน ตลาดสี่มุมเมืองวางตัวเองเป็นศูนย์กลางข้อมูลรถพุ่มพวง ที่ระบุหมายเลขรถ เส้นทาง และเวลาการเดินรถของรถพุ่มพวงทั้ง 800 คันที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอาหารสดผ่านรถพุ่มพวงได้ดียิ่งขึ้น

รวมถึงริเริ่มโครงการตลาดสี่มุมเมืองออนไลน์เพื่อจำหน่ายผักผลไม้สดผ่านช่องทางออนไลน์ในอนาคต

ในแต่ละวันตลาดสี่มุมเมืองจะมีรถชาวไร่ชาวสวนมากกว่า 1,500 คัน เข้ามาจำหน่ายผักและผลไม้ในตลาดหมุนเวียนมากถึง 7,800 ตันต่อวัน และมีรถของลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาซื้อสินค้าในตลาดเฉลี่ยวันละ 8,000 คัน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในตลาดเฉลี่ย 300 ล้านบาทต่อวัน  

โดยรายได้หลักของตลาดสี่มุมเมืองมาจากรายได้ค่าเช่าแผง ค่าเช่าพื้นที่ห้องเย็นเก็บผักผลไม้ และอื่น ๆ

ในปีที่ผ่านมาตลาดสี่มุมเมืองมีรายได้ 1,174.69 ล้านบาท กำไร 326.29 ล้านบาท และเป็นรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี

ตลาดสี่มุมเมืองรายได้เท่าไร

2560       875.50 ล้านบาท   กำไร 352.93 ล้านบาท

2561       915.09 ล้านบาท   กำไร 378.08 ล้านบาท

2562       1,174.69 ล้านบาท กำไร 326.29 ล้านบาท

 

ส่วนตลาดไท เป็นตลาดที่เปิดขึ้นในปี 2540 บริหารจัดการโดย บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งของตระกูล ภัทรประสิทธิ์  มีประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นหัวเรือใหญ่ในช่วงบุกเบิก

โดยปัจจุบันตลาดไทเป็นตลาดที่บริหารผ่านนักบริหารมืออาชีพ อย่างธีรนันท์ ศรีหงส์ อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เป็นประธานกรรมการบริษัท

ตลาดไท เป็นตลาดกลางขนาดใหญ่ บนพื้นที่ 542 ไร่ ประกอบด้วยตลาดย่อยถึง 21 ตลาด ทั้งตลาดผัก ผลไม้ อาหารสด และดอกไม้ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ในแต่ละวันมีรถผักผลไม้ และสินค้าเกษตรเข้ามาหมุนเวียนในตลาด 25,000 คัน เพื่อจำหน่ายผักผลไม้สดรวม 12,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าเงินหมุนเวียนในตลาดเฉลี่ยวันละ 500-600 ล้านบาท และมีรถพุ่มพวงเข้าไปใช้บริการมากถึง 500 คันต่อวัน จากจุดขายหลักการเป็นตลาดที่ครบครัน และการทำโปรโมชั่นโปรโมตสินค้าในตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย และกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดเงินสะพัดในตลาดอยู่เสมอ

รวมถึงมีการพัฒนาบริการใหม่ ๆ เช่น บริการ ไว-ไฟ รายวันในตลาด และแอปพลิเคชันตลาดไทเพื่อเช็กราคาสินค้าและอื่น ๆ เพราะตลาดไทต้องการวางตัวเองเป็น Food Hub of Thailand

ในปีที่ผ่านมาตลาดไทมีรายได้หลัก 883.36 ล้านบาท กำไร 339.68 ล้านบาท โดยรายได้ของตลาดไทจะมาจากค่าเช่าแผง ค่าธรรมเนียมรถผักผลไม้ที่จะเข้าไปเปิดขายท้ายรถในตลาด เป็นต้น

ตลาดไทรายได้เท่าไร

2560       828.49 ล้านบาท กำไร 333.59 ล้านบาท           

2561       887.66 ล้านบาท   กำไร 360.69 ล้านบาท

2562       883.36 ล้านบาท   กำไร 339.68 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตลาดไทและตลาดสี่มุมเมืองเป็นตลาดพี่น้องกัน ที่มีทำเลที่ตั้งไม่ห่างกันมากนัก แม้หลายคนมองว่าเป็นการแย่งลูกค้ากันและกัน แต่การเปิดตลาดอยู่ใกล้กันนี้ คือหนึ่งในกลยุทธ์กันคู่แข่งรายอื่นที่ไม่ใช่ของตระกูล ภัทรประสิทธิ์ เข้าตลาด

เพราะในเมื่อตลาดกลางผักผลไม้ย่านรังสิต มีถึง 2 แห่ง จากตลาดกลางผักผลไม้ 23 แห่ง ทั่วประเทศ โอกาสที่คู่แข่งจะเข้ามาแข่งขันในตลาดก็ยากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะการทำตลาดจะประสบความสำเร็จได้ จะต้องมีทำเลขนาดใหญ่ เดินทางสะดวก ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนที่สูง

 

ประเทศไทยมีตลาดกลาง 100 แห่งทั่วประเทศไทย

แบ่งเป็น

ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ 71 แห่ง

ตลาดกลางผักผลไม้ 23 แห่ง

ตลาดสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์แปรสภาพจากสัตว์น้ำ 4 แห่ง

และตลาดกลางปลาสวยงามและสัตว์เลี้ยง 1 แห่ง

ที่มา: กรมการค้าภายใน, มิถุนายน 2563

 

และที่สำคัญตลาดต้องมีผู้ขายและผู้ซื้อ ในเมื่อผู้ขายมีตลาดให้ขายถึง 2 ตลาดใกล้กันแล้วโอกาสในการที่จะเข้าไปขายในตลาดใหม่อาจมีน้อยลงเพราะไม่แน่ใจว่าโอกาสในการขายมีมากแค่ไหน

ด้านผู้ซื้อก็เช่นกัน เมื่อตลาดที่เข้าไปซื้อมีสินค้าครบทุกความต้องการ ก็ไม่อยากจะไปซื้อที่อื่นที่ไม่แน่ใจว่าสินค้าจะมีครบแบบเบ็ดเสร็จหรือไม่

แต่ผลสุดท้ายเมื่อธุรกิจทั้ง 2 ตลาดไม่มีคู่แข่งอื่น นอกจากแข่งขันกันเอง และเมื่อรายได้จะเกิดจากตลาดแต่ก็เป็นของภัทรประสิทธิ์ทั้งหมด

 

 

Marketeer FYI

วินเวสต์เม้นท์ โฮลดิ้งของตระกูลภัทรประสิทธิ์

ตระกูลภัทรประสิทธิ์ ถือเป็นตระกูลหนึ่งที่มีชื่อเสียงในวงการอสังหาริมทรัพย์และพัฒนาที่ดิน

โดยการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ และพัฒนาที่ดินส่วนหนึ่งลงทุนในนามของ บริษัท โฮลดิ้งที่ชื่อว่า วินเวสต์เม้นท์ จดทะเบียนบริษัทในปี 2552

ที่ผ่านมา วินเวสต์เม้นท์ มีการลงทุนและร่วมทุนในธุรกิจอสังหาและพัฒนาที่ดินหลากหลายแบรนด์ โดยศูนย์การค้าเดอะมอลล์ โรงแรมเพนนินซูล่า และโรงแรมเมอเคียว เชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่วินเวสต์เม้นท์เข้าไปร่วมทุน

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online