เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้ชีวิตของคนมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น มำให้การติดต่อสื่อสารและการทำกิจกรรมหลายๆกิจกรรมสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากประโยชน์ในด้านต่างๆ ดังนี้
1.ด้านการศึกษา [A1]
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารด้านการบริหารด้านการศึกษา เช่น ระบบการลงทะเบียน และระบบการจัดตารางสอน นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มโอกาสทางด้านการศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอน เช่น
การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
ทำให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลหรือไม่สะดวกในการเดินทางสามารถได้รับการศึกษาเช่นเดียวกันกับผู้ที่อยู่ในเมือง
โทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการสอน
ช่วยให้บทเรียนมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้เกิดความเข้าใจได้ง่าย เช่น การแสดงสถานการณ์จำลอง ภาพเคลื่อนไหว เสียงประกอบ รวมถึงช่วยให้นักเรียนสามารถเตรียมตัวและทบทวนการเรียนไดด้วยตนเองเมื่อมีเวลาว่าง
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้) ในรายวิชาคอมพิวเตอร์ พัฒนาโดยนายกิตติภูมิ เรืองเสน
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับเพิ่มโอกาสทางการเรียนรู้ให้กับผู้พิการ
นวัตกรรมสื่อการสอนโปรแกรมประยุกต์ระบบมัลติมีเดียสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน
2.ด้านการแพทย์และสาธารณสุข [A2]
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้เริ่มตั้งแต่การทำทะเบียนคนไข้ การรักษาพยาบาลทั่วไป ตลอดจนการวินิจฉัยและรักษาโรคต่างๆได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังใช้ในห้องทดลอง การศึกษาและการวิจัยทางการแพทย์ งานศึกษาโมเลกุลสารเคมี สามารถค้นคว้าข้อมูลทางการแพทย์ รักษาคนไข้ด้วยระบบการรักษาทางไกลตลอดเวลาผ่านเครือข่ายการสื่อสาร เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า อีเอ็มไอสแกนเนอร์ (EMI scanner) ถูกนำมาถ่ายภาพสมองมนุษย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติในสมอง และต่อมาได้ถูกพัฒนาให้สามารถถ่ายภาพหน้าตัดได้ทั่วร่างกาย เรียกว่า ซีเอที (CAT - Computerized Axial Tomography scanner: CAT Scanner)
CAT Scanner
3.ด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม [A3]
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม เช่น การจัดทำระบบข้อมูลเพื่อการเกษตรและพยากรณ์ผลผลิตด้านการเกษตร นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรม การประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อใช้ทำงานบ้าน และหุ่นยนต์เพื่องานอุตสาหกรรมที่ต้องเสี่ยงภัยและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น โรงงานสารเคมี โรงผลิตและการจ่ายไฟฟ้า รวมถึงงานที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ ซึ่งเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีบทบาทอย่างมากในการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้า
4.ด้านการเงินการธนาคาร [A4]
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้ในด้านการเงินและการธนาคาร โดยใช้ช่วยด้านการบัญชี การฝากถอนเงิน โอนเงิน บริการสินเชื่อ และเปลี่ยนเงินตรา บริการข่าวสารธนาคาร การใช้คอมพิวเตอร์ด้านการเงินการธนาคารที่รู้จักและนิยมใช้กันทั่วไป เช่น บริการฝากถอนเงิน การโอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์
พร้อมเพย์ (Prompt Pay)
5.ด้านความมั่นคง [A5]
มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกันอย่างแพร่หลาย เช่น ใช้ในการควบคุมประสานงานวงจรสื่อสารทหาร การแปลรหัสลับในงานจารกรรมระหว่างประเทศ การส่งดาวเทียมและการคำนวณวิถีโคจรของจรวดไปสู่อวกาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติของประเทศไทยมีศูนย์ประมวลข่าวสาร มีระบบจัดทำทะเบียนปืน ทะเบียนประวัติอาชญากร ทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการสืบค้นข้อมูลเพื่อการสืบสวนคดีต่างๆ
จับคนร้ายด้วยเทคโนโลยี
6.ด้านการคมนาคม [A6]
มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในส่วนที่เกี่ยวกับการเดินทาง เช่น การเดินทางโดยรถไฟ มีการเชื่อมโยงข้อมูลการจองที่นั่งไปยังทุกสถานี ทำให้สะดวกต่อผู้โดยสาร การเช็คอินของสายการบิน ได้จัดทำเครื่องมือที่สะดวกต่อลูกค้า ในรูปแบบของการเช็คอินด้วยตนเอง
ระบบเช็คอินด้วยตู้อัตโนมัติ (Kiosk) ของสายการบิน Air Asia
7.ด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม [A7]
มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการออกแบบ หรือจำลองสภาววการณ์ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดิวไหว โดยการคำนวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง
โปรแกรมจำลองแผ่นดินไหว
8.ด้านการพาณิชย์ [A8]
องค์กรในภาคธุรกิจใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการบริหารจัดการ เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับองค์กรในการทำงาน ทำให้การประสานงานหรือการทำกิจกรรมต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานในองค์กรหรือระหว่างองค์กรเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ปรับปรุงการให้บริการกับลูกค้าทั่วไป สิ่งเหล่านี้นับเป็นการสร้างโอกาสความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับองค์กร
เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ (Lazada.co.th)