ยุคหนึ่งในอดีต เครื่องเล่นแผ่นเสียง ได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีการฟังเพลงของผู้คนอย่างมาก แทนที่จะออกไปฟังดนตรีสดที่ฟังได้เป็นครั้งคราว แค่เพียงมีเจ้าเครื่องนี้ ทุกคนก็สามารถเสพความสุนทรีย์อยู่ที่บ้านได้บ่อยขึ้น เครื่องเล่นแผ่นเสียงจึงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เรียกได้ว่า “บ้านไหนไม่มี บ้านนั้นเชย” ก็ว่าได้ แม้รูปแบบการฟังเพลงในปัจจุบันจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ความสุนทรีย์แบบคลาสสิกของเครื่องเล่นแผ่นเสียงยังคงทำให้ใครหลายคนหลงใหลไม่เสื่อมคลาย
เสน่ห์ของการฟังเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง ไม่ใช่เพียงแค่ได้ฟังเพลงที่เราชอบ แต่มันคือความสุนทรีย์ที่จับต้องได้ รวมถึงวิถี “สโลวไลฟ์” ที่ใครต่อใครถวิลหา เสน่ห์ที่ว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เลือกซื้อแผ่นเสียงในร้าน คือความสุขที่ได้พบงานศิลปะคูล ๆ บนปกของแผ่นเสียง บางคนอาจตกหลุมรักเมื่อแรกเห็นโดยที่ไม่รู้ว่าเพลงข้างในจะเพราะถูกใจหรือไม่ด้วยซ้ำ การได้สัมผัสผลงานของศิลปินที่เราชื่นชอบ มันให้คุณค่าทางจิตใจ เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่หาไม่ได้จากการฟังเพลงในแบบสตรีมมิง
ความสุนทรีย์จากการฟังเพลงด้วยเครื่องเล่นแผ่นเสียงของแต่ละคน "ไม่เหมือนกัน" บางคนชอบมวลเสียงที่กว้าง บางคนชอบความเป็นธรรมชาติของเครื่องดนตรี บางคนชอบเสียงกร็อบแกร็บ หรือเสียงนอยซ์สอดแทรกระหว่างบทเพลง
แผ่นเสียงบางแผ่นอาจไม่ได้ให้เสียงที่สมบูรณ์ที่สุด แต่หากเป็นเสียงที่มาเติมเต็มจิตใจก็นับว่าเป็นความสุนทรีย์อย่างหนึ่งแล้ว
ก่อนที่การฟังเพลงจะกลายมาเป็นเรื่องง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เครื่องเล่นแผ่นเสียง เคยมีวิวัฒนาการมาแล้วหลายยุคควบคู่กับพฤติกรรมการฟังเพลงที่แปลกใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงชวนให้ทุกคนมาย้อนอดีตของวิวัฒนาการเครื่องเล่นแผ่นเสียง 100 ปี ว่ามีเรื่องราวน่าสนใจอะไรบ้างที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมการฟังเพลงในปัจจุบัน
เครื่องเล่นแผ่นเสียง ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อไหร่ ?
ก่อนที่จะมีแผ่นเสียงและเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบที่มีแป้นหมุนอย่างที่ทุกคนเห็นในปัจจุบัน โฟโนกราฟ (Phonograph) เปิดตัวในปี 1877 เป็นเครื่องเล่นเสียงรุ่นแรก ที่ทำได้ทั้งบันทึกและเล่นกลับในเครื่องเดียว 10 ปีต่อมา โฟโนกราฟ ถูกต่อยอดและเรียกเป็นชื่อใหม่ว่า แกรโมโฟน (Gramophone) หรือหีบเสียง และตั้งแต่ปี 1940 เครื่องเล่นแผ่นเสียงในแบบที่ทุกคนรู้จักถูกเรียกว่า Record player มาจนถึงปัจจุบัน
เครื่องบันทึกเสียง เครื่องเล่นแผ่นเสียง
ใครเป็นผู้คิดค้น ?
หลายคนอาจเข้าใจว่าเครื่องเล่นแผ่นเสียงถูกผลิตขึ้นมาก่อน แต่ความจริงแล้วเครื่องบันทึกเสียงถูกคิดค้นขึ้นก่อนใครเพื่อน และถูกต่อยอดเทคโนโลยี จนกลายเป็นเครื่องบันทึกเสียงและเล่นเพลงในเครื่องเดียว
เสน่ห์ของเสียงเพลงที่เปิดจากเครื่องแกรมโมโฟน
เครื่องเล่นแผ่นเสียง
ถูกผลิตขายเป็นครั้งแรก
ก่อนที่วิทยุจะค่อย ๆ เข้ามาเปลี่ยนวิถีการฟังเพลงของคนในยุคนั้น เครื่องเล่นแผ่นเสียง (Record player) ได้ออกสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี 1895 ซึ่งมีกระแสตอบรับดีมาก ถึงแม้กระแสของเครื่องเล่นแผ่นเสียงจะซาลงในช่วง 30's และ 40's แต่วิทยุก็ไม่ได้ทำให้การฟังเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงดูล้าสมัยลงไปเลย เพราะยังขายดีในกลุ่มคนรักแผ่นเสียง แต่ก็ไม่ได้เป็นกระแสหลักเท่าที่ควร จนกระทั่งยี่สิบปีให้หลัง
60's และ 70's เครื่องเล่นแผ่นเสียง
กลับมาทวงบัลลังค์
ในช่วงต้นยุค 60's คือยุคทองของเครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่กลับมาทวงบัลลังค์อีกครั้ง หลังจากเปิดตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียงอัตโนมัติ ระบบเสียงสเตอริโอรุ่นแรก ด้วยระบบเสียง Hi-Fi (High Fidelity) ที่ขยายเสียงได้คมชัด ไพเราะ ไม่ผิดเพี้ยน เป็นจุดขายที่เรียกได้ว่า "ของมันต้องมี" ไว้ติดบ้าน ในช่วงนี้เองก็มีการเปิดตัวเครื่องเล่น Apollo Record Player รูปทรงอวกาศสมชื่อ มาพร้อมกับคอนโซลสเตอริโอไม้สุดคลาสสิก
เครื่องเล่นแผ่นเสียง Apollo Record Player ผลิตโดย Electrohome
"หีบเสียง" ความสุนทรีย์ในสยาม
หีบเสียง หรือโฟโนกราฟของเอดิสัน เข้ามาในประเทศสยามเมื่อปลายรัชกาลที่ 4 ซึ่งยุคนั้นนิยมใช้บันทึกเพลงไทยเดิม ต่อมาในรัชกาลที่ 5 เริ่มมีการบันทึกเสียงลง "แผ่นครั่ง" ส่วนใหญ่เป็น "เพลงเรื่อง" ที่บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ตามความนิยมของคนสมัยนั้น
หากใครที่สนใจความเป็นมาของเครื่องเล่นแผ่นเสียงในไทย สามารถเข้าไปชมและหาความรู้เพิ่มเติมได้ที่ "พิพิธภัณฑ์เครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงไทย" ซึ่งอยู่ในลาดพร้าว 43 ที่รวบรวมเครื่องเล่นกระบอกเสียงและหีบเสียงโบราณ แผ่นครั่ง และแผ่นเสียงต่าง ๆ ไว้มากมาย รวมถึงที่มาของการบันทึกเสียงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยคุณพฤฒิพล ประชุมผล หนึ่งในบุคคลที่หลงใหลของวินเทจ
เครื่องเล่นแผ่นเสียงกับดนตรีฮิปฮอป
ยุค 80’s และ 90’s ดีเจเพลงฮิปฮอปค้นพบเทคนิคใหม่ในการใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียง ด้วยการเชื่อมต่อกับเครื่องมิกซ์เสียงแล้วใช้มือเกาหรือถูกไถบนแผ่นเสียงไวนิลให้เป็นจังหวะ เรียกว่า การสแครชแผ่น (Scratching) เพื่อสร้างเสียงแปลก ๆ ได้ดนตรีสไตล์ใหม่ ๆ ซึ่งเทคนิคนี้เกิดขึ้นครั้งแรกที่บร็องซ์ ย่านกำเนิดเพลงฮิปฮอปในนครนิวยอร์ก โดยดีเจผิวสีที่ชื่อว่า “Grand Wizzard Theodore”
ทำไมแผ่นเสียงขายดีในยุคดิจิทัล
หลังจากที่ CD, MP3 ครองกระแสสำหรับคนชอบฟังเพลงมาหลายปี มาจนถึงมิวสิกสตรีมมิงในยุคดิจิทัลที่อะไรก็ง่ายและรวดเร็วไปหมด ผู้คนทั้ง "รุ่นเก๋า" และ "รุ่นใหม่" ต่างพากันโหยหาอดีต (Nostalgia) และการใช้ชีวิตที่ช้าลง ทำให้รสนิยมการฟังเพลงจากแผ่นเสียงฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ดูได้จากยอดขายแผ่นเสียงไวนิลในสหรัฐอเมริกาปี 2020 มียอดขายเพิ่มขึ้น 29% จากปี 2019 โตแซงหน้าแผ่นซีดีเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1986 ด้วยกระแสนี้ทำให้มีแผ่นเสียงของศิลปินดังหลายคนทั้งรุ่นใหม่และระดับตำนาน ต่างออกซิงเกิ้ลและ Remaster อัลบั้มในรูปแบบแผ่นเสียงไวนิล พร้อมงานปกที่สวยงาม น่าเก็บสะสม
นอกจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงจะให้ความบันเทิงในยุคดิจิทัลแล้ว ยังกลายเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านสุดคลาสสิกได้อีก สามารถติดตามผลงาน "เครื่องเล่นแผ่นเสียงฝีมือคนไทย" ได้ในรายการ "โรงเรียนนานาช่าง"