ผ้าบาติกโบราณลายครุฑชมพฤกษา

กลุ่มงานศิลปหัตถกรรม ประเภทงานหัตถศิลป์ไทย

ผ้าบาติกโบราณลายครุฑชมพฤกษา สร้างสรรค์โดยกรรมวิธีแบบโบราณ โดยใช้แม่พิมพ์โลหะพิมพ์มือ ผสมการเขียน เพ้นท์ลาย โดยใช้พู่กันลงบนผืนผ้า ด้วยการนำลายครุฑ (Garuda) ซึ่งเป็นลายกลุ่มที่ไม่ใช่ลายเรขาคณิต แต่มีลายประดับตกแต่งที่มาจากธรรมชาติ และมีความหมายเชื่อมโยงกับความเชื่อของชาวชวา ประกอบด้วยปีกของครุฑ ซึ่งปีกทั้งสองข้างเรียกว่า sawat มีส่วนของตัวและหางครุฑอย่างสมบูรณ์ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชาย ความแข็งแกร่ง และต้นกำเนิดของชีวิต  ผสมผสานกับลายพรรณพฤกษาที่แสดงถึงความสุขและความอุดมสมบูรณ์

ประเภทงานหัตถกรรม :
เครื่องทอ
กลุ่มวัฒนธรรม :
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผู้สร้างสรรค์ :
ขนาด :
กว้าง 110 ซ.ม. ยาว 195 ซ.ม.
แหล่งที่มา :
ดาหลาบาติก ครูช่างธนินทร์ธร
วัสดุ :
ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด
อายุ/ปีที่ผลิต :
2562
รายละเอียดชิ้นงาน

เทคนิคที่ใช้ : กรรมวิธีแบบโบราณ โดยใช้แม่พิมพ์โลหะพิมพ์มือ ผสมการเขียน เพ้นท์ลาย โดยใช้พู่กันลงบนผืนผ้า
กรรมวิธีและขั้นตอนการทำงาน
1. ขั้นตอนการเตรียมผ้า : ในการทำผ้าบาติกสามารถเลือกใช้ได้ทั้งผ้าฝ้ายและผ้าไหม เมื่อเตรียมผ้าตามขนาดที่ต้องการแล้วนำไปซักด้วยผงซักฟอกหรือต้มด้วยน้ำโซดาอ่อน เพื่อให้แป้งที่เกาะผ้าอยู่หลุดออก จากนั้นนำไปตากแดดหรือผึ่งลมให้แห้ง และนำผ้ามาขึงบนแฟรมให้แน่น (ไม่ให้มีรอยย่น)
อุปกรณ์ : ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผงซักฟอก โซดาไฟ สบู่เทียม น้ำ หม้อต้ม

2. ขั้นตอนการพิมพ์ผ้า : ต้มเทียนให้ละลาย โดยน้ำเทียนที่ใช้กั้นผ้าเพื่อทำลวดลาย สูตรน้ำเทียนของดาหลาบาติกเป็นสูตรน้ำเทียนเฉพาะที่ส่งต่อจากบรรพบุรุษมามากกว่า 80 ปี  ประกอบด้วย “ยางสน” เพื่อความคงทน และเพื่อให้น้ำเทียนเกาะติดผ้าเวลาแช่ผ้าในน้ำ “พาราฟิน” เนื้อเทียนหลักสำหรับกั้นลายผ้า และ “ขี้ผึ้ง” เพื่อให้น้ำเทียนมีความเหนียวและอยู่ตัว  จากนั้นใช้แม่พิมพ์โลหะ (ทองแดงหรือทองเหลือง) จุ่มน้ำเทียนให้รอบกรอบแม่พิมพ์ สะบัดแม่พิมพ์อย่าให้น้ำเทียนชุ่มหรือเยอะเกินไป และนำแม่พิมพ์ที่จุ่มน้ำเทียนแล้วมาปั๊มหรือประทับลงบนผืนผ้าที่ขึงไว้ โดยการปั๊มแม่พิมพ์บนผืนผ้าแต่ละครั้งต้องให้ลายเสมอกันและต่อกันพอดีตลอดทั้งผืนผ้า

3. ขั้นตอนการลงสี : ก่อนการลงสีผ้าช่างต้องพิจารณาและเก็บรายละเอียดต่างๆ ก่อน เช่น รอยเทียนหยดส่วนเกิน รอยเทียนขาดหายตามลายพิมพ์ หากบนผ้ามีรอยเทียนหยดเกินต้องแก้ไขด้วยการนำน้ำอุ่นไปหยดและถูบริเวณนั้น หากบนผืนผ้ามีรอยพิมพ์ที่ขาดช่วงหรือมีรอยไม่ชัด ให้แก้ด้วยการใช้เทียนเหลวระบายซ่อมแซมรอย   หลังจากนั้นใช้น้ำเปล่าระบายหมาดๆ ลงบนผืนผ้าเพื่อช่วยให้เนื้อสีที่ลงไปทีหลังสามารถกลิ้งไปมาได้และดูเนียนตา จากนั้นระบายสีที่ต้องการลงบนผ้าและรอให้สีแห้งสนิท แล้วนำไปตากให้แห้งทั้งหมด จากนั้นนำผ้าที่ตากแห่งสนิทแล้วมาจุ่มโซเดียมซิลิเกต (น้ำยาเคลือบสี มีคุณสมบัติใช้ทาเคลือบผ้าบาติกและมัดย้อม ทำให้สีติดผ้าคงทน ไม่หลุดออก)  ให้ทั่วสีที่ลงบนผ้า แล้วพักไว้ประมาณ 3- 6 ชั่วโมง
 อุปกรณ์ : โครงไม้สำหรับขึงผ้า น้ำอุ่น โซเดียมซิลิเกต เทียนเหลว พู่กัน สี

4. ขั้นตอนการลอกเทียน : หลังจากทิ้งผ้าไว้ 3- 6 ชั่วโมง หลังจุ่มโซเดียมซิลิเกต นำผ้ามาล้างด้วยน้ำเปล่า จากนั้นต้มน้ำและผงซักฟอกให้เดือด แช่ผ้าลงไปและใช้ไม้คนให้ทั่วเพื่อให้เทียนหลุดออกจากผ้า จากนั้นนำผ้าที่ผ่านการต้มแล้วมาจุ่มน้ำเย็นพร้อมใช้มือขยี้เพื่อให้แน่ใจว่าเทียนลอกออกจากผ้าจนหมด หากเทียนยังหลุดออกจากผ้าไม่หมดให้นำมาต้มและล้างด้วยน้ำเน็นอีกครั้ง จากนั้นนำผ้าไปตากให้แห้งและนำไปตัดเย็บขอบผ้าให้เรียบร้อย

ข้อมูลแหล่งที่มา
แหล่งเรียนรู้งานศิลปหัตถกรรมที่เกี่ยวข้อง
ดาหลาบาติก ครูช่างธนินทร์ธร
ดูรายละเอียด