Menu
วันนี้เราคงไม่ได้มาพูดกันถึงประเภทของกล้องจุลทรรศน์ Microscope ที่ทุกๆคนสามารถอ่านกันได้ทั่วไปว่า กล้องมีอยู่สองประเภท แบบใช้แสงหรือแบบอิเล็กตรอน ดิจิตอลหรืออนาล็อค เพราะวันนี้ สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงนั้น ก็คือประเภทของกล้องจุลทรรศน์ในงานอุตสาหกรรมต่างๆมีอะไรบ้าง
Microscope ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ นั้นก็เพราะเพื่อจุดประสงค์หลักคือ การใช้เพื่อวัดขนาด (Measuring) ไม่ว่าจะเป็นขนาด กว้าง, ยาว, ส่วนโค้ง, มุม เพราะการวัดขนาดต่างๆของวัตถุที่มีขนาดเล็กอาจทำได้ยาก หรือมีต้นทุน เวลา ทรัพยากรต่างๆเพิ่มขึ้น
นั้นทำให้กล้องจุลทรรศน์ดิจิตอลตอบโจทย์ได้ดีกว่า และที่พิเศษกว่านั้นบันทึกรูป ที่มีการวัดแล้ว เพื่อใช้ในการสร้าง Report (Inspection sheet) ออกมาอีกด้วย
การตรวจสอบชิ้นงานวัตถุต่างๆ ในหลายๆครั้ง ความรวดเร็วในการตรวจสอบเรียกได้ว่าแทบจะเป็นหัวใจหลักของการตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ นั้นก็เพื่อเช็คตรวจสอบของ การ Defect ของชิ้น ชิ้นงานเหล็กมีรอยบิ่น พลาสติกที่ขึ้นรูปไม่สมบูนณ์ ซึ่งการตรวจสอบที่ไวขึ้น นั้นหมายถึง ลดระยะเวลาที่ต้องใช้และแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
ปล. หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า เราจะตรวจสอบให้เร็วขึ้นได้ยังไง ถ้าต้องมานั่งส่องทีละชิ้น 5555 แน่นอนว่า Digital Microscope นั้นหมายถึงเชื่อมต่อกับหน้าจอคอม Monitor Display ขนาดใหญ่ได้ เห็นกันชัดๆไปเลยๅ
การวิเคราะห์ข้อมูลจากรูปที่ทำการตรวจสอบ ที่มีทั้งการวัด การวิเคราะห์ Analysis ต่างๆ ข้อสำคัญอย่างนึงที่จะทำให้การวิเคราะห์สมบูรณ์มากที่สุดนั้นคือการใช้ กล้องจุลทรรศน์ที่มีความละเอียดสูง (และฟังชั่นต่างๆสำหรับการวิเคราหะ์ประเภทต่างๆ) และ Software ที่ใช้ในการทำงานก็สำคัญไม่แพ้กัน เหมือนการมีรถสปอร์ต แต่เติมน้ำมัน E20
วิเคราะห์ Volume และ Area
การวิเคราะห์ Contamination
Export เป็น Excel Report
Roughness ค่าความหยาบ
สำหรับการวิเคราหะ์ข้อมูล การวัด จากรูปที่ได้จากการตรวจสอบ หรือภาษาอังกฤษ เราเรียกกันว่า Image Processing อย่างเช่น Hirox 3D Microscope ที่นอกจากการใช้งานของกล้องจุลทรรศน์คุณภาพสูงปกติแล้ว ยังมีฟังชั่นอื่นเสริมเพิ่มเติมและทำงานควบคู่กับซอฟต์แวร์ของทาง Hirox เอง และนั้นทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานในฟังชั่น 3มิติได้ การตรวจสอบต่างๆ และการวิเคราะห์ต่างๆ เรียกได้ว่า All-in-one microscope สำหรับอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้
Digital marketing and Content designer of IKKI Thailand
ตลาดอุตสาหกรรม นับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆของประเทศ และการเข้าใจตลาดของอุตสาหกรรม ในทัศนคติของตัวผมเอง ผมมองคำว่า User Experience หรือ ประสบการ์ณการใช้งานของผู้ใช้งาน เป็นหัวใจหลักของการเข้าถึงตลาดอุตสาหกรรม
ในทุกๆครั้ง คำถามมากมายที่ผมมักถามตัวเองผมเองก่อนเสมอ… สินค้าจะไปเพิ่มอะไรในโรงงาน คุณภาพการผลิตเพิ่มขึ้นไหม ระบบการทำงานจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม ระบบการทำงานดีขึ้นไหม ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน…
ซึ่งการตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ อันดับแรก คือการมองเห็นศักยภาพของสินค้าของเรา หน้าที่เราจึงเป็นการที่เราจะต้องเข้าใจ ระบบการทำงานในโรงงานทั้งหมด ในสินค้าของเรา และการใช้งานของสินค้า เพื่อการมอบ User Experience ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า