Feature

มุมมองการตลาด : ลิเวอร์พูลได้อะไรบ้างจากการเซ็นสัญญานักเตะญี่ปุ่น | Main Stand

ตลาดแฟนบอลเอเชียถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสโมสรจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างที่ ชินจิ คางาวะ เคยแสดงให้เห็นแล้วว่าการที่นักเตะเอเชียคนหนึ่งได้มาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทีมนอกเหนือจากผลงานในสนามได้ขนาดไหน 

 

ลิเวอร์พูลมีแฟนบอลทั่วโลกกว่า 800 ล้านคน และฐานแฟนบอลกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในเอเชีย แต่พวกเขากลับไม่เคยมีนักเตะเอเชียค้าแข้งอยู่กับสโมสรเลย จนดีลหนึ่งเกิดขึ้นในตลาดหน้าหนาวฤดูกาล 2019-20 การเข้ามาของ ทาคุมิ มินามิโนะ สร้างปรากฏการณ์และความเปลี่ยนแปลงให้กับฐานแฟนบอลลิเวอร์พูลในญี่ปุ่น และเอเชีย นอกจากนี้ในฤดูกาล 2023-24 ลิเวอร์พูล ยังได้เซ็น วาตารุ เอ็นโด กองกลางชาวญี่ปุ่นมาเพิ่มอีก 1 ราย ส่วนทีมหญิงก็ยังมี ฟูกะ นากาโนะ นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นด้วย

แต่นอกจากเรื่องผลงานในสนามแล้ว ลิเวอร์พูลได้อะไรอีกบ้าง จากการเซ็นสัญญากับสองนักเตะจากญี่ปุ่น ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันที่ Main Stand

 

ญี่ปุ่นเป็นชาติที่คลั่งไคล้ฟุตบอล

ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศกีฬาชั้นนำอันดับต้น ๆ ของโลก เพราะพวกเขาสามารถพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้ดีมาโดยตลอด และกีฬาฟุตบอลก็เป็นหนึ่งในนั้น

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เป็นรองเพียงแค่เบสบอล ที่เปรียบเสมือนกีฬาประจำชาติเท่านั้น ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับกีฬาในทุกระดับ ไม่ใช่แค่ในระดับอาชีพ แต่ฟุตบอลระดับนักเรียน ก็ได้รับความนิยมจากคอบอลทั่วทั้งญี่ปุ่น และเพราะญี่ปุ่นวางรากฐานฟุตบอลของเยาวชนไว้แน่นตั้งแต่ในระดับฟุตบอลโรงเรียน และศูนย์ฝึกเยาวชน ทำให้ฟุตบอลกลายเป็นหนึ่งในความฝันและความตั้งใจของเยาวชนญี่ปุ่น

ส่วนหนึ่งที่ฟุตบอลได้รับความนิยมอย่างมาก เราคงต้องย้อนกลับไปดูในรายละเอียดทางวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่นพยายามปลูกฝังให้เยาวชนในประเทศมีความรักต่อกีฬา ผ่านสื่อที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย เช่น รายการทีวี ภาพยนตร์ และหนึ่งในผลผลิตทางวัฒนธรรมที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น คือ มังงะ หรืออนิเมะ มีหลายเรื่องที่เกี่ยวกับฟุตบอล แต่มีเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ “กัปตันซึบาสะ” คิดว่าสายมังงะ และอนิเมะ คงคุ้นชื่อนี้เป็นอย่างดี เพราะเฟรนไชส์เรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้อย่างมหาศาล แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “กัปตันซึบาสะ” สามารถสร้างทัศนคติในเชิงบวกต่อกีฬาให้กับเยาวชนญี่ปุ่นได้

วงการฟุตบอลญี่ปุ่นเติบโตอย่างรวดเร็วจากระดับทวีป สู่ระดับโลก พวกเขามีนักเตะมากมายที่ได้ไปค้าแข้งอยู่ในยุโรป เช่น ชินจิ คางาวะ และ ชินจิ โอคาซากิ นักเตะดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มายะ โยชิดะ ที่เคยค้าแข้งกับเซาแธมป์ตัน หรือ ชุนซุเกะ นาคามูระ กับเซลติก ทีมดังจากสก็อตแลนด์

แต่หากจะมีสักหนึ่งคนที่เป็นระดับปรากฏการณ์คงหนีไม่พ้น ชินจิ คางาวะ กับการย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2012 เพราะถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในญี่ปุ่น และทำให้ ณ ช่วงเวลานั้น แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมจากลีกต่างประเทศที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น

เหตุผลที่ต้องใช้คำว่า ณ ช่วงเวลานั้น เพราะ จากการสำรวจวัฒนธรรมการเชียร์บอลของคนญี่ปุ่น สามารถตอบแนวคิดชาตินิยมได้เป็นอย่างดี เพราะแฟนบอลส่วนใหญ่เชียร์ที่ตัวบุคคล มากกว่าเชียร์ทีมฟุตบอล คือ ทีมที่จะได้รับความนิยมในญี่ปุ่นต้องเป็นทีมที่มีนักเตะญี่ปุ่นค้าแข้งอยู่ เหล่าแฟนบอลจึงจะแห่กันไปเชียร์ทีมนั้น และหลังจากที่นักเตะชาวญี่ปุ่นของพวกเขาย้ายออกไป ความนิยมของทีมนั้นก็จะลดลง แต่ก็มีแฟนบอลอีกจำนวนไม่น้อยทีมชื่นชอบสโมสรนั้นจริง ๆ โดยไม่ได้สนว่าจะมีนักเตะญี่ปุ่นไปค้าแข้งอยู่หรือไม่

ด้วยเหตุผลนี้ทำให้หลังจากที่ ชินจิ คางาวะ ย้ายกลับดอร์ทมุนด์ไป ความนิยมของแมนฯ ยูไนเต็ด ในญี่ปุ่นจึงลดลง กลายเป็นอีกสองทีมจากพรีเมียร์ลีก อย่าง ลิเวอร์พูล และเชลซี ที่แย่งชิงที่หนึ่งกันแทน ส่วนสโมสรจากเยอรมัน นอกจากจะได้นักเตะกลับไปเล่นให้กับทีมแล้ว ชินจิ คางาวะ ยังกลับมาพร้อมกับการสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับดอร์ทมุนด์ จากยอดขายเสื้อ 5,000 ตัวภายในวันเดียว

 

ลิเวอร์พูลกับการเจาะตลาดแฟนบอลญี่ปุ่น

ลิเวอร์พูลเริ่มเป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นเมื่อประมาณปี 1981 จากการได้เห็นเหล่าแข้งหงส์แดง ภายใต้การคุมทีมของบ็อบ เพสลีย์ ลงฟาดแข้งในรายการชิงแชมป์สโมสรโลก ที่โตเกียว พบกับ ฟลาเมงโก ทีมดังจากบราซิล แม้ในนัดนั้นลิเวอร์พูลจะเป็นฝ่ายปราชัยไป แต่การได้ไปปรากฎตัวในญี่ปุ่นครั้งนั้น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของลิเวอร์พูลและแฟนบอลญี่ปุ่น 

ในแง่ของการเจาะตลาดฟุตบอลญี่ปุ่น ทีมร่วมลีกอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด นำหน้า ลิเวอร์พูล อยู่หลายก้าว ด้วยเหตุผลที่พวกเขาเคยคว้าตัวนักเตะญี่ปุ่นมาร่วมทีม และชื่อเสียงที่โด่งดังของเหล่าอดีตนักเตะปีศาจแดง เช่น เดวิด เบ็คแฮม เวย์น รูนีย์ และ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ที่ครั้งหนึ่งเคยทรงอิทธิพลอย่างมากในวงการลูกหนัง ทำให้แม้แต่คนที่ไม่ได้ติดตามฟุตบอลก็รู้จักชื่อพวกเขา และแมนฯ ยูไนเต็ด 

ในขณะที่ลิเวอร์พูลเป็นที่รู้จักในวงแคบกว่า มักเป็นที่รู้จักแค่ในกลุ่มคนที่ติดตามดูฟุตบอลอังกฤษเท่านั้น แม้ลิเวอร์พูลจะมีฐานแฟนบอลทั่วโลกถึง 800 ล้านคน และส่วนใหญ่เป็นฐานแฟนบอลในเอเชีย แต่ลิเวอร์พูลไม่เคยมีนักเตะเอเชียมาค้าแข้งกับสโมสรเลย ลิเวอร์พูลจึงเชื่อว่าพวกเขาสามารถขยายฐานแฟนบอลออกไปได้อีก โดยเฉพาะในแถบเอเชีย

“ฐานแฟนคลับมากกว่าครึ่งหนึ่งของเราอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรา” บิลลี่ โฮแกน กรรมการผู้จัดการของลิเวอร์พูล กล่าว 

และแล้วในตลาดหน้าหนาว ปี 2020 ลิเวอร์พูลได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวนักเตะชาวญี่ปุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเซ็นสัญญากับ ทาคุมิ มินามิโนะ จาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในราคา 7.25 ล้านปอนด์ เพื่อเข้ามาเป็นกำลังเสริมของทีมในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกของสโมสร

แน่นอนว่าในแง่ของความสามารถ ทักษะฟุตบอลและความเก่งกาจที่มินามิโนะมี เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาสามารถเอาชนะใจ เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของหงส์แดงได้ เพราะคล็อปป์ไม่ใช่คนที่จะยอมเซ็นสัญญากับนักเตะเพียงเพื่อเหตุผลทางการตลาด แต่นักเตะคนนั้นต้องเป็นที่ต้องการของเขาจริง ๆ และเขามั่นใจว่าจะเข้ากับระบบของลิเวอร์พูลได้

เยอร์เก้น คล็อปป์ เน้นย้ำเป็นพิเศษเรื่องการมาถึงของมินามิโนะ “ผมค่อนข้างแน่ใจว่า ณ ตอนนี้ เราได้ครอบครัวลิเวอร์พูลในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และผมมีความยินดีอย่างยิ่ง นับเป็นความพิเศษของสโมสรที่ได้เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม”

ยูมิโกะ ทามารุ เลขานุการของ Liverpool Supporters Club Japan กล่าวกับ bbc ว่า “ฉันคิดว่าพวกเขาเซ็นสัญญากับทาคิ (มินามิโนะ) ด้วยเหตุผลทางฟุตบอลล้วน ๆ เรารู้ดีว่าคล็อปป์ไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่จะเซ็นสัญญากับนักเตะคนไหนก็ได้ นอกเสียจากว่านักเตะคนนั้นจะลงตัวกับระบบของเขาจริง ๆ และมันน่าเหลือเชื่อมากที่มีนักเตะญี่ปุ่นเล่นให้พวกเขา ฉันชื่นชมและเคารพเขา(มินามิโนะ) จริง ๆ”

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือหนึ่งในดีลที่ลิเวอร์พูลเคยประสบความสำเร็จจากการเซ็นสัญญากับนักเตะเพียงหนึ่งคนแล้วสามารถขยายฐานแฟนบอลได้ทั้งในประเทศบ้านเกิดของนักเตะ และระดับทวีป ด้วยเหตุผลเดียวกันกับมินามิโนะ พวกเขาคือนักเตะจากประเทศที่ส่งออกแข้งมายังยุโรปน้อย เพราะทวีปของพวกเขาห่างไกลจากยุโรปมาก นั่นเป็นเหตุผลให้นักเตะเพียงหนึ่งคน ทรงอิทธิพลต่อวงการฟุตบอลในดินแดนของพวกเขา

 

ผลประโยชน์ที่มากกว่าแค่ผลงานในสนาม

“ตลาดเอเชียเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสโมสรจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ” คีแรน แม็กไกวร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินฟุตบอล จากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล กล่าว “แฟนบอลและสื่อญี่ปุ่นต่างกระตือรือร้นกับพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างมาก และเมื่อใดก็ตามที่นักเตะญี่ปุ่นเซ็นสัญญากับสโมสรในพรีเมียร์ลีก ก็จะมีความสนใจเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ ดังที่ ชินจิ คางาวะ แสดงให้เห็นตอนเล่นให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด”

การเข้ามาของมินามิโนะสร้างประโยชน์ให้กับลิเวอร์พูลมากกว่าแค่เรื่องในสนาม เพราะนักเตะจากแดนอาทิตย์อุทัยรายนี้ยังทำให้ลิเวอร์พูลได้ประโยชน์จากการขยายฐานแฟนบอลในญี่ปุ่นและเอเชีย มูลค่าทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น และฐานความนิยมก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

จากการสำรวจของ J Sport สื่อกีฬาในประเทศญี่ปุ่น ลิเวอร์พูลมีกลุ่มผู้ติดตามจากญี่ปุ่นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้กลายเป็นทีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น หลังเซ็นสัญญากับ ทาคุมิ มินามิโนะ และพวกเขายังเชื่อว่าหากมินามิโนะโชว์ผลงานกับลิเวอร์พูลได้ดี ฐานแฟนคลับจะสามารถขยายได้อีก

“ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรที่มีเรื่องราว” ยูมิโกะ ทามารุ เลขานุการของ Liverpool Supporters Club Japan กล่าวกับ bbc “แน่นอนว่าการเซ็นสัญญาครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความนิมยมของลิเวอร์พูลในญี่ปุ่น แฟนบอลจำนวนมากเริ่มติดต่อเราเพื่อสอบถามว่าพวกเขาจะหาตั๋วชมการแข่งขันของลิเวอร์พูลได้จากไหน และอย่างที่เราได้เห็นที่แอนฟิลด์ แฟนบอลญี่ปุ่นเข้าชมเกมเพิ่มขึ้นเยอะมาก”

จากข้อมูลเชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสินค้ากีฬาระดับโลก ได้เปิดเผยว่าการเซ็นสัญญาครั้งสำคัญใด ๆ ก็ตาม จะทำให้สโมสรได้ประโยชน์ทางการค้ามหาศาล จากสินค้ากีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดบ้านเกิดของนักเตะ คือตลาดที่มีศักยภาพที่สุดสำหรับสโมสร

แดนนี่ ดาวน์ส ผู้จัดการทั่วไปของ Fanatics บริษัทผลิตสินค้ากีฬาระดับโลก กล่าวว่า “เราเห็นกระแสที่เกิดขึ้นในตอนที่แฟนบอลเริ่มติดตามผู้เล่นเฉพาะเจาะจงในสโมสรต่าง ๆ เช่น เมื่อ ฮาเมส โรดริเกซ เซ็นสัญญากับเรอัล มาดริด หลังฟุตบอลโลก 2014 ยอดขายออนไลน์ของเรอัล มาดริด ในโคลอมเบีย เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เช่นเดียวกับดีลของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เมื่อเขาย้ายมาร่วมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ยอดขายออนไลน์บน manutd.com เติบโตขึ้นอย่างมากในสวีเดน”

ลิเวอร์พูลสามารถขยายตลาด Nike ได้ในญี่ปุ่น เพราะช่วงเวลาที่มินามิโนะย้ายเข้ามาร่วมทีมในฤดูกาล 2019-20 เป็นช่วงท้ายของสัญญาระหว่าง ลิเวอร์พูล และ New Balance ส่วนในฤดูกาล 2020-21 ลิเวอร์พูลได้เปลี่ยนไปใช้ชุดแข่งของ Nike ด้วยเหตุผลที่ลิเวอร์พูลเพิ่งเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ จากชาติที่พวกเขาไม่เคยมีนักเตะร่วมทีมมาก่อน ทำให้ลิเวอร์พูลสามารถขยายตลาดของผู้สนับสนุน และสร้างเม็ดเงินเพิ่มได้มหาศาลในตลาดบ้านเกิดของนักเตะ เช่นเดียวกับ Standard Chartered สปอนเซอร์คาดอกของลิเวอร์พูล และ AXA ที่สามารถขยายตลาดในเอเชียได้

 

จาก ทาคุมิ มินามิโนะ สู่ วาตารุ เอ็นโด

ทาคุมิ มินามิโนะ กลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนที่ 3 ที่ได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม้ว่าผลงานส่วนตัวของเขาจะไม่ค่อยโดดเด่นนัก เพราะโอกาสลงสนามน้อย แต่ดีลนี้เพียงดีลเดียวทำให้ลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จทุกอย่าง พวกเขาสามารถขยายฐานแฟนคลับในเอเชียและญี่ปุ่นได้ สร้างรายได้มหาศาล และคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ในรอบ 30 ปี ก่อนที่มินามิโนะ จะย้ายออกไปจากทีมไปเมื่อฤดูกาล 2022-23 หลังจากที่ฤดูกาล 2021-22 เขามีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศทั้งสองรายการมาได้ครองสำเร็จ

หลังจากที่มินามิโนะ ย้ายออกจากทีมไป ถึงแม้ว่าช่วงเวลาของเขากับลิเวอร์พูลจะไม่ได้ยาวมากนัก เขาได้รับโอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกน้อย แต่มักจะได้รับโอกาสในฟุตบอลถ้วย และทุกครั้งที่เขาได้รับโอกาสมักทำได้ดี แต่เนื่องจากขุมกำลังของลิเวอร์พูล ณ ตอนนั้น มินามิโนะ จึงไม่สามารถยึดตัวจริงได้ เขาจำเป็นต้องย้ายออกเพื่อโอกาสการลงเล่นของตัวเอง แต่ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ปราศจากความเห็นแก่ตัว และทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของทีม  เขากลายเป็นที่รักของเหล่าเดอะ ค็อป ทั่วโลก ไม่เพียงแค่เดอะ ค็อป ฝั่งญี่ปุ่นเท่านั้น

เดินทางมาถึงฤดูกาล 2023-24 ลิเวอร์พูลเข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนถ่าย พวกเขาสูญเสียผู้เล่นในแดนกลางชุดที่พาทีมประสบความสำเร็จไปเกือบหมด ทำให้ลิเวอร์พูลต้องเสริมทัพครั้งใหญ่ในตลาดซัมเมอร์ พวกเขาคว้าตัวกองกลางดีกรีแชมป์โลก อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กองกลางดาวรุ่งชาวฮังกาเรียน โดมินิก โซโบสไล และกองกลางดาวรุ่งชาวดัตช์ ไรอัน กราเฟนแบร์ค เข้ามาร่วมทีม แต่ดีลที่สร้างเสียงฮือฮาที่สุดคือ ดีลของกองกลางชาวญี่ปุ่น วัย 30 กะรัต จากสตุ๊ตการ์ท ดูเหมือนว่ากุนซือชาวเยอรมันของลิเวอร์พูล จะติดใจอะไรบางอย่างในตัวนักเตะญี่ปุ่นเสียแล้ว

ช่วงแรกของวาตารุ เอ็นโด กับลิเวอร์พูล ไม่ได้ราบรื่นมากนัก เพราะการเข้ามาของเขานั้นเต็มไปด้วยคำถามของแฟนบอล ว่าทำไมสโมสรของพวกเขาถึงซื้อนักเตะอายุ 30 เข้ามาร่วมทีม แถมยังเป็นนักเตะเอเชียร่างเล็ก กับภาระในตำแหน่งกองกลางตัวรับที่ต้องแบกรับ กลายเป็นเครื่องหมายคำถามว่าดีลนี้จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว

แต่เอ็นโด ใช้เวลาเพียงไม่นานในการพิสูจน์ตัวเอง จนสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในแดนกลางได้ เขาสามารถเล่นฟุตบอลในระดับสูงตามที่แฟนบอลคาดหวังได้ แม้รูปร่างจะเล็กเมื่อเทียบกับนักฟุตบอลจากยุโรป แต่เขาทดแทนทุกอย่างได้ด้วยการเข้าสกัดที่แม่นยำ ความขยันในการวิ่งไล่บอล และความกล้าได้กล้าเสี่ยงในการเข้าแย่งบอล นี่อาจเป็นนิสัยของนักเตะที่ญี่ปุ่นที่ทำให้เยอร์เก้น คล็อปป์ ประทับใจ เพราะแม้ว่าสองผู้เล่นญี่ปุ่นของลิเวอร์พูล จะเล่นคนละตำแหน่งกัน แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกัน คือ ความขยัน มุ่งมั่น มีวินัย และอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของคนญี่ปุ่น

จากวันที่ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากับ ทาคูมิ มินามิโนะ เมื่อปี 2020 สู่การเซ็นสัญญากับ วาตารุ เอนโด ในปี 2023 แม้ช่วงเวลาจะห่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป นั่นคือ ความสนใจจากแฟนบอลญี่ปุ่น จากการเปิดเผยของฝ่ายดิจิทัลของสโมสรลิเวอร์พูล ระบุว่า 

“การเซ็นสัญญาล่าสุดของวาตารุ เอ็นโด ทำให้ความสนใจของลิเวอร์พูลในญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยมีปริมาณการเข้าชมช่องทางดิจิทัลจากแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา”

การเซ็นสัญญากับนักเตะญี่ปุ่นรายที่สองของลิเวอร์พูล ยังสะท้อนให้เห็นอยู่ว่าแฟนบอลญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับนักเตะของพวกเขา และพร้อมสนับสนุนไม่ว่าจะย้ายไปร่วมทีมไหน โดยเฉพาะกับลิเวอร์พูลที่เคยมีนักเตะญี่ปุ่นมาค้าแข้ง ทำให้ชื่อของทีมกลายเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในญี่ปุ่น และมีแฟนบอลอีกจำนวนไม่น้อยที่ลิเวอร์พูลได้กลายเป็นทีมโปรดของพวกเขา

ดังนั้นการที่ทีมเซ็นสัญญากับนักเตะญี่ปุ่นอีกครั้ง จึงเป็นการตอกย้ำในความรู้สึกของแฟนบอลว่านักเตะของพวกเขาเก่ง และเป็นที่ต้องการของทีมระดับโลก สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างลิเวอร์พูลและแฟนบอลญี่ปุ่นแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอีก

 

วิจัยและค้นคว้าอย่างเข้มข้น

ฝ่ายการตลาดและดิจิทัลของลิเวอร์พูลไม่ได้หยุดการพัฒนาไว้เพียงแค่นั้น พวกเขานำเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ มาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสโมสร โดยการนำข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการเข้าถึงช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของแฟนบอล มาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจฐานแฟนบอล และนำข้อมูลที่ได้มานี้ปรับปรุงแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งหมดของสโมสร เพื่อให้ตรงกับความต้องการของแฟนบอลมากที่สุด

ดรู คริสป์ รองประธานอาวุโสฝ่ายดิจิทัลของลิเวอร์พูล กล่าวว่า “สโมสรใช้เวลากว่า 3 ปีในการปรับปรุงแพลตฟอร์มทั้งหมด เพื่อทำความเข้าใจการมีส่วนร่วมออนไลน์ของแฟน ๆ ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ Liverpoolfc.com ความต้องการตั๋วของแฟนบอล หรือความต้องการสินค้ากีฬา นอกจากนี้เรายังเก็บข้อมูลไว้บนระบบคลาวด์ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว”

การทำงานโดยใช้ระบบคลาวด์ในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยให้สโมสรเข้าใจเส้นทางการมีส่วนร่วมของแฟนบอล ทำให้ฝ่ายการตลาดสามารถปรับแต่งโปรโมชั่นสินค้าของสโมสร และในเครือพันธมิตร ให้เหมาะสมกับความต้องการของแฟนบอลในแต่ละภูมิภาคได้

ด้วยจำนวนแฟนบอลกว่า 800 ล้านคน ลิเวอร์พูลจึงเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีแฟนบอลมากที่สุดในโลก และถึงแม้จะเป็นสโมสรจากยุโรป แต่ฐานแฟนบอลที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นลิเวอร์พูลจึงให้ความสำคัญกับความต้องการของแฟนที่กระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งมีความต้องการแตกต่างกัน

ดรู คริสป์ กล่าวเสริมอีกว่า “แฟนบอลบางประเทศเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง ในขณะที่บางประเทศมุ่งเน้นไปที่ทีม เราจึงจำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของแฟนบอลในแต่ละพื้นที่ และต้องทำงานด้วยความเร็ว มีประสิทธิภาพ เพื่อแฟน ๆ ของเรา”

ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์การเข้าถึงสื่อ และวัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลของแฟนบอลแต่ละประเทศ ช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถผลิตและวางจำหน่ายสินค้าให้ตรงกับความต้องการของเหล่าแฟนบอลได้ เช่น ในประเทศที่มุ่งเน้นไปที่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง สินค้าที่วางขายจะเป็นสินค้าของนักเตะรายบุคคล เจาะจงลงไปในนักเตะที่ได้รับความนิยมในประเทศนั้น หรือในตลาดบ้านเกิดของนักเตะอาจผลิตสินค้าเฉพาะที่ตอบรับกับวัฒนธรรมในพื้นที่นั้นมาวางจำหน่าย 

รวมทั้งในการขยายฐานแฟนบอลไปยังประเทศที่ให้ความสนใจในตัวนักเตะรายบุคคล แม้เหตุผลทางการตลาดจะไม่ใช่ส่วนสำคัญเพียงส่วนเดียวในการเซ็นสัญญานักเตะแต่ละครั้ง แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในการเซ็นสัญญาใหม่สามารถมอบผลประโยชน์ให้แก่สโมสรได้มากขนาดไหน

ฝ่ายการตลาดและดิจิทัลของลิเวอร์พูลกำลังพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตเราอาจได้เห็นดีลการซื้อขายที่สร้างเซอร์ไพรส์จากลิเวอร์พูลอีกครั้ง

 

แหล่งอ้างอิง :

https://thailand.liverpoolfc.com/news/thailand-news/379106-liverpool-fc-agree-deal-to-sign-takumi-minamino
https://tribuna.com/en/news/liverpoolfc-2020-03-05-japanese-fans-have-a-longstanding-devotion-to-liverpool-its-not-just-minamino-oneminute-e/
https://genuinesoccer.com/is-soccer-popular-in-japan/
https://www.liverpoolecho.co.uk/sport/football/transfer-news/takumi-minamino-liverpool-transfer-news-17407309
https://www.businessfirstonline.co.uk/after-5-your-lifestyle/most-popular-premier-league-clubs-in-asian-countries/
https://www.liverpool.com/liverpool-fc-news/features/takumi-minamino-liverpool-nike-japan-17452778
https://theathletic.com/1309203/2019/10/22/are-united-or-liverpool-winning-the-battle-for-asia/
https://www.bbc.com/sport/football/50986663
https://www.computerweekly.com/news/366553152/How-Liverpool-FC-is-tapping-cloud-and-data-analytics
https://sportsbet.io/blog/betting-trends/how-popular-is-football-in-japans-sports-world

Author

กมลธิชา จันทร์เอียด

หนูรู้สึกง่วงตลอดเวลา ยกเว้นตอนดู "ลิเวอร์พูล" ทีมรักของหนูลงแข่ง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

สุธินันท์ จันทร์มณี

นักศึกษาฝึกงาน เมน สแตนด์