วิธีการทำเทียนหอมจาก wax candles

  • by

“การทำเทียนหอมมีหลากหลายรูปแบบและหลายสูตรในการทำ โดยจุดประสงค์หลักของเทียนหอม คือการให้กลิ่นที่ผ่อนคลายและคุณประโยชน์จากเทียนหอมต่างๆ และกลิ่นที่เอกลักษณ์ที่เราผสมลงไปในเทียนหอม ทำให้มีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป จึงนิยมเป็นของใช้ภายในบ้าน และนิยมเป็นของขวัญสำหรับเทศกาล”

ประโยชน์ของการใช้เทียนหอม

1.ช่วยเรื่องนอนหลับ – เป็นบำบัดทางธรรมชาติที่กลิ่นช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสนิท

2.สร้างบรรยากาศ – กลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้สร้างความรู้สึกหรือบรรยากาศตามความต้องการได้และนิยมใช้ในสถานที่ต่างๆ เช่น สปา ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องประดับ หรือร้านอาหารระดับหรู

3.กระตุ้นความคิด – กลิ่นสามารถช่วยกระตุ้นความคิดและไอเดียในการทำงานหรือสิ่งใหม่ได้ ผู้คนจึงนิยมใช้เวลาต้องการไอเดียที่ดี

4.บรรเทาความเครียด – เทียนหอมสามารถช่วยลดความเครียดและทำให้จิตใจสงบลงได้ กลิ่นไปช่วยกระตุ้นสารเคมีในสมองเช่น เซโรโทนินและโดปามีนเพื่อรองรับอารมณ์เชิงบวก

5.สงบจิตใจ – กลิ่นจากเทียนหอมบางกลิ่น เช่น สมุนไพร ดอกไม้ มิ้นต์ และลาเวนเดอร์ มีประโยชน์ในการรักษาความผิดปกติทางจิตใจ และช่วยโรคซึมเศร้าได้ดี

ส่วนผสมเทียนหอม

1.Essential oil

2.ไส้เทียน

3.พาราฟินหรือแว๊กซ์ (สามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะผสมรวมกัน)

4.บรรจุภัณฑ์

5.สี (กรณีต้องการให้เทียนหอมมีสีสัน)

ปัจจัยหลักของการทำเทียนหอม wax candles เป็นตัวสำคัญที่จะสามารถบ่งบอกถึงคุณสมบัติที่ดีของเทียนหอมได้ และมีหลากหลายแบบให้เลือกและมีความแตกต่าง ที่นิยมใช้งานมีดังนี้

1.พาราฟิน ( Paraffin wax ) –  เป็นแว็กซ์ที่สกัดจากปิโตรเคมี นิยมใช้เป็นส่วนมากในการทำเทียน เพราะมีราคาถูกและหาง่าย นิยมมาทำเป็นเทียนพรรษา เทียนไหว้พระ แต่ข้อเสียทำให้เกิดควันดำและถ้าใช้ไปนานๆทำให้สะสมสารพิษในร่างกายได้

2.ไขถั่วเหลือง ( Soy wax ) – เป็นแว็กซ์ธรรมชาติที่สกัดจากนํ้ามันถั่วเหลือง ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมีควันน้อย มีราคาถูกเมื่อเทียบแว็กซ์ธรรมชาติตัวอื่น และนิยมใช้มากในปัจจุบัน มีการเผาไหม้ช้ากว่าพาราฟิน จึงทำให้เทียนอยู่ได้นานขึ้น

3.ไขขี้ผึ้ง ( Bees wax ) – สกัดไขออกจากรังผึ้ง ในธุรกิจการเลี้ยงผึ้ง เป็นแว็กซ์ที่มีมายาวนานที่สุดและดีต่อสุขภาพ มีความหอมหวานของไขขี้ผึ้งอยู้ในตัว ไม่มีควันดำและเขม่า และสามารถช่วยฟอกอากาศได้

4.ไขปาล์ม ( Palm wax ) – เป็นแว็กซ์ที่สกัดมาจากนํ้ามันปาล์ม มีความคล้ายคลึงกับไขถั่วเหลือง ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่มีสารพิษต่อร่างกาย มีกลิ่นอ่อนๆของปาล์ม มีควันน้อย มีการเผาไหม้ช้า ทำให้เทียนอยู่ได้นาน

5.เจล ( Gel wax ) – เป็นผสมระหว่างน้ำมันขาวกับเรซิ่นผงซึ่งเป็นสารประเภทโพลิเมอร์ เจลแว็กซ์มีความใส นิยมใช้เพื่อความสวยงาม เนื้อแว็กว์มีความยืดหยุ่นไม่แข็งตัว สามารถแต่งสีและกลิ่นได้

วิธีการทำ

วิธีการผสมมีหลายแบบ แต่ถ้าต้องการเน้นคุ้มค่า เราควรจะนำพาราฟิน ผสมกับ แว็กซ์ธรรมชาติตัวอื่นๆ เพื่อลดต้นทุนและทำให้เทียนหอมมีระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น เพราะถ้าใชพาราฟินอย่างเดียวผลลัพธ์ของเทียน ทำให้เทียนหมดเร็ว และถ้าใช้แว็กซ์ธรรมชาติตัวอื่นอย่างเดียวก็จะมีราคาที่สูงเกินขึ้นไป เราควรนำ 2 อย่างมาต้มผสมกันโดย ใช้แว็กซ์ธรรมชาติ 1-2% ของอัตราพาราฟิน และควรต้มในอุณหภูมิไม่เกิน 100 องศา ควรใช้ไฟอ่อน เพื่อลดปัญหาการไหม้ของพาราฟินหรือแว็กซ์ ต้มไปเรื่อยจนกว่าจะกลายเป็นของเหลว หลักจากนั้นเราควรใส่กลิ่นที่เราต้องการ ปริมาณที่แนะนำคือ 10% และควรใส่นํ้าหอมตอนอุหภูมิของแว็กซ์หรือพาราฟินที่ 50 องศา เพราะถ้าใส่ตอนอุณหภูมิสูงอาจจะทำให้กลิ่นหายได้ แล้วผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นเทใส่บรรจุภัณฑ์ที่เตรียมไว้ควรใส่ไส้เทียนก่อนเทียนเทลงภาชนะ ระหว่างรอเทียนแห้งควรหากระดาษแข็งหรือไม้มาคํ้าไส้เทียนเอาไว้ แล้วรอให้เทียนแห้งก็เสร็จเรียบร้อย

ไส้เทียน

โดยปกติจะมีแบบสำเร็จรูปจะมีแบบไส้เทียนด้ายและไส้เทียนไม้ ซึ่งความแตกต่างคือไส้เทียนไม้จะราคาสูงกว่าไม้เทียนด้าย ระยะเวลาในการจุดครั้งต่อไปของไส้เทียนไม้ก็จะจุดยากกว่าประมาณ 20 วินาที แต่ไส้เทียนด้ายสามารถจุดไฟภายใน 3 วินาที ข้อดีของไส้เทียนไม้ คือ การส่งกลิ่นหอมของเทียนได้ดีกว่าเนื่องจากอุณภูมิของไฟที่น้อยกว่าจะทำให้กลิ่นนํ้าหอมอยู่ได้นานกว่าเปลวไฟของไส้เทียนด้ายที่มีไฟแรงทำให้กลิ่นหายได้เร็ว

กรณีเราซื้อไส้เทียนแบบม้วนมาที่ยังไม่ได้เคลือบด้วยพาราฟินหรือแว็กซ์ เราควรนำพาราฟินหรือแว็กซ์ไปต้นให้ละลาย และนำด้ายลงไปชุบเพื่อเคลือบด้ายไว้ จะได้เป็นไส้เทียนที่เราต้องการและสามารถนำไปใช้ในการทำเทียนต่อไปได้

Image : www.home.kapook.com

วิธีการดูแลรักษาเทียนหอม

1.ควรให้ไส้เทียนยาวเหนือเทียนประมาณ 5-7 mm. อยู่เสมอ

2.ไม่ควรดับไฟด้วยการใช้เป่าเทียนให้ดับ ควรใช้ไม้กดโคนไส้เทียนให้จมลงไปแล้วนำขึ้นมาใหม่ ลดการเกิดควันและรักษาความยาวของไส้เทียน (กรณีไส้เทียนด้าย)

3.ควรจุดเทียนหอมประมาณ 1 ชม. เพื่อลดปัญหาการเกิดหลุดในเทียนหอมและยากต่อการจุดไฟในครั้งต่อไปและไม่ควรนานเกิน 4 ชม. เพราะอาจเกิดไฟไหม้ได้

4.ถ้าไส้เทียนสั้นเกินจนจุดไฟไม่ได้ ควรนำไดร์เป่าผมมาล้นหน้าเทียนให้ละลายแล้วเทนํ้าเทียนออก

5.ควรจุดในที่อากาศถ่ายเทได้ดี และไม่ควรมีลมแรงเกินไป

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.