ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

อุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์


เพาเวอร์ซัพพลาย (Power Supply)
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกอุปกรณ์จะไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีกระแสไฟฟ้ายกเว้นจะมีแบตเตอรี่สำรองไฟ เช่น แบตเตอรี่ในเครื่องโน้ตบุ๊ก เป็นต้น เพาเวอร์ซัพพลายจะทำหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้

ชุดพัดลมและฮีตซิงก์ระบายความร้อน ( Heat sink, Fan)

ชุดพัดลมและฮีตซิงก์ระบายความร้อน จะใช้ติดตั้งบนตัวซีพียู เพื่อช่วยระบายความร้อนจากซีพียูคอมพิวเตอร์รุ้นใหม่ส่วนมากจะติดตั้งฮีตวิงก์มาพร้อมซีพียู หรือจะซื้อแยกต่างหากก็ได้ การเลือกซื้อควรดูซีพียูที่ใช้ว่าเป็นรุ่นไหน ความเร็วเท่าไหร่ เพื่อที่จะเลือกพัดลมให้เหมาะสมโดยพัดลมจะมีความเร็วในการหมุน หากมีความเร็วรอบสูงๆ จะช่วยให้การระบายความร้อนทำได้ดี แต่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนขณะเครื่องทำงานได้

การ์ดเสียงเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์แสดงผลในรูปแบบเสียงได้ต้องมีลำโพงเป็นสื่อในการแสดงผล รูปแบบแสดงผลได้แก่ เพลง หนังเกมส์คอมพิวเตอร์ บันทึกเสียงเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้ เมนบอร์ดส่วนใหญ่จะเป็นชนิด Onboard ซึ่งได้ติดตั้งการ์ดเสียงไว้บนเมนบอร์ด (Sound on Board) ถ้าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีกว่าควรติดตั้งการ์ดเสียง สำหรับการ์ดเสียงที่ได้รับความนิยมก็เช่น Creative SoundBlaster Live, Audigy เป็นต้น


BIOS (Basic Input Output)
เป็น CHIP IC ชนิดหนึ่งที่อยู่บนเมนบอร์ด ภายในจะมีโปรแกรมที่ใช้ตรวจสอบค้นหาอุปกรณ์ประเภทฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอมซีดีไดรฟ์ ที่ติดตั้งเข้าไป ทุกคนที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์โปรแกรมที่อยู่ในไบออสจะเริ่มตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น การทำงานของ เมนบอร์ด ฮาร์ดดิสก์ แรม การ์ดจอ คีย์บอร์ด ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า Power on Self-Test (Post) ในกรณีที่มีอุปกรณ์เสียหรือผิดปกติก็จะรายงานให้ทราบ นอกจากนี้ไบออสยังมีคำสั่งสั่งให้เครื่อคอมพิวเตอร์บูตเข้าสู่วินโดวส์ หรือระบบปฏิบัติการอื่นที่ติดตั้งเอาไว้ด้วย ในรูปเป็นไบออสของ AIM ไบออสมีหลายยี่ห้อด้วยกัน เช่น AWARD, PHOENIX, COMPAQ,IBM ซึ่งจะมีความแตกต่างกันบ้างในเครื่องของวิธีการเข้าไปตั้งค่าการทำงานของไบออสรวมทั้งรูปแบบเมนูของไบออส ส่วนเมนบอร์ดที่ใช้จะมีไบออสยี่ห้อไหน และตำแหน่งติดตั้งอยู่ที่ไหนบนเมนบอร์ดสามารถอ่านเพิ่งเติมได้จากคู่มือของเมนบอร์ด





แบตเตอรี่แบ๊คอัพ (CMOS Battery)
แบตเตอรี่แบ๊คอัพเบอร์ CR2032 เป็นแบตเตอรี่ที่จ่ายกระแสไฟกับ CMOS เพื่อเก็บข้อมูลในไบออส เช่น ฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอม วันเวลา ถ้าหาแบตเตอรี่หมดอายุจะทำให้ข้อมูลในไบออสหายไป ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถ ตรวจสอบได้ว่ามีฮาร์ดดิสก์ มีซีดีรอมต่อพ่วงอยู่หรือเปล่า ทำให้คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานได้ แบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานประมาณสองหรือสามปี หากต้องการเปลี่ยนก็หาซื้อได้ตามร้านนาฬิกาหรือร้านถ่ยรูป





 CPU Socket
ใช้สำหรับติดตั้งซีพียูเข้ากับเมนบอร์ด เมนบอร์ดที่ใช้กับซีพียูของอินเทลคือ Pentium 4 และ Canceler จะเรียกซอคเก็ตSOCKET 478 ส่วนเมนบอร์ดสำหรับซีพียู AMD นั้นจะมีซ็อคเก็ตแบบ SOCKET 462 หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า SOCKET A จุดสังเกตว่าเมนบอร์ดเป็นซ็อคเก็ตแบบใดนั้นก็ดูจากชื่อที่พิมพ์ไว้บนช็อคเก็ต ส่วนความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งก็คือรอยมาร์คที่มุมของซ็อคเก็ต ถ้าเป็นซ็อคเก็ต 478 จะมีรอยมาร์คอยุ่ที่มุมหนึ่งด้าน ส่วนซ็อคเก็ต 462 จะมีรอยมาร์คที่มุมสองด้าน โดยรอยมาร์คจะตรงกับตำแหน่งของซีพียู เพื่อให้ติดตั้งซีพียูเข้ากับซ็อคเก็ตได้อย่างถูกต้อง






ขั้วต่อสายไฟ ( ATX Power Connector)
ขั้วต่อสายไฟจากเพาเวอร์ซัพพลายเข้ากับเมนบอร์ด ซึ่งเป็นขั้วต่อแบบ ATX โดยที่เพาเวอร์ซัพพลายจะมีสายไฟหนึ่งชุดเอาไว้ต่อเข้ากับเมนบอร์ด และด้านหนึ่งของขั้วต่อจะมีสลักล็อกสายไฟ ป้องกันไม่ให้สายไฟหลุดจากเมนบอร์ดได้ง่าย



 คอนเน็คเตอร์
คอนเน็คเตอร์สำหรับต่อสายแพเข้ากับ Disk Drive ซึ่งเมนบอร์ดจะมีคอนเน็คเตอร์ไว้ให้หนึ่งช่อง ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วยใหญ่จะติดตั้งดิสก์ไดรฟ์เท่านั้น จุดสังเกตก็คือจะมีข้อความว่า FLOPPY หรือเมนบอร์ดบางรุ่นจะเป็ตัวย่อว่า FDD พิมพ์กำกับอยู่ ส่วนที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือที่ช่องคอนเน็คเตอร์จะมี Pin หรือเข็มอยู่ 33 อัน โดยด้านหนึ่งจะมีคำว่า PIN 1 พิมพ์กำกับอยู่ด้วย เมื่อต้องการต่อสายแพเข้ากับคอนเน็เตอร์จะต้องเอาด้านที่มีสีแดงหรือสีน้ำเงินมาไว้ที่ตำแหน่ง PIN 1



IDE Connector
เป็นคอนเน็คเตอร์ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อสายแพกับฮาร์ดดิสก์แบบ IDE รวมถึงอุปกรณ์จำพวกไดรฟ์อ่านเขียนข้อมูล เช่น ซีดีรอม ดีวีดี ซิพไดรฟ์ โดยเมนบอรืดจะมีคอนเน็คเตอร์ IDE อยู่สองชุดด้วยกัน เรียกว่า IDE 1 กับ IDE 2 แต่ละคอนเน็คเตอร์จะรองรับอุปกรณ์ได้สองชิ้น ซึ่งหมายถึงจะต่อฮาร์ดดิสก์รวมทั้งซีดีรอมได้สูงสุดแค่สี่ตัว โดยอาจจะเป็นฮาร์ดดิสืกสองตัวกับไดรฟ์ CD-RW และไดรฟ์ DVD อีกอย่างละหนึ่ง เช่นเดียวกับ FDD Connector ก็คือจะมีตัวอักษรพิมพ์กำกับว่าด้านใดคือ PIN 1 เพื่อให้ต่อสายแพเข้าไปอย่างถูกต้อง แต่ IDE Connector จะมีจำนวนพินมากกว่าคือ 39 พิน






PCI Slots (Peripherals component interconnect)
สล็อตพีซีไอ เป็นช่องที่เอาไว้สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ติดตั้งการ์ด SCSI การ์ดเสียง การ์ดเน็ตเวิร์ค โมเด็มแบบ Internal เมนบอร์ดโดยส่วนใหญ่จะมีสล็อตพีซีไอเป็นสีขาวครีม แต่ก็มีเมนบอร์ดรุ่นใหม่บางรุ่นที่เพิ่มสล็อคพีซีไอโดยใช้สีแตกต่าง เช่น สีน้ำเงิน เพื่อใช้ติดตั้งการ์ดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสล็อตแบบพีซีไอนั้นถูกออกแบบมาแทนสล็อตแบบ VL ซึ่งทำงานได้ช้าการติดตั้งอุปกรณ์ทำได้ยาก เนื่องจากต้องเซ็ตจัมเปอร์ แต่พีซีไอนั้นจะเป็นระบบ Plug and play ที่ติดตั้งอุปกรณ์ได้ง่ายกว่าอุปกรณ์บางอย่าง เช่น การ์ดเสียง เมื่อติดตั้งแล้วโอเอสจะรู้จักทันทีหรือเพียงแค่ลงไดรเวอร์เพิ่มเติมเท่านั้น อนึ่ง
สล็อตแบบพีซีไอนั้นเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า PCI Bus ซึ่งหมายถึงเส้นทางที่ใช้ในการรับส่งข้อมูลระหว่างเมนบอร์ดกับอุปกรณ์ต่อพ่วง โดยบัสแบบพีซีไอจะทำงานในระบบ 32 บิต






RAM Sockets
เป็นช่องที่ใช้สำหรับติดตั้งแรมเข้าไป เมนบอร์ดแต่ละรุ่นจะมีช่องสำหรับติดตั้งแรมไม่เท่ากัน บางรุ่นอาจจะมีแค่สอง บางรุ่นมีสาม บางรุ่นมีสี่ จำนวนช่องถ้ามีเยอะก็จะทำให้เพิ่มแรมได้มากขึ้น ซ็อคเก็ตที่ใช้ติดตั้งแรมยังแบ่งออกตามชนิดของแรมด้วย ถ้าเป็นเมนบอร์ดที่ใช้แรมแบบ DDR จะมีรอยมาร์คอยู่ตรงกลางหนึ่งช่อง ซึ่งจะตรงกับตำแหน่งรอยมาร์คที่แรม





System Panel Connector
จากรูปจะสังเกตเห็นกลุ่มเข็มที่โผล่ออกมาเหมือนเสาเข็ม สำหรับ System panel นั้นเป็นจุดที่ใช้ต่อสายสวิตช์ปิดเปิดเครื่อง (Power Switch) สายไฟปุ่นรีเซต (Reset Switch) ไฟแสดงการทำงานของฮาร์ดดิสก์ (HDD LED) ลำโพงภายในตัวเครื่อง (Speaker) และสวิตซ์ล็อกการทำงานของคีย์บอร์ด (Keyboard Lock) โดยสวิตซ์หรือสายไฟหลาวนี้จะติดอยู่กับเคสเครื่องคอมพิวเตอร์ถ้าไม่ต่อสายไฟจากเคสเข้ากับ System panel สวิตซ์เปิดเครื่องหรือไฟแสดงการทำงานของฮาร์ดดิสก์ก้จะไม่ติด






PS/2 Mouse, PS/2Keyboard Port
เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับต่อสายเมาส์กับสายคีย์บอร์ดเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเรียกว่าพีเอสทูเมาส์หรือพีเอสทูคีย์บอร์ด ซึ่งพอร์ตจะมีรูกลมหกรู แล้วก็รูสี่เหลี่ยมหนึ่งรู ซึ่งปลายสายคีย์บอร์ดหรือเมาส์ก็จะมีเข็มที่ตรงกับตำแหน่งของรูที่พอร์ตด้วย การเสียบสายเมาส์และคีบอร์ดเข้าไปต้องระวังให้เข็มตรงกับรู สำหรับพอร์ตเมาส์และคีบอร์ดนั้นจะใช้ Color Key แสดงเอาไว้สีเขียวสายต่อเมาส์ สีน้ำเงินคือสายต่อคีย์บอร์ด นอกจากนี้ยังมีจุดสังเกตอีกประการหนึ่งคือเมื่อประกอบเมนบอร์ดเข้ากับเคส ที่เคสจะมีลักษณ์รูปเมาส์กับรูปคีย์บอร์ดติดอยุ่ เพื่อให้ต่อสายเมาส์และคีย์บอร์ดได้ถูกต้อง








USB Port (Universal Serial Bus)
พอร์ตสำหรับต่อพ่วงกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ตแบบยูเอสบี เช่น พรินเตอร์ สแกนเนอร์ กล้องดิจิตอล ซีดีรอมไดรฟ์ ซิพไดรฟ์ เป็นต้น เมนบอร์ดรุ่นใหม่จะมีพอร์ตยูเอสบีเพิ่มมาอีกเรียกว่าพอร์ต USB 2.0 ซึ่งรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าเดิม เมื่อต้องซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วง ควรตรวจสอบด้วยว่าอุปกรณ์นั้นเชื่อมต่อกับพอร์ตยูเอสบีรุ่นเก่า หรือว่าต้องใช้ร่วมกับพอร์ตยูเอสบี 2.0 เพื่อความมั่นใจว่าอุปกรณ์ที่ซื้อมานั้นจะทำงานได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ






Parallel Port
พอร์ตพาราลเลล เป็นพอร์ตแบบตัวเมียมีรู 25 รู สำหรับต่อสายพรินเตอร์หรือสแกนเนอร์ที่มีพอร์ตแบบพาราลเลล ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ต่อกับเครื่องพรินเตอร์มากกว่า บางคนจะเรียกว่าพรินเตอร์พอร์ต โดยส่วนใหญ่พอร์ตพาราลเลลจะมีกับเครื่องพรินเตอร์รุ่นเก่า หรือในเครื่องพรินเตอร์ระดับกลางๆ ขึ้นไป









 Serial Port
พอร์ตแบบตัวผู้ที่มีขาสัญญาณอยู่ 9 ขา เรียกว่าคอมพอร์ต (COM Port) เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับต่อโมเด็มเมาส์ หรือจอยสติ๊ก ปัจจุบันอุปกรณ์ที่ใช้พอร์ตนี้แทบไม่มีให้เห็น เนื่องจากหันไปใช้พอร์ตแบบ USB เป็นส่วนใหญ่








Video Port
พอร์ตสำหรับต่อสายสัญญาณภาพกับจอคอมพิวเตอร์ ลักษณะของพอร์ตจะเป็นพอร์ตแบบตัวเมียมีรู 15 รู สำหรับพอร์ตนี้จะมีอยู่เฉพาะในเมนบอร์ดรุ่นที่รวมเอาการ์ดแสดงผลเข้าไปกับเมนบอร์ดด้วย (VGA On board)





IEEE 1394 Port
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Fire Wire (บริษัท โซนี่เรียกว่า I-Link) เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งก็มีในเมนบอร์ดบางรุ่นพอร์ตนี้จะใช้สำหรับต่อพ่วงกับสแกนเนอร์ กล้องดิจิตอลระดับไฮเอนด์ กล้องดิจิตอลวีดีโอ ฮาร์ดดิสก์ที่มีพอร์ตแบบ Fire Wire โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ต่อกับดิจิตอลวีดีโอ เนื่องจากการที่สามารถควบคุมการทำงานของกล้องผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง






 Line in / Line out / Microphone jack
สำหรับเมนบอร์ดรุ่นใหม่ การ์ดเสียงจะถูกรวมเข้าไปกับเมนบอร์ดด้วย ที่เรียกกันว่า Sound on Board จุดสังเกตก็คือที่เมนบอร์ดจะมีช่องสำหรับต่อไมโครโฟน ลำโพง แล้วก็เครื่องเล่นเทป ทำให้ไม่ต้องซื้อการ์ดเสียงเพิ่ม อย่างไรก็ดี ถ้าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีกว่า หรือต้องการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์กับการทำดนตรีหรืองานตัดต่อวีดีโอ ควรติดตั้งการ์ดเสียงเพิ่ม
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น