อุปกรณ์โทรคมนาคม

อุปกรณ์โทรคมนาคม

ความหมายของโทรคมนาคม
โทรคมนาคม (Telecommunications) เป็นการส่งสารสนเทศในรูปแบบของตัวอักษร ภาพและเสียงโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือการติดต่อสารจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งไปยังอกที่หนึ่งโดยใช้พลังงานไฟฟ้าให้ไหลไปตามสายเคเบิลทองแดง เคเบิลเส้นใยแสง หรือโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งสัญญาณไปในบรรยากาศ เช่นการส่งวิทยุ โทรทัศน์ การส่งคลื่นไมโครเวฟ และการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม โดยจุดที่ส่งข่าวสารกับจุดรับจะอยู่ห่างไกลกัน และข่าวสารที่ส่งจะเฉพาะเจาะจงผู้รับคนใดคนหนึ่งหรือส่งให้ผู้รับทั่วไปก็ได้
โทรคมนาคมเป็นการใช้สื่ออุปกรณ์รับไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร และโทรพิมพ์ เพื่อการสื่อสารในระยะไกล โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะแปลงข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ เช่น เสียงและภาพไปเป็นสัญญาณไฟฟ้า สัญญาณเหล่านี้จะถูกส่งไปโดยสื่อ เช่น สายโทรศัพท์ หรือคลื่นวิทยุเมื่อสัญญาณไปถึงจุดปลายทาง อุปกรณ์ด้านผู้รับจะรับและแปลงกลับสัญญาณไฟฟ้าเหลานี้ให้เป็นข้อมูลที่สามารถเข้าใจได้ เช่นเป็นเสียงทางโทรศัพท์ หรือภาพบนจอโทรทัศน์ หรือข้อความและภาพบนจอคอมพิวเตอร์ โทรคมนาคมจะช่วยให้บุคคลสามารถติดต่อสารกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ๆ ในโลกในรูปแบบของข่าวสาร ความรู้ และความบันเทิง

ประเภทของข้อมูล
ข้อมูลในการสื่อสารโทรคมนาคมสามารถแยกได้เป็น 4 ประเภท คือ
  1. ประเภทเสียง เช่น เสียงพูด เสียงดนตรี
  2. ประเภทตัวอักษร เช่นอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์
  3. ประเภทภาพ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
  4. ประเภทรวม เป็นการสื่อสารทั้งตัวอักขระ ภาพและเสียง

องค์ประกอบของการสื่อสารในระบบโทรคมนาคม
องค์ประกอบของการสื่อสารในระบบโทรคมนาคม แบ่งได้ 2 ส่วน ซึ่งทำหน้าที่ดังนี้
  1. สื่อ หรือ พาหะ เพื่อนำข่าวสารนั้นไปถึงกันโดยใช้เคลื่อนวิทยุที่มีความถี่สูงเป็น คลื่นพาห์ ช่วยนำสัญญาณทาง ไฟฟ้าที่ส่งมานั้นแพร่กระจายไปในบรรยากาศไปยังเครื่องรับได้โดยสะดวก
  2. เครื่องส่งและเครื่องรับ จุดส่งและจุดแต่ละจุดจะต้องมีเครื่องเข้ารหัส เพื่อเปลี่ยนข่าวสารนั้นให้เป็นสัญญาณทางไฟฟ้าเสียก่อน เพื่อฝากสัญญาณไปกับคลื่นพาห์ ด้วยการ กล้ำสัญญาณ โดยเครื่องมือที่เรียกว่า มอดูเลเตอร์ เมื่อสัญญาณนั้น
เสมือนเครื่องถ่ายสำเนาเอกสาร เพียงแต่ต้นฉบับที่ส่งมารนั้นอยู่ห่างไกลจากผู้รับโทรสารเป็นอุปกรณ์ที่นำมาใช้แทนเครื่องโทรสาร (phototelegraph) ที่เคยใช้ในการส่งภาพนิ่งมาแต่เดิม ซึ่งล้าสมัยไปแล้ว




ประเภทของสัญญาณ
สัญญาณแอนะล็อก(analog signal)
สัญญาณดิจิทัล(digital signal)



ตัวกลางหรือช่องทางการสื่อสาร
ช่องสื่อสาร(communication channels) หมายถึง รูปแบบใดๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการถ่ายทอดสัญญาณข้อมูลจากอุปกรณ์ตัวหนึ่งในระบบเครือข่ายไปยังอุปกรณ์อีกตัวหนึ่ง สื่อต่างๆ ที่ใช้ได้แก่ สายคู่บิดเกลียว สายโคแอ็กเซียล สายใยแก้วนำแสง สัญญาณไมโครเวฟ สัญญาณผ่านดาวเทียม และสัญญาณไร้สายแบบต่างๆ
สายคู่บิดเกลียว
สายคู่บิดเกลียว(twisted-pair wire) เป็นสายสื่อสารที่เก่าแก่ที่สุดประกอบด้วยลวดสายทองแดงหนึ่งคู่บิดเข้าด้วยกัน
ส่วนมากใช้เป็นสายโทรศัพท์สำหรับส่งสัญญาณแอนะล็อก แต่สามารถส่งสัญญาณดิจิทัลได้
มีความเร็วในการส่งข้อมูลต่ำ
สายโคแอ็กเซียล
สายโคแอ็กเซียล(coaxial cable) เป็นสายลวดทองแดงขนาดใหญ่มีฉนวนหุ้มหนากว่าปกติ ทำให้ถ่ายทอดสัญญาณได้สูงกว่าสายคู่บิดเกลียว
สายใยแก้วนำแสง
สายใยแก้วนำแสง(fiber-optic cable) ประกอบด้วยสายทำด้วยใยแก้หรือไฟเบอร์ขนาดเล็กมากมีฉนวนหุ้ม ข้อมูลจะถูกแปลงเป็นจังหวะกระพริบของแสงเพื่อส่งไปตามสายที่มีความถี่ในการส่งสูงมาก
ส่งข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก น้ำหนักเบา ทนทาน แต่ราคาสูง
การสื่อสารไร้สาย
การสื่อสารไร้สาย(wireless transmission) หมายถึงการส่งสัญญาณผ่านอากาศโดยไม่ต้องใช้สื่อใดๆ  ได้แก่การใช้สัญญาณไมโครเวฟ การส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม การใช้วิทยุติดตามตัว การใช้โทรศัพท์เซลล์ลูล่าร์หรือโทรศัพท์มือถือ
ระบบไมโครเวฟ(Microwave)
ส่งสัญญาณที่เป็นคลื่นวิทยุความถี่สูงผ่านชั้นบรรยากาศ เหมาะสำหรับการสื่อสารแบบจุดต่อจุด ส่งข้อมูลจำนวนมากจากสถานีหนึ่งไปยังสถานีปลายทาง ผ่านระยะทางไกลๆ โดยสัญญาณไมโครเวฟเดินทางเป็นเส้นตรงซึ่งส่งได้ไกลต่อจุดหนึ่งๆ ประมาณ 40-48 กิโลเมตร
ความเร็วในการถ่ายทอดข้อมูล
ปริมาณข้อมูลที่ส่งผ่านช่องสื่อสารใดๆ มีหน่วยวัดเป็น บิตต่อวินาที(bits per second : bps) ช่วงคลื่นสัญญาณที่รวมกันอยู่ในช่องสื่อสารหนึ่งช่อง เรียกว่า ความกว้างของช่องสื่อสาร(bandwidth) ช่วงคลื่นที่กว้างมากหมายถึงช่องสัญญาณที่กว้างมาก สามารถส่งข้อมูลปริมาณมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว
มัลติเพล็กเซอร์เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การใช้สื่อหรือช่องสื่อสารขนาดใหญ่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ระบบเครือข่ายสื่อสาร
Topology หมายถึงโครงสร้างของเครือข่าย แบ่งออกเป็น
1.    ระบบเครือข่ายดาว
2.    ระบบเครือข่ายบัส
3.    ระบบเครือข่ายวงแหวน

ระบบเครือข่ายแบบดาว(Star topology)
ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์แม่ข่าย(host computer) ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ และอุปกรณ์อื่นๆ เหมาะสำหรับงานที่ประมวลผลที่ศูนย์กลาง และมีบางส่วนที่ประมวลผลที่เครื่องผู้ใช้งาน
เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายจะควบคุมระบบสื่อสารทั้งหมด
Star Topology


ระบบเครือข่ายแบบบัส(Bus topology)
ระบบบัสเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดด้วยสายสื่อสารเพียงเส้นเดียว สัญญาณจะถูกส่งออกมาในลักษณะกระจาย(broadcast) ซึ่งจะถูกส่งออกไปในสายสัญญาณถึงอุปกรณ์ทุกตัว
ไม่มีอุปกรณ์ใดควบคุมระบบเลย มีข้อเสียคือถ้ามีอุปกรณ์จำนวนมากในเครือข่ายจะทำให้ระบบช้าลงมากเพราะจะเกิดการชนกันของข้อมูล(collision)
Bus Topology



ระบบเครือข่ายแบบวงแหวน(Ring topology)
มีลักษณะคล้ายกับระบบเครือข่ายแบบบัส คือไม่มีอุปกรณ์ตัวใดควบคุม
ความล้มเหลวของอุปกรณ์ตัวหนึ่งจะไม่มีผลกระทบกับอุปกรณ์ที่เหลืออยู่
อุปกรณ์แต่ละตัวสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ตัวอื่นได้
มีลักษณะการต่อเป็นวงกลม ข้อมูลในสายจะถูกส่งผ่านอุปกรณ์แต่ละตัวต่อๆ กันเป็นวงกลม
Ring Topology



PBX-- LAN--WAN
PBX(Private Branch Exchange) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับจัดการบริหารการเชื่อมต่อวงจรโทรศัพท์จากสายนอกเข้ากับสายโทรศัพท์ภายในองค์กรอย่างอัตโนมัติ
ระบบเครือข่ายเฉพาะที่(Local Area Network:LAN)เป็นระบบเครือข่ายบริเวณไม่กว้างมากนัก เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กและอุปกรณ์ต่อพ่วง และอุปกรณ์สื่อสารเข้าด้วยกันโดยมีช่องทางสื่อสารเป็นของตนเอง มีซอฟต์แวร์เครือข่ายเป็นของตนเองเฉพาะเรียกว่า NOS(Network Operating System)
ระบบเครือข่ายบริเวณกว้าง(Wide Area Network:WAN) เป็นระบบที่มีขอบเขตการใช้งานกว้างขวางมาก เช่นการเชื่อมต่อระบบระหว่างสาขาของธนาคาร เป็นต้น
บริการอื่นบนระบบเครือข่าย
Package Switching
Frame Relay
Integrated Services Digital Network : ISDN
DSL
Package Switching
การแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนเล็กๆ มีขนาดเท่ากันทั้งหมดเรียกว่า packet  แต่ละแพ็กเก็ตจะมีข้อมูลอยู่ และถูกส่งออกไปหลายๆ เส้นทางภายในอินเทอร์เน็ตจนกว่าจะถึงปลายทาง เมื่อถึงปลายทางแล้วจะมีซอฟต์แวร์ในการรวมแพ็กเก็ตต่างๆ เข้าด้วยกันเหมือนข้อมูลก่อนส่งทุกประการ

Frame Relay
เป็นบริการที่ใช้งานระบบเครือข่ายร่วมกันแบบหนึ่งที่มีความเร็วในการทำงานสูง  มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าระบบแพ็กเก็ตสวิตซ์ ส่วนมากมักจะใช้ร่วมกับสายใยแก้วนำแสง
ระบบนี้จัดข้อมูลเป็นขนาดเล็กๆ คล้ายแพ็กเก็ตแต่ไม่มีข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบขณะที่ส่งและแก้ไขข้อผิดพลาด
Integrated Services Digital Network : ISDN
มาตรฐานใหม่สำหรับการเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์ที่รวมให้บริการทั้ง เสียง ข้อมูล กราฟิก และวิดีโอ ในสายโทรศัพท์เดียงคู่สายเดียว
ระดับพื้นฐานสามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว 128 kbps
DSL
ระบบดีเอสแอล(Digital Subscriber Line : DSL) สามารถใช้สายโทรศัพท์ทั่วไปสำหรับการส่งข้อมูลจำนวนมากๆ ได้มีหลายประเภท เช่น ADSL,SDSL
เทคโนโลยีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์(electronic mail)
กรุ๊ปแวร์(groupware)
วอยซ์เมลล์(voice mail)
โทรสาร
ระบบให้บริการข้อมูลดิจิตอล(digital information services)
การประชุมทางไกลอิเล็กทรอนิกส์(videoconference)
ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออีดีไอ(electronic data interchange : EDI)
ระบบเครือข่ายองค์กรและการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่าย
ระบบการประมวลผลแบบ client/server system
Mobile user
PDA
การใช้ระบบเครือข่ายองค์กร(enterprise network) และการเชื่อมต่อระหว่างระบบเครือข่าย(internetwork) ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่างองค์กรต่างๆ ง่ายดายขึ้น นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนาดเล็กเข้าด้วยกันอย่างทั่วถึงทั้งองค์กร



รูปแบบการเชื่อมต่อสำหรับระบบเครือข่าย
ใช้มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เรียกว่าTCP/IP(TransmissioControlProtocol/Internet Protocol)
โครงสร้างของ TCP/IP แบ่งออกเป็น 5 ส่วนคือ
โปรแกรมประยุกต์
ทีซีพี
ไอพี
Network Interface
Physical Net

TCP/IP Protocol



บลูทูธ(Bluetooth)
บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารให้ความสนใจในการผลิตอุปกรณ์สื่อสารที่มีขนาดเล็ก ความเร็วสูง ไร้สาย สำหรับสถานที่ทำงาน สถานศึกษา และบ้านพักอาศัยทั่วไป
บลูทูธเป็นมาตรฐานในการสื่อสารแบบไร้สายระหว่างเครื่องโทรศัพท์มือถือ เพจเจอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือที่มีระยะทางห่างกันประมาณ 100  เมตรจากสถานีหลัก
อินเทอร์เน็ต(Internet)
เป็นระบบที่เชื่อมโยงเครือข่ายขนาดต่างๆ เข้าด้วยกัน มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในองค์กรและระหว่างองค์กรที่อยู่ห่างไกลกันเป็นพันๆ ไมล์ได้ 
อินเทอร์เน็ตจึงเป็นเทคโนโลยีหลักในการสร้างระบบเครือข่ายภายในองค์กรที่สนับสนุนการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การทำธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และองค์กรดิจิตอล
ปัจจุบันบุคคลทั่วไปมักจะใช้บริการไอเอสพี(Internet Service Provider : ISP) เพื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
ระบบอินเทอร์เน็ตมีรากฐานมาจากระบบรับ-ให้บริการ(Client/Server Technology)
ผู้ใช้บริการสามารถใช้โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์(web browser) เพื่อเรียกดูเว็บเพจ(web pages) และสามารถควบคุมการทำงานได้ด้วยตัวเอง
เซิอร์ฟเวอร์(server) หมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการข้อมูล ในองค์กรหนึ่งๆ อาจมีเครื่องเซิอร์ฟเวอร์มากกว่า 1 เครื่องก็ได้


บริการบนอินเทอร์เน็ต
ชื่อบริการ
งานที่ให้บริการ
อีเมลล์
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์
Usenet
กลุ่มสนทนาและกระดานอิเล็กทรอนิกส์
LISTSERVs
กลุ่มสนทนาและจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะกลุ่ม
Chatting
การสนทนาผ่านเน็ต
Telnet
การเข้าไปใช้บริการในเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น
FTP
การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล
Gopher
การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต
WWW
การท่องไปในอินเทอร์เน็ตโดยใช้ไฮเปอร์ลิงค์

เครือข่าย WWW
เครือข่าย WWW มีโครงสร้างแบบ client/server architecture ให้บริการข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หลายรูปแบบที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้
มีส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบกราฟิกที่น่าสนใจ และใช้งานง่าย
ใช้ภาษาเอชทีเอ็มแอล(Hypertext Markup Language : HTML) ในการเชื่อมโยงข้อมูลบนเว็บไซต์ต่างๆ
Homepage เป็นเว็บเพจหลักขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง โดยส่วนใหญ่จะนำเสนอข้อมูลที่องค์กรนั้นๆ ต้องการนำเสนอถึงผู้เข้าชม 
โฮมเพจจะเป็นประตูบ้านที่จะนำไปสู่เว็บเพจ(web pages)อื่นๆ ที่จะเก็บไว้ในเว็บไซต์(web site) ซึ่งจะมีผู้ดูแลคือ เว็บมาสเตอร์(web master)
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะต้องทราบที่อยู่ของเว็บไซต์ที่อยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า Uniform Resource Locator (URL)
http ย่อมาจาก hypertext transport protocol เป็นโพรโทคอลที่ใช้รับส่งข้อมูลเว็บเพจ
การสืบค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายเว็บ
Search engine เป็นเว็บไซต์ที่มีซอฟต์แวร์พิเศษที่ค้นหาเว็บไซต์ทีละแห่งหรือทีละกลุ่มเพื่อให้ตรงกับข้อกำหนด ตัวอย่างเช่น lycos, Altavista, go.com, google
เว็บไซต์บางแห่งให้บริการสืบค้นจาก search engine ต่างๆ หลายๆ แห่งซึ่งจะต้องมีซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการค้นหาเฉพาะ เว็บไซต์เหล่านั้นได้แก่ spiders, bots, และ web crawlers
Shopping bot เป็นโปรแกรมประเภท agents ที่ออกแบบมาช่วยเหลือผู้ที่ต้องการจะสั่งซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต เมื่อกำหนดคุณลักษณะสินค้าที่ต้องการแล้วโปรแกรมเหล่านี้จะทำหน้าที่ค้นหา เปรียบเทียบ แยกประเภท และสรุปรายการสินค้าหรือบริการให้โดยอัตโนมัติ ตัวอย่างโปรแกรมเหล่านี้ได้แก่
MySimon, BestWebBuys.com, Metaprices.com, AuctionBot
อินทราเน็ตและเอ็กซ์ทราเน็ต
เนื่องจากเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและเว็บมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพที่ดีมาก ดังนั้นจึงมีผู้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในองค์กร จึงเรียกการนำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมาใช้ในองค์กรนี้ว่า ระบบอินทราเน็ต(intranet)
อินทราเน็ต จึงเป็นระบบเครือข่ายภายในที่สามารถให้บริการได้ในทุกส่วนขององค์กร โดยใช้โครงข่ายแบบเดิมผนวกเข้ากับมาตรฐานการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต

Intranet
ระบบอินทราเน็ตเป็นระบบปิด ที่ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้งานได้โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นจึงมีการติดตั้งไฟร์วอลล์(Firewall) ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยของระบบภายในองค์กร
ไฟร์วอลล์ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ในการกั้นข้อมูลที่ไหลเข้าออกองค์กรโดยมีการกลั่นกรองก่อนเสมอ
Extranet หมายถึงระบบอินทราเน็ตที่เปิดกว้างไปสู่ระบบเครือข่ายภายนอก

Extranet



ระบบเว็บไร้สาย(wireless web)
ระบบเว็บไร้สายช่วยให้ผู้ที่ใช้อุปกรสื่อสารไร้สายสามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้ในทุกสถานที่ที่ต้องการ สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ได้หลายประเภท และทำให้เกิดบริการชนิดใหม่ที่เรียกว่า M-commerce
M-commerce
บริการบน m-commerce
การประยุกต์
บริการเกี่ยวกับข่าวสาร(information-based)
ให้บริการข่าวสารทั่วไป อีเมลล์ การค้นหาสถานบริการน้ำมัน โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร โดยใช้โทรศัพท์มือถือ หรือพีดีเอ
บริการเกี่ยวกับรายการทำงาน(transaction-based)
ให้บริการทำธุรกรรม เช่น การซื้อขายหุ้น ซื้อบัตรชมคอนเสิร์ต ค้นหาราคาสินค้า โอนเงิน
บริการส่วนบุคคล(Personalized services)
ให้บริการที่เฉพาะเจาะจงสำหรับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย

มาตรฐานสำหรับระบบเว็บไร้สาย
WAP (Wireless Application Protocol)
I-mode



WAP
เป็นระบบที่ประกอบด้วยโพรโทคอลและเทคโนโลยีที่ช่วยให้เซลล์สื่อสารไร้สายที่มีจอแสดงผลขนาดเล็กมามีการเชื่อมต่อผ่านช่องสัญญาณขนาดเล็ก และมีการเรียกใช้ข้อมูลและบริการจากฐานข้อมูลบนเว็บที่มีปริมาณไม่มากนัก
ใช้ภาษาควบคุมที่เรียกว่า (Wireless Markup Language : WML) ซึ่งมีพื้นฐานมากจากภาษา XML
I-mode
พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท NTT DoCoMo ของประเทศญี่ปุ่น
ใช้ภาษา HTML อย่างย่อๆ จึงง่ายต่อการใช้งานโดยทั่วไป
สื่อสารโดยใช้ระบบแพ็กเก็ตสวิตซ์ สามารถ online ได้ตลอดเวลา และแสดงผลได้หลายสีอีกด้วย

ประโยชน์
การเชื่อมต่อไปยังระบบเครือข่ายทั่วโลก
ลดค่าใช้จ่ายในการสื่อสาร
ลดค่าใช้จ่ายในการทำรายการธุรกรรม
ลดค่าใช้จ่ายในการตั้งตัวแทนองค์กร
ระบบมีความยืดหยุ่นสูงเหมาะแก่การใช้งาน
กระจายข่าวสารความรู้ได้อย่างรวดเร็ว
เทคโนโลยีที่สนับสนุนการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ซอฟต์แวร์สำหรับเซิอร์ฟเวอร์ และเซิอร์ฟเวอร์
ซอฟต์แวร์สำหรับการติดตามลูกค้าและการปรับแต่งให้เหมาะกับลูกค้า
ซอฟต์แวร์สำหรับการบริหารจัดการข้อมูลในเว็บ
ซอฟต์แวร์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บ

บริการเว็บโฮสติ้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น