New Cafés in Tokyo 2022 : 9 ร้านกาแฟเปิดใหม่ ปี 2022 ในโตเกียว

9 ร้านกาแฟ เปิดใหม่ ปี 2022 ในโตเกียว

คนเรามีหลายเหตุผลในการตัดสินใจไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยเลยที่มีความสุขไปกับการดมกลิ่นกาแฟท่ามกลางบรรยากาศที่เนรมิตออกมาจนรู้สึกว่าอยากนั่งอยู่ไปนานๆ หรือบางคนอาจจะนั่งเคลิ้มมองหน้าบาริสต้าก็มี สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เหล่านักเดินทางชาวไทยเลือกไปเที่ยวญี่ปุ่น รวมถึงปักหมุดคาเฟ่ที่ตัวเองสนใจลงไปในแพลนทริปด้วย เพื่อต้อนรับการเปิดประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งหลังการเดินทางข้ามประเทศช่างยุ่งยากในยุคโควิด-19 เราจึงรวมเอา ร้านกาแฟ ในกรุงโตเกียวที่เพิ่งเปิดใหม่ใน ค.ศ. 2022 ไปเที่ยวโตเกียวคราวหน้าจะได้ไม่ยม

01 JOE TALK COFFEE | SHIBUYA

ภาพ: www.joetalk-coffee.jp

ประเดิมร้านแรกกันในย่านเอบิสึ (Ebisu) เขตชิบูย่ากับ JOE TALK COFFEE ร้านกาแฟ สไตล์ลอฟท์ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2022 ด้วยทำเลที่อยู่หัวมุมติดคลอง ใครที่เดินผ่านเป็นต้องสะดุดตา โดยภายในร้านมีที่นั่งทั้งหมด 15 ที่นั่ง และมีม้านั่งด้านหน้าที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาชิลล์ด้วยได้ จึงมักจะเห็นคนญี่ปุ่นจูงน้องหมามานั่งจิบกาแฟตรงทางเข้าเป็นประจำ

ภาพ: Facebook Joe talk coffee

JOE TALK COFFEE ถือกำเนิดขึ้นจากการที่เจ้าของร้านสนิทสนมกับผู้ผลิตเมล็ดกาแฟและโรงคั่ว จึงอยากนำเสนอรสชาติของกาแฟที่เขาคั่วเองรวมถึงขนมโฮมเมดที่การันตีว่ารสชาติดีเข้ากับกาแฟเป็นอย่างยิ่ง ด้านในสุดของร้านมีเครื่องคั่วกาแฟขนาดใหญ่ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าที่นี่คั่วกาแฟเองทุกวัน

ภาพ: Facebook Joe talk coffee

กาแฟแนะนำประจำร้านชื่อเมนูว่า Original Blend Coffee (500 เยน) ส่งกลิ่นหอมๆ อันเป็นความภูมิใจของเจ้าของร้าน หรืออีกแก้วที่น่าลองก็คือ Pour Over (เริ่มต้น 600 เยน) ซึ่งจะเป็นกาแฟที่คั่วจากเมล็ดกาแฟพิเศษตามช่วงเวลานั้นๆ นอกจากเมนูกาแฟยังมีเครื่องดื่มอีกนิดหน่อย อาทิ Soy Milk Latte, Almond Milk Latte ฯลฯ 

ภาพ: Facebook Joe talk coffee

อีกซิกเนเจอร์ที่ทางร้านไม่อยากให้พลาดก็คือ Ginza Corridor Cannelé (ชิ้นละ 280 เยน) ขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสที่มีให้เลือก 2 รสชาติ ระหว่างรสเพลนหรือกาแฟ ซึ่งวิธีกินที่ทางร้านแนะนำคือให้จุ่มลงไปในแก้วกาแฟก่อนกัดคำแรก นอกจากนี้ทางร้านยังสนับสนุนสังคมไร้เงินสด โดยการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ บัตรเติมเงิน หรือบัตรเครดิตเท่านั้น ถือว่าเป็นการพลิกวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่นิยมใช้เงินสดเป็นหลัก

02 Lurf MUSEUM | SHIBUYA

ภาพ: lurfmuseum.art

ขยับจากร้านแรกมาไม่ไกลจะพบกับ Lurf MUSEUM อาคารที่เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ คาเฟ่ และร้านขายของ โดยเมื่อเดินเข้ามาในพื้นที่ชั้น 1 จะพบกับการตกแต่งร้านกาแฟย้อนยุคด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสไตล์เดนมาร์ก และเคาน์เตอร์ดริปกาแฟที่ดูหรูหราเข้ากับบรรยากาศของร้าน

ภาพ: lurfmuseum.art

บรรยากาศของร้านจะเรียกว่าเป็นมิวเซียมย่อมๆ ก็คงไม่ผิดนัก เพราะไม่ว่านั่งจากมุมไหนในร้านก็มองเห็นงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lurf MUSEUM ไม่ว่าใครที่มาครั้งแรกต่างต้องเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศที่ดูเรียบหรูแต่ไม่อึดอัดจนรู้สึกเกร็ง

ภาพ: Instagram @lurf_museum

เครื่องดื่มของที่นี่มีให้เลือกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Hot Tea / EARL GREY HIMALAYAN (850 เยน) ชาเอิร์ลเกรย์ที่ชงจากใบชาแบรนด์ Uf-fu มีรสชาติขององุ่นมัสคาเทลและหอมกลิ่นมะกรูด นอกจากนี้ยังมีเค้กหลากหลายชนิดที่สาวญี่ปุ่นรีวิวกันจริงจังว่ากินยันคำสุดท้ายเหลือเพียงใบไม้ที่ปักมาบนหน้าเค้ก

ภาพ: lurfmuseum.art

นอกจากนี้ยังมีโซนขายของที่ระลึกอยู่ติดกับคาเฟ่ ซึ่งจะแตกต่างกันตามช่วงเวลาที่ไปใช้บริการ เพราะของที่นำมาขายมักจะเป็นสินค้าของศิลปินที่จัดแสดงอยู่บนชั้น 2 ของอาคารในช่วงเวลานั้นนั่นเอง เรียกได้ว่ามีของลิมิเต็ดทั้งนั้นเลย

ภาพ: lurfmuseum.art

อย่างที่เกริ่นไปว่าชั้น 2 เป็นโซนสำหรับจัดแสดงผลงานของศิลปินที่เวียนไปเรื่อยๆ ทำให้ทุกครั้งที่กลับมาที่ร้านก็จะพบกับงานศิลปะที่ไม่จำเจ ที่สำคัญไม่เก็บค่าเข้าชมด้วย โดยสามารถเช็คศิลปินที่กำลังจัดแสดงผลงานในขณะนั้นอยู่ได้ทาง Instagram ของร้านเลย

03 Onden Coffee | SHIBUYA

ภาพ: onden-coffee.com

Onden Coffee ร้านกาแฟ โมเดิร์นในย่านโอโมเตะซันโด (Omotesando) ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2022 ออกแบบได้กลมกลืนไปกับบรรยากาศที่ดูหรูดูแพงของตึกรามบ้านช่องของแถบนี้ได้เป็นอย่างดี มีพื้นที่ให้ลูกค้าได้ใช้บริการทั้งโซนเอาท์ดอร์และอินดอร์ ช่วงที่อากาศไม่ค่อยร้อนลูกค้าจะนิยมนั่งอิ่มเอมไปกับบรรยากาศในโซนเอาท์ดอร์มากๆ อีกทั้งทางร้านอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงมาด้วยได้

ภาพ: onden-coffee.com

คอนเซ็ปต์ของ Onden Coffee คืออยากให้ลูกค้าได้ดื่มกาแฟคุณภาพโดยปล่อยเวลาให้ไหลไปอย่าช้าๆ ภายใต้พื้นที่อันเงียบสงบที่จะช่วยเติมพลังและเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการดำเนินชีวิต แม้เวลาร้านจะเปิดตั้งแต่เช้ายันดึก แต่จะแบ่งเมนูขาย 4 ช่วงเวลาในแต่ละวัน ได้แก่ Morning, Daytime, Evening และ Night

ภาพ: onden-coffee.com

เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านมีชื่อว่า Onden Blend (Single 450 เยน / Double 550 เยน) เครื่องดื่มสูตรออริจินอลที่ดึงเอารสชาติที่แท้จริงจากแหล่งเพาะปลูกเมล็ดกาแฟ นอกจากกาแฟดริปยังมีแบบมอคค่าหรือลาเต้อีกด้วย สามารถเลือกได้ทั้งแบบเย็นหรือร้อน สำหรับเครื่องดื่มมัทฉะเลือกใช้ชาจากเมืองอุจิ (Uji) จังหวัดเกียวโต นมเลือกใช้นมโคฮอกไกโด

ภาพ: onden-coffee.com

ส่วนเมนูกินคู่กาแฟที่ทางร้านแนะนำก็คือ Hot Sand (700 เยน) แซนด์วิชอบร้อนสูตรพิเศษของ Onden Coffee ที่มีให้เลือก 4 รสชาติอย่างเช่น คาเปรเซ่เบคอนตามสไตล์อิตาเลียน หรือไส้แปลกๆ ก็จะมีซาบะชีสซึ่งล้วนแต่เข้ากับกาแฟทั้งแบบเย็นหรือร้อน นอกจากนี้ยังมีแซนด์วิชไส้พิเศษที่จะทำออกมาลิมิเต็ดเฉพาะเทศกาลอีกด้วย

ภาพ: onden-coffee.com

ที่ตั้งก็ใกล้สถานีรถไฟ นั่งในบริเวณร้านก็สามารถเชื่อมต่อฟรี Wi-Fi บรรยากาศก็ดี ถ้าช็อปปิ้งในย่านฮาราจุกุหรือโอโมเตะซันโดจนเหนื่อย อยากนั่งจิบกาแฟพักเหนื่อยนานหน่อย ร้านนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีที่เดียว

04 haydEn tokyo | SUMIDA

ภาพ: www.artarchi-japan.art

ร้านนี้ตำนานคาเฟ่ลับในโตเกียว จริงๆ เริ่มกิจการมาหลายปีแล้ว แต่ร้านมากับคอนเซ็ปต์ที่แปลกไม่เหมือนใคร เพราะ haydEn tokyo มีสโลแกนว่า “ตั้งอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่งในโตเกียว” ซึ่งย้ายร้านครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2022 อีกทั้งหน้าร้านใหม่ไม่มีป้ายชื่อร้านชัดเจน เรียกได้ว่าแม้แต่ลูกค้าเก่าก็หาร้านแทบไม่เจอ

ภาพ: Instagram @hayden_tokyo

ตัวร้านมีขนาด 1 คูหาห้องแถว โดยยังใช้โครงสร้างเดิมของอาคารเป็นหลัก แต่จัดแจงโต๊ะให้มีระยะห่างระหว่างกันเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ในขณะเดียวกันก็เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของร้าน อย่างการเลือกใช้เก้าอี้ที่มีดีไซน์ต่างกันวางสลับกันไม่ให้รู้สึกเบื่อ โดยพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของร้านเป็นเคาน์เตอร์ชงกาแฟขนาดใหญ่ ด้านในสุดมีโต๊ะใหญ่สำหรับนั่งใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน

ภาพ: Instagram @hayden_tokyo

Drip Coffee (550 เยน) เลือกได้ทั้งแบบเย็นหรือร้อน เป็นเมนูดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่ก่อนย้ายร้าน ทำจากเมล็ดกาแฟ 2 ชนิดจากเอธิโอเปียและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มที่เพิ่มเข้ามาใหม่อย่างคราฟต์โคล่า (Craft Cola) ชาเปลือกกาแฟ (Cascara Tea) หรือแม้กระทั่งน้ำแอปเปิ้ลสำหรับคนที่ไม่ถูกกับคาเฟอีนก็มีให้เลือกสั่งเช่นกัน จะสั่งแบบเทคเอาท์มาเดินจิบไปพลาง ชมโตเกียวสกายทรีไปพลาง ก็ดีเหมือนกัน

ภาพ: Instagram @hayden_tokyo

สำหรับขนมอาจจะไม่ได้มีตัวเลือกให้มากนัก แต่ Waffle (350 เยน) ที่ทางร้านทำเองเป็นเมนูที่เรียกได้ว่าทุกโต๊ะต้องสั่ง เห็นว่ามีส่วนผสมเป็นรัมเลยส่งกลิ่นหอมฟุ้งเตะจมูกจนอดใจไม่ไหว อย่างไรก็ตามทาง haydEn tokyo วางแผนจะเพิ่มเมนูขนมหวานให้มากขึ้นต่อไป อย่างเมื่อไม่นานมานี้ก็มีพุดดิ้งนมเสริมทัพเข้ามาด้วย

ภาพ: Instagram @hayden_tokyo

โดยทางร้านไม่เปิดเผยที่ตั้งของร้าน ใครที่สนใจจะต้องเดินตามหาเอง เราก็ไม่อยากทำลายเจตนารมณ์ของทางร้านจึงขอไม่ลงแผนที่พิกัดร้าน แต่บอกใบ้ว่าอยู่ในเขตสุมิดะ (Sumida) ไม่ไกลจากโตเกียวสกายทรี เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบคาเฟ่ลับๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน แนะนำให้ลองเดินหาดูก่อน แต่ถ้ายอมแพ้สามารถเอาชื่อร้านไปเซิร์ชใน Google Maps ได้

05 UTAKATA COFFEE | SETAGAYA

ภาพ: Instagram @four_mini2

บริเวณถนนเงียบๆ ใกล้ย่านจิยูอาโอกะ (Jiyugaoka) เป็นที่ตั้งของ UTAKATA COFFEE คาเฟ่เล็กๆ ในโทนขรึมที่เปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2022 โดยรีโนเวทจากอาคารเก่าอายุ 52 ปี จากพื้นที่ว่างเปล่าให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยคาเฟอีน

ภาพ: Instagram @utakata_coffee

ด้านในร้านมีที่นั่งเคาน์เตอร์ซึ่งสามารถเพลิดเพลินไปกับลีลาการชงกาแฟของบาริสต้าได้ นอกจากนี้ถ้วยกาแฟและจานชามที่ทางร้านเลือกใช้ยังเป็นผลงานการออกแบบของศิลปินที่มีชื่อว่าอีโฮชิ ยูมิโกะ (Yumiko Iihoshi)

ภาพ: Instagram @utakata_coffee

ทางร้านเลือกใช้กาแฟแบรนด์ BREATH HIROSHIMA ซึ่งเป็นของพี่สาวเจ้าของร้าน ส่งตรงจากโรงคั่วจังหวัดฮิโรชิม่า ซึ่งสามารถซื้อได้ที่ร้านเช่นกัน สำหรับเมนูเครื่องดื่มนั้นมีกาแฟมาตรฐานครบทุกชนิด อย่าง Latte (580 เยน) นั้นในช่วงกลางวันจะเสิร์ฟในแก้วกาแฟอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีน้ำผลไม้อีกหลากหลายชนิดเช่นกัน

ภาพ: Instagram @utakata_coffee

ถึงจะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็มีขนมน่ากินหลายตัวอย่าง Pound Cake (450 เยน) เค้กปอนด์โฮมเมดที่เริ่มขายตั้งแต่เช้า เมื่อกินคู่กับกาแฟสามารถบาลานซ์รสหวานขมได้อย่างลงตัว

ภาพ: Instagram @utakata_coffee

สำหรับชื่อของร้านมี 2 ความหมาย อย่างแรกคือ “ฟองที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ” และอีกความหมายหนึ่งใช้ในการเปรียบเปรยถึง “สิ่งที่ไม่จีรัง สามารถสลายไปได้อย่างง่ายดาย” อันเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ร้านที่อยากให้ทุกคนตระหนักว่าชีวิตเราไม่ยั่งยืน เพราะฉะนั้นควรทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่างน้อยเมื่อดื่มกาแฟที่ UTAKATA COFFEE ก็จะทำให้วันนี้อารมณ์ดีขึ้นมาได้นั่นเอง

06 Raw Sugar Roast | SETAGAYA

ภาพ: Facebook Raw Sugar Roast

Raw Sugar Roast อีกหนึ่งคาเฟ่สไตล์วินเทจเปิดใหม่ในเขตเซตากายะ (Setagaya) ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2022 แต่เดิมเจ้าของร้านผู้คร่ำหวอดในวงการกาแฟเคยเปิดโรงคั่วกาแฟใกล้ๆ สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) แต่ล่าสุดก็ได้ย้ายเครื่องคั่วทั้งหมดมาไว้ที่นี่ด้วย เนื่องจากทำเลร้านค่อนข้างใกล้กับสถานีรถไฟจึงมีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ภาพ: Facebook Raw Sugar Roast

เฟอร์จิเนอร์ภายในร้านเน้นการใช้วัสดุไม้ที่ดูโดดออกมาจากพื้นผิวปูนเปลือยที่ไม่ถูกปรุงแต่ง ในขณะที่ร้านกาแฟใหม่ๆ ในโตเกียวส่วนใหญ่นิยมเปิดแบบร้านเล็กๆ ให้ซื้อกาแฟแบบกลับบ้าน ไม่มีพื้นที่ให้นั่งดื่มชิลล์ๆ แต่ Raw Sugar Roast กลับมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง มีโซฟาตัวเขื่องอยู่มุมร้านสำหรับคนที่อยากหย่อนตัวจมลงไปกับโซฟา เคาน์เตอร์ชงกาแฟก็อยู่ห่างจากโต๊ะลูกค้ามากทีเดียว

ภาพ: Facebook Raw Sugar Roast

Cold Brew Coffee (600 เยน) ของที่นี่เป็นกาแฟคั่วอ่อน (Light Roast) ซึ่งเด่นเรื่องรสเปรี้ยวคุณภาพเยี่ยม ซึ่งจะมอบหมายให้บาริสต้าเป็นผู้คัดเลือกเมล็ดกาแฟประจำวันมารังสรรค์เป็นกาแฟสกัดเย็น อาจจะสั่งช็อกโกแลตเทอร์รีน ฟอคคาเซีย บาสก์ชีสเค้ก หรือกานเลมากินคู่กันก็ดีเหมือนกัน

ภาพ: Facebook Raw Sugar Roast

ถ้าชอบดื่มกาแฟติดหวานหน่อย แนะนำให้ลอง Classic Espresso Iced (550 เยน) เอสเปรซโซ่ผสมนมจนมีรสหวานคล้ายช็อกโกแลตนม แต่ถ้าแพ้นมก็อาจสั่งเป็นแบบ Long Black ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีกาแฟอีกหลายชนิดจากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นโบลิเวีย โคลอมเบีย นิการากัว หรือเอธิโอเปีย รวมถึงมีน้ำผลไม้ที่ทำโดยใช้วัตถุดิบจากแหล่งขึ้นชื่อ อย่างน้ำส้มก็เลือกใช้ส้มจากจังหวัดเอฮิเมะ

ภาพ: Facebook Raw Sugar Roast

นอกจากนี้ที่ร้านยังมีมุมถ่ายรูปมากมาย มีเมล็ดกาแฟนำเข้าจากโคลอมเบียหลายชนิดวางจำหน่าย บนชั้น 2 ของร้านยังมีโซนแสดงชิ้นงานศิลปะซึ่งเป็นแบบนิทรรศการหมุนเวียน ก่อนกลับอย่าลืมไปเสพศิลปะกันสักนิด

07 KAPE TAYO TOKYO | MINATO

ภาพ: Facebook KAPE TAYO TOKYO

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2022 KAPE TAYO TOKYO ได้ถือกำเนิดขึ้นในย่านรปปงงิ (Roppongi) โดยยูทูบเบอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อว่า Fumiya ซึ่งถือได้ว่าเป็นคนญี่ปุ่นที่ดังที่สุดในฟิลิปปินส์ เพราะเขาได้ทำคลิปมากมายระหว่างที่เรียนอยู่ที่ฟิลิปปินส์ ส่งผลให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นการนำเอาวัฒนธรรมฟิลิปปินส์มาเผยแพร่ในมุมมองของคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่นั่นเอง

บรรยากาศภายใน KAPE TAYO TOKYO เป็นการจำลองย่านการค้าหรูในเมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจที่เจ้าของร้านอยากให้คนญี่ปุ่นได้สัมผัสเหมือนที่เขาเคยไปใช้ชีวิตมา สามารถรองรับลูกค้าพร้อมกันได้สูงสุด 19 คน

ภาพ: Facebook KAPE TAYO TOKYO

Iced Latte เครื่องดื่มขายดีอันดับหนึ่งของร้าน มีการคำนวณอัตราส่วนของนมและกาแฟอย่างละเอียดเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมที่สุด

ภาพ: Facebook KAPE TAYO TOKYO

นอกจากเมนูเครื่องดื่ม แน่นอนว่าคาเฟ่แห่งนี้ยังมีอาหารและขนมจากฟิลิปปินส์ให้เลือกสั่งหลายอย่าง อาทิ Pandesal ขนมปังฟิลิปปินส์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกส ซึ่งทางร้านอบใหม่ทุกวัน จำหน่ายแบบเซ็ต 2 ชิ้นพร้อมเครื่องดื่ม 1 แก้วในราคาเพียง 1,000 เยน

เอาเป็นว่าถ้ามาเที่ยวแถวรปปงงิซึ่งเต็มไปด้วยร้านแบรนด์หรูมากมายแล้วอยากหาคาเฟ่ราคาย่อมเยา KAPE TAYO TOKYO ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ตอนเดินเข้าร้านก็ลองทักทายพนักงานว่า “มาบูฮาย” 

08 Mēs by CBD(coffee) | MINATO

Mēs by CBD(coffee) ร้านใหม่ในย่านอาซาบุ-จูบัง (Asabu-Juban) ที่เชี่ยวชาญด้านกาแฟที่มีส่วนผสมของ CBD (สารสกัดกัญชา) เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2022 ภายในร้านมีสินค้า CBD จากทั่วทุกมุมโลกจำหน่ายมากกว่า 100 ตัว โดยได้รับใบอนุญาตให้ขายได้อย่างถูกต้อง ร้านจึงมีสถานะเป็นทั้งร้านขายยาและร้านกาแฟไปในตัว

ด้านในร้านมีโซนสำหรับนั่งชิลล์เป็นคาเฟ่ แต่รองรับลูกค้าได้สูงสุดเพียง 8 คนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโซนสำหรับสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกัญชาจากบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญ ด้านการออกแบบภายในเป็นสไตล์ Modern Zen ที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายไม่ว่าจะอยู่มุมใดของร้าน

เครื่องดื่มของที่นี่ไม่ว่าชา กาแฟ หรือสมูทตี้ก็จะหยด CBD ลงไปอย่าง Avocado Banana Smoothie (1,050 เยน) โดยสามารถเลือกปริมาณ CBD ได้ตามความชอบตั้งแต่ 5-30% ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามปริมาณ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าอยากดื่มแบบปราศจากกัญชาก็สามารถสั่งแบบสมูทตี้เพียวๆ ได้ เช่นกัน

ถือได้ว่า Mēs by CBD(coffee) นำเสนอร้านกาแฟในอีกรูปแบบหนึ่งได้อย่างน่าสนใจ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่อยากลองเครื่องดื่มแปลกใหม่และไม่ได้พบเจอบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน

09 ONIBUS COFFEE Jiyugaoka | MEGURO

ภาพ: Facebook Onibus Coffee Jiyugaoka

ปิดท้ายด้วย ONIBUS COFFEE ที่มีหลายสาขาในโตเกียว ซึ่งได้เปิดสาขา Jiyugaoka ขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2022 โดยสาขาอื่นๆ จะมีลักษณะเป็นร้านกาแฟสำหรับเทคอะเวย์ แต่สาขาในย่านจิยูกาโอกะแห่งนี้เป็นคาเฟ่เต็มรูปแบบซึ่งไม่ได้ขายแค่กาแฟ แต่มีขนมและอาหารที่จำหน่ายเฉพาะสาขานี้เท่านั้นอีกด้วย

ภาพ: onibuscoffee.com

บรรยากาศด้านใน ONIBUS COFFEE Jiyugaoka ไม่ว่าจะโทนสี การตกแต่ง หรือสไตล์เฟอร์นิเจอร์ต้องบอกว่าเรียบง่ายแต่ไม่น่าเบื่อ ให้อารมณ์บ้านในเดอะซิมส์

ภาพ: Facebook Onibus Coffee Jiyugaoka

Today’s Coffee (ปกติ 495 เยน, ใหญ่ 660 เยน) สามารถเลือกได้ทั้งแบบร้อนและเย็น โดยทางร้านจะเลือกใช้เมล็ดกาแฟประจำวันแบบ Single Origin ซึ่งมีหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นบราซิล ฮอนดูรัส รวันดา กัวเตมาลา เอธิโอเปีย ฯลฯ

ภาพ: onibuscoffee.com

Sourdough Bread Omelette (1,210 เยน) เมนูบรั้นช์ที่คิดสูตรโดยผู้จัดการสาขา ได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารเช้าควบกลางวันที่ชาวยุโรปนิยมรับประทาน โดยพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างมาก ไข่ก็จะเลือกใช้ไข่ไก่สายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ๆ ส่วนขนมปังก็ใช้ขนมปังที่ส่งตรงจากโรงงานขนมปังชื่อดังบนเกาะอิโตชิมะ (Itoman) จังหวัดฟุกุโอกะเลย สำหรับเมนูนี้สามารถสั่งได้เมื่อใช้บริการระหว่างเวลา 10 โมงถึงบ่าย 2 เท่านั้น

ภาพ: Facebook Onibus Coffee Jiyugaoka

หากติดใจกาแฟที่ร้านยังสามารถซื้อเมล็ดกาแฟชนิดต่างๆ ได้ที่นี่ มีให้เลือกขนาด 100 กรัม, 200 กรัม และ 500 กรัม ซึ่งถ้าหากต้องการให้ทางร้านบดเมล็ดกาแฟสำหรับจะไปใส่กระดาษกรองกาแฟหรือชงเป็นเอสเปรสโซ่ก็สามารถแจ้งพนักงานได้

จาก 9 ร้านกาแฟ เปิดใหม่ในโตเกียวปี ค.ศ. 2022 มีร้านไหนถูกใจกันบ้าง อย่าลืมลิสต์ไว้ไปทริปหน้าด้วย เพราะไปที่ร้านจริงๆ กับดูแค่รูปมันก็คนละฟีลกันอยู่แล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะถูกใจจนอยากกลับไปใช้บริการอีกหลายๆ ครั้งเลย