ชายวัย 49 ร้องสื่อ ถูกหนุ่มใช้สนับมือต่อยหน้าแตก ด้านคู่กรณี อ้างใช้แค่สันหมัด

เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 6 โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่มาแล้วหวิดเฉี่ยวชนกัน ก่อนที่ฝ่ายหนึ่งจะเดินลงจากรถ และทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต่อมาคดีความไม่คืบหน้า หลังผ่านมานานเกือบ 1 เดือน ผู้เสียหายจึงกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

นายชะราวุฒ อายุ 49 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 11.30 น. ภายในซอยเพชรเกษม 58 ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์กลับห้องพัก พอมาถึงจุดเกิดเหตุ เป็นช่วงก่อนถึงทางโค้ง รถจักรยานยนต์ของคู่กรณีได้ขับสวนเลี้ยวโค้งมาแล้วกินเลนของตน ซึ่งตนเองกลัวจะชน จึงเบี่ยงหลบไปทางขวา เป็นจังหวะที่คู่กรณีเบี่ยงรถกลับเข้าเลน จึงทำให้หวิดจะเฉี่ยวชนกัน แต่พอตนขับรถผ่านไป คู่กรณีได้หยุดรถแล้วเดินลงมา ถามว่าตนปาดหน้าทำไม ก่อนจะกระชากคอเสื้อแล้วชกเข้าที่ใบหน้า แล้วก็หยิบสนับมือออกมาจากกระเป๋าแล้วชกซ้ำอีก จนตนนอนกระแทกไปกับพื้น ก็ยังโดนกระทืบซ้ำอีก ซึ่งท่าทางคู่กรณีคล้ายกับมีอาการเมาสุราด้วย ตนไม่คิดว่าจะมาโดนแบบนี้ ซึ่งคู่กรณีไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ไม่เคยเห็นหน้า ตนคิดว่าน่าจะคุยกันดีๆ ขับรถมาธรรมดา ไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน แต่หลังเกิดเรื่อง ได้รู้จากคนในละแวกนี้ว่า คู่กรณีเป็นขาใหญ่ในพื้นที่ ชาวบ้านบอกกันว่าอย่าไปมีเรื่องด้วย และยังมีคนพูดกันอีกว่า คู่กรณีเคยมีประวัติติดคุก แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า เป็นแผลต้องเย็บเกือบ 10 เข็ม และมีแผลที่ศีรษะ ตามองเห็นชัดน้อยลง และหลังเกิดเหตุเจ็บระบมมาก ทั้งนี้หลังตนไปแจ้งความที่ สน.ภาษีเจริญ ตนรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ช้ามาก บอกแต่ว่ากำลังทำงานอยู่ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า สุดท้ายตนกับภรรยาต้องไปหากล้องวงจรปิดมาเอง จนตอนนี้ผ่านมาเกือบจะ 1 เดือน คู่กรณีก็ยังไม่ได้มาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา จึงกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะรู้มาว่าคู่กรณีอาจจะมีอิทธิพลที่ทำให้ตำรวจเกรงใจด้วย


และล่าสุด คู่กรณีก็มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่ามาที่ สน.ภาษีเจริญ และเขียนแคปชันว่า “ก็แค่แวะมาคุยกับนายเฉยๆ อยากได้เงินก็ไปฟ้องเอา” ตนก็ไม่ทราบว่าคู่กรณีมาที่ สน. แล้วได้แจ้งข้อกล่าวหาหรือยัง เพราะตำรวจไม่ได้บอกอะไร บอกแต่ว่าให้รอคู่กรณีมาเซ็นรับทราบแล้วจะส่งศาล แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า


โดยตอนนี้ ตนและครอบครัว รู้สึกไม่ปลอดภัย ที่คู่กรณียังไม่ถูกดำเนินคดี เพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก บางวันก็มีคนมาขับรถจักรยานยนต์วนเวียนแถวห้องพัก พอไปบอกตำรวจให้ช่วย ก็ได้รับคำตอบว่า “เหตุยังไม่เกิด รอให้เกิดก่อน”


ผู้เสียหาย บอกอีกว่า ตนอยากให้คู่กรณีมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียเวลาที่ตนบาดเจ็บแล้วไม่สามารถทำงานได้ แต่หากไม่สามารถพูดคุยกันได้ ก็อยากให้ดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะดูแล้วคู่กรณีไม่ได้รู้สึกผิด และอาจจะไปก่อเหตุทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกได้


ขณะที่ผู้ก่อเหตุ คือนายโอ้ต เปิดใจว่า วันเกิดเหตุยอมรับว่ามีปากเสียงกับคู่กรณีจริง และเขายังด่าว่าตนขับรถยังไง ทำให้ตนรู้สึกโมโห จึงต่อยคู่กรณี ส่วนประเด็นที่ตนใช้สนับมือต่อยคู่กรณี ยืนยันว่าตนใช้สันหมัดต่อยเท่านั้น


ทั้งนี้ทีมข่าวได้ตรวจสอบเฟซบุ๊กของนายโอ้ต ที่ผู้เสียหายระบุว่ามีการโพสต์ในทำนองว่ามาหานายที่ สน.ภาษีเจริญ เมื่อวานนี้ พบว่าถูกลบไปแล้ว แต่เมื่อไปตรวจสอบวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นายโอ้ตได้โพสต์เฟซบุ๊กสั้น ๆ ว่า "กล้วย"


ขณะที่ พันตำรวจเอกชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผู้กำกับการ สน.ภาษีเจริญ เปิดเผยว่าได้ออกหมายเรียกนายโอ้ต มารับทราบข้อหาแล้ว คือทำร้ายร่างกาย พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เบื้องต้น นายโอ้ต ให้การปฏิเสธ


ส่วนประเด็นที่นายโอ้ต โพสต์ข้อความว่ารู้จักกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ สน.ภาษีเจริญ เป็นเรื่องของนายโอ้ต ที่จะโพสต์อะไรก็ได้ และขอย้ำว่าจะให้ความเป็นธรรมในคดีนี้อย่างถึงที่สุด

โดย nutda_t