คู่มือ
ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) คืออะไร
คำจำกัดความ สูตร การคำนวณ และเคล็ดลับ
ผลตอบแทนการใช้จ่ายค่าโฆษณา (ROAS) เป็นเมทริกซ์การตลาดที่วัดผลแคมเปญโฆษณาหนึ่ง ๆ และผลกระทบที่แคมเปญนั้นมีต่อรายได้ การติดตาม ROAS สามารถเป็นข้อมูลช่วยบ่งบอกว่า แคมเปญการตลาดดิจิทัลกำลังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หรือมีด้านใดที่สามารถปรับให้เหมาะสมได้อีกหรือไม่
เริ่มใช้ Amazon Ads เพื่อแสดงสินค้าและสร้างแคมเปญของคุณ
หากคุณมีประสบการณ์จำกัด โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ
ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) คืออะไร
ROAS เป็นเมทริกซ์ที่แสดงประสิทธิภาพของแคมเปญการโฆษณาโดยการตรวจวัดรายได้เทียบกับการใช้จ่ายโฆษณา ROAS สามารถปรับใช้กับการตรวจวัดจำนวนใด ๆ เช่น แคมเปญแต่ละรายการที่ทำงานในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือการประเมินผลประจำปีของแคมเปญการโฆษณา
คุณสมบัติที่แตกต่างกันของ ROAS ซึ่งตรงกันข้ามกับการตรวจวัดอื่น ๆ อย่าง ROI หรือ ACOS โดยที่ ROAS จะวัดผลแคมเปญที่เฉพาะเจาะจงและวิธีการที่รอบนั้น ๆ ส่งผลต่อรายได้ในทางทฤษฎี การคำนวณ ROAS ของคุณสามารถช่วยให้ทราบว่าแคมเปญมีประสิทธิภาพเพียงใด และมีประโยชน์หรือไม่หากดำเนินการต่อ
คุณคำนวณผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) อย่างไร
การคำนวณ ROAS ทำได้อย่างง่ายดาย: สูตร ROAS คือจำนวนรายได้จากแคมเปญโฆษณา หารด้วยจำนวนเงินที่ใช้ในแคมเปญนั้น การติดตาม ROAS เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก (KPI) ที่สำคัญและสามารถเป็นข้อมูลช่วยบ่งบอกว่า แคมเปญการตลาดดิจิทัลกำลังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หรือโฆษณาหนึ่ง ๆ มีประสิทธิภาพตามความคาดหวังหรือไม่
ความแตกต่างของ ROAS กับ ROI คืออะไร
ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ROAS คือผลตอบแทนจากแคมเปญโฆษณาหนึ่ง ๆ ซึ่งหมายถึงการวัดผลการใช้จ่ายโฆษณาโดยตรงเทียบกับตัวเลขรายได้ที่กำหนดไว้ในช่วงเวลาเดียวกัน ความแตกต่างระหว่าง ROAS และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) คือการที่ ROI มีขอบเขตที่กว้างกว่าเล็กน้อย แม้ว่า ROAS จะมุ่งเน้นไปที่แคมเปญที่เฉพาะเจาะจง แต่ ROI จะคำนึงถึงการใช้จ่ายในการโฆษณาหรือค่าโฆษณาทั้งหมดมากกว่า ซึ่งอาจรวมถึงการนำตัวแทนหรือเสียงที่เฉพาะเจาะจงมาไว้สำหรับแผนการโฆษณา ทั้ง ROI และ ROAS คำนวณโดยการหารรายได้ด้วยการลงทุนหรือการใช้จ่ายโฆษณา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังคำนวณอะไร
ความแตกต่างของ ROAS กับ ACOS คืออะไร
อีกเมทริกซ์หนึ่งที่ใช้กันทั่วไปในโลกแห่งการโฆษณา คือค่าใช้จ่ายการโฆษณาและยอดขาย (ACOS) ROAS ระบุจำนวนเงินที่คุณสามารถคาดหวังรายได้จากแคมเปญโฆษณา และ ACOS ระบุเปอร์เซ็นต์ของการเพิ่มขึ้น ทั้งสองอย่างกำลังวัดผลลัพธ์เดียวกัน แต่การคำนวณทั้งสองอย่างแสดงข้อมูลในรูปแบบที่แตกต่างกันเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การพิจารณาทั้งสองวิธีอาจมีประโยชน์เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ครอบคลุมว่าแคมเปญโฆษณาของคุณทำงานอย่างไร
เหตุใด ROAS จึงมีความสำคัญ
ROAS มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่าแบรนด์ควรคาดหวังอะไรจากแคมเปญโฆษณา เป็น KPI ขั้นต้นที่สามารถช่วยแนะนำประสิทธิภาพของแคมเปญและกำหนดความคาดหวังสำหรับความสำเร็จของแคมเปญนั้น ในธุรกิจร้านค้าปลีกออนไลน์ การติดตาม ROAS สามารถช่วยปรับปรุงการดำเนินงานด้านการตลาดดิจิทัลและดูแลการใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ROAS ที่ประสบความสำเร็จคืออะไร
มีตัวแปรหลายตัวที่สามารถเข้ามามีบทบาทในการกำหนด ROAS และประสิทธิภาพ จึงเป็นการยากที่จะบอกว่าเกณฑ์มาตรฐานแห่งความสำเร็จนั้นเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม หากคุณดูตัวเลขที่ผลิต แบรนด์ต่าง ๆ ต้องการอัตราส่วนที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อัตราส่วน ROAS 2:1 ตามค่าประมาณโดยเฉลี่ย หมายความว่าแบรนด์หนึ่งทำเงินได้ $2 ต่อทุก ๆ $1 ของการใช้จ่ายโฆษณา ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในปัจจุบันเล็กน้อย1 อย่างไรก็ตาม ตามหลักการแล้ว แบรนด์ย่อมต้องการให้ ROAS สูงขึ้น โดยที่มีค่าเข้าใกล้ 3 หรือ 4
แบรนด์ 2 แบรนด์เพิ่ม ROAS ด้วย Amazon Ads อย่างไร
หาก ROAS ของคุณไม่ใช่ตำแหน่งที่คุณต้องการ ก็ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก การประเมินว่าการใช้จ่ายโฆษณาของคุณกำลังจะไปถึงจุดไหน มีประสิทธิภาพเพียงใด และคุณสามารถใช้แนวทางใดช่วยระบุได้ว่าปัญหาอยู่ที่จุดใด ในบางครั้ง การเปลี่ยนจุดมุ่งเน้นของคุณจากสินค้าที่หลากหลายให้เหลือเพียงสินค้าเดียวก็เป็นเรื่องง่าย หรืออาจเปลี่ยนกลยุทธ์ไปสู่แนวทางที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่ง ROAS ทำงานได้ดีอยู่แล้ว
การเปลี่ยน ROAS ของแบรนด์คุณไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนหรือแบบสุ่ม Amazon Ads มีเครื่องมือและบริการที่พร้อมช่วยให้แบรนด์ของคุณเข้าใจอุตสาหกรรม ลักษณะการทำงาน และโอกาสต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างของวิธีการที่แบรนด์ทั้งสองแบรนด์เพิ่ม ROAS ด้วยความช่วยเหลือของ Amazon Ads
กรณีศึกษา
Tinuiti บริษัทด้านการตลาดเพื่อประสิทธิภาพต้องการช่วยเร่งการเติบโตทางธุรกิจสำหรับ MidWest Homes for Pets ด้วยการใช้ Amazon Attribution ซึ่งบริษัทมีการนำเสนอสินค้าประเภทกรงสุนัข ระบบที่อยู่อาศัยแบบแยกส่วนสำหรับสัตว์ขนาดเล็ก และกรงนก รวมทั้งระบบล้อมเขตสำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องนอน และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วยการทำความเข้าใจว่าผู้เผยแพร่และหมวดหมู่สินค้าใดที่กระตุ้นยอดขายบน Amazon ได้มากที่สุด ตัวแทนจึงสามารถปรับแคมเปญที่ไม่ใช่ Amazon ของลูกค้าให้เหมาะสมและเสนอราคาประมูลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่างเช่น เมื่อตระหนักว่าหมวดหมู่ที่นอนสัตว์เลี้ยงทำกำไรได้มากที่สุด และผู้เผยแพร่รายใดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ตัวแทนก็สามารถปรับให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ของตนเพื่อมุ่งเน้นไปที่ช่องทางการขายและยุทธวิธีที่จะกระตุ้นให้เกิดคุณค่ากับลูกค้าของพวกเขาได้มากที่สุด Tinuiti สามารถสร้างมุมมองประสิทธิภาพแบบรวมศูนย์ได้โดยการประเมินเมทริกซ์ที่พบในคอนโซล ได้แก่ ยอดขายรวมบน Amazon จำนวนการเปิดดูหน้ารายละเอียดสินค้า และ "เพิ่มไปยังรถเข็น" ตามช่องทาง ร่วมกับเมทริกซ์ช่องทางที่ไม่ใช่ Amazon ของ MidWest Homes for Pets เช่น ยอดคลิก การใช้จ่ายโฆษณา และต้นทุนต่อคลิก (CPC) เมื่อดำเนินการดังกล่าวแล้วพบว่า MidWest Homes for Pets มี ROAS เพิ่มขึ้น 32% จากตำแหน่งโฆษณาที่มีการปรับให้เหมาะสมเหล่านั้น2
กรณีศึกษา
L'Oréal แบรนด์ความงามระดับโลก ต้องการทำทุกอย่างให้ตื่นตาตื่นใจ พวกเขากำลังเปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุดบน Amazon.co.uk และต้องการกระตุ้นการรับรู้และยอดขาย สินค้าใหม่ คือกลุ่ม Men’s Barber Club ซึ่งเป็นสินค้ากรูมมิ่งกลุ่มแรกของ L’Oréal ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความรู้และความชำนาญอย่างมากของช่างตัดแต่งทรงผมด้านการดูแลหนวดและเคราอย่างเชี่ยวชาญ
L’Oréal ได้ตัดสินใจจ้างตัวแทนของพวกเขา ซึ่งก็คือ iCrossing ให้มาช่วยในการกระตุ้นและชักนำทราฟฟิกให้แก่สินค้าใหม่นี้ L’Oréal ได้กำหนดวัตถุประสงค์สองข้อให้กับ iCrossing ดังนี้
- เพิ่มการรับรู้โดยการสร้างจำนวนการแสดงผลของโฆษณา 1 ล้านครั้งจากผู้ใช้ที่ยังไม่เคยมีส่วนร่วมกับกลุ่มสินค้า Barber Club
- กระตุ้นยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพโดยบรรลุเป้าหมาย ROAS ที่ 280%
ในการเพิ่มการรับรู้ iCrossing ได้จัดงบประมาณ 40% ไว้สำหรับ Sponsored Brands และตั้งราคาประมูลสูงสำหรับคำทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น "ที่กันหนวดเครา" Sponsored Brands สามารถปรากฏอย่างเด่นชัดที่ด้านบนสุดของหน้าผลลัพธ์ของ Amazon และกระตุ้นให้นักช้อปไปยังหน้าที่แสดงสินค้าของแบรนด์หรือร้านค้าของพวกเขา
ผลลัพธ์นั้นน่าประทับใจ เนื่องจากเปอร์เซ็นต์ที่มีนัยสำคัญของยอดขายโดยรวมสำหรับแคมเปญของ L’Oréal ในไตรมาสที่ 4 มาจากแคมเปญโฆษณา sponsored ของ Barber Club ROAS โดยรวมสำหรับแคมเปญยังทำได้เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 280% อีกด้วย
หากคุณมีประสบการณ์จำกัด โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย Amazon Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ
1 Nielsen, สหรัฐอเมริกา, Benchmarking Return on Ad Spend
2 ข้อมูลภายใน Amazon, สหรัฐอเมริกา, 2021
โซลูชันที่แนะนำ
สร้างโฆษณาแบบต้นทุนต่อคลิก เพื่อช่วยให้ลูกค้าพบสินค้าของคุณบน Amazon
ช่วยให้ลูกค้าค้นพบแบรนด์และสินค้าของคุณด้วยโฆษณาสร้างสรรค์ที่ปรากฏในหน้าผลการช้อปปิ้งที่เกี่ยวข้องบน Amazon
ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกและสัญญาณที่ปรับให้เหมาะสมกับประสบการณ์ของลูกค้า และผลักดันยอดขายให้กับแบรนด์ของคุณ